ฤดูฝนย่างเข้ามา เรียกได้ว่าเป็นช่วงเวลาที่คนรักรถต้องพบกับความปวดหัวเป็นอย่างมาก กับสถานการณ์ที่เพิ่งล้างรถมาใหม่ไม่กี่ชั่วโมง แต่ฝนเจ้ากรรมดันเทลงมาซะอย่างนั้น ทำให้รถสวยที่ขัดล้างมาอย่างดี สวยสะอาดได้อยู่แป๊บเดียว ยิ่งต้องขับรถออกไปนอกบ้าน มีทั้งโคลน ทั้งน้ำฝนที่ชะล้างมาสู่ผิวถนน สร้างรอยคราบกระดำกระด่างติดตามรถเต็มไปหมด หลายคนเลยคิดว่า การล้างรถหน้าฝน นั้นไม่จำเป็นที่จะต้องทำ ปล่อยให้เลอะแบบนั้นไปก่อน มีจังหวะดี ๆ แล้วค่อยล้าง
แต่ในความเป็นจริงแล้ว การล้างรถหน้าฝน ยังคงมีความจำเป็นอย่างมาก แม้ว่าบทลงเอยของการล้างรถจะจบลงที่การขับรถไปกลางสายฝนก็ตาม แต่การล้างรถยังคงมีความสำคัญต่อตัวรถเป็นอยู่ดี รู้ใจจะพามาดูกันว่า มีเหตุผลอะไรที่คนรักรถยังคงต้องหมั่นล้างรถในฤดูแห่งสายฝนนี้ อะไรคือข้อดี ? ของการยังคงรักษาสภาพการดูแลรถด้วยการล้างรถในยามหน้าฝนเช่นนี้
4 เหตุผลที่การล้างรถหน้าฝน มีประโยชน์มากกว่าที่คิด
เพราะน้ำฝนมีอะไรมากกว่าที่เราคิด ดังนั้น การล้างรถหน้าฝนจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ยังคงต้องดูแลรถคันโปรดของเราเป็นอย่างดีไม่ต่างอะไรกับฤดูกาลอื่น ๆ มาดูกันว่า 4 เหตุผลสำคัญที่เรายังคงต้องรักษาการล้างรถเอาไว้ในช่วงฤดูฝนนั้นมีอะไรบ้าง
1. ฤทธิ์ของน้ำฝนมีผลกับสีรถรุนแรง
เนื่องจากว่า ฝนที่ตกลงมาจากฟ้าจะผ่านกระบวนการการปนเปื้อนจากสิ่งต่าง ๆ ระหว่างกลั่นตัวลงมาเป็นหยาดฝนจนตกสู่พื้น ยิ่งในปัจจุบันปัญหาเรื่องของมลภาวะที่มีอากาศเสียจากการเผาไหม้ต่าง ๆ ยิ่งทำให้น้ำฝนมีฤทธิ์ “เป็นกรด” หรือ “ด่าง” สูงในบางครั้ง เพราะฉะนั้นถ้าเราปล่อยให้คราบน้ำฝนตกค้างอยู่บนตัวรถของเรา น้ำฝนจะทำให้เกิดภาวะการกัดกร่อนในส่วนของวัสดุโลหะ ทำให้เกิดสนิมขึ้นมาได้ง่าย รวมไปถึงสร้างความหม่นหม่องให้กับสีรถ ไม่เงา สดใส เหมือนอย่างเคย
2. คราบน้ำ ตัวการสร้างรอยด่างบนรถคันสวย
หลักจากที่ฝนหยุดตกแล้ว หยดน้ำต่าง ๆ ที่เกาะบนตัวถังรถจะกลายเป็นจุดสะสมสิ่งสกปรกชั้นดี รวมไปถึงน้ำฝนที่เปรอะเปื้อนจากดิน โคลน ผิวถนนที่รถขับผ่าน จนฝนตกกระเซ็นมาโดนตัวถัง ทิ้งเป็นคราบเอาไว้ทั้งในบริเวณที่มองเห็น และตามซอกมุมต่าง ๆ ของตัวรถ การที่เราไม่จัดการล้างรถหลังจากฝนตก คราบเหล่านี้ก็จะแห้งกรังเป็นคราบฝุ่น คราบโคลนเกาะแห้งติดตัวถังรถ ทิ้งไว้นานไปก็ย่อมทำลายสีผิวของรถ หรือก่อให้เกิดปัญหาสนิมขึ้นตามซอกรถได้
3. โคลน จากคราบล้างง่าย กลายเป็นปัญหาใหญ่ เมื่อปล่อยให้ติดกับตัวรถ
อีกหนึ่งปัญหาสำคัญที่คุณจะได้พบอยู่เสมอในการขับรถหน้าฝน นั่นคือเศษโคลนที่กระเด็นขึ้นมาติดตามกระบังล้อ และช่วงล่างของตัวถังรถ ซึ่งในช่วงแรกของการเกาะติดนั้น เรายังคงสามารถใช้น้ำฉีดล้างออกมาได้โดยง่าย แต่ถ้าเราปล่อยให้คราบเหล่านั้นสะสมตัวพอกพูนไปนาน ๆ ย่อมทำให้การล้างเช็ดเป็นไปด้วยความยากลำบาก อีกทั้งยังส่งผลถึงสีรถและตัวถังรถที่จะหลุดลอก เกิดเป็นรอยด่าง และอาจถึงขั้นส่งผลให้ช่วงล่างของรถผุกร่อนเร็วขึ้น
4. เศษใบไม้เมื่อรวมกับน้ำฝน ปัญหาที่ไม่อาจมองข้าม
อีกหนึ่งปัญหาบังตาที่คนขับรถส่วนใหญ่มักมองไม่เห็น นั่นคือ ใบไม้ที่ปลิวมาติดกับตัวถังรถขณะฝนตก โดนเฉพาะกลุ่มใบไม้ขนาดเล็ก เช่น ใบก้ามปู ใบมะขาม ที่เป็นไม้ใหญ่ที่มักปลูกตามสถานที่ต่าง ๆ พอฝนตกปุ๊บก็มักทิ้งใบตกลงมาใส่รถของเรา
ทางออกของคนจำนวนมากคือ ทิ้งมันไว้อย่างนั้นและขับรถออกไปทันที ซึ่งถ้าเป็นการขับรถกลางสายฝน น้ำฝนก็อาจช่วยชำระล้างออกไปได้ แต่ถ้าเกิดเป็นภาวะฝนทิ้งช่วงแล้วปล่อยให้เศษใบไม้ยังติดอยู่ตามตัวถังรถคงไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่ เพราะเมื่อใดที่ใบไม้แห้งติดตัวถังรถไปแล้วจะเป็นคราบฝังแน่นที่ล้างออกยากมาก
นี่ยังไม่รวมไปถึงสารแทนนิน สารละลายสีน้ำตาลที่เกิดจากการแช่น้ำของใบไม้ จะทิ้งคราบสีน้ำตาลฝังแน่นบนตัวถังรถของเรา ทำให้ล้างออกยากมากหรือที่แย่กว่านั้นคือล้างไม่ออกเลย ดังนั้น ถ้าเราเห็นใบไม้เล็ก ๆ ตกปกคลุมรถในฤดูฝน การรีบล้างรถคือเรื่องที่จำเป็นมากที่สุดก่อนใบไม้เหล่านี้จะแห้งและกลายเป็นคราบฝั่งแน่นเกาะติดรถเสียก่อน
ข้อแนะนำสำหรับการ ล้างรถหน้าฝน ที่คนรักรถพึงปฏิบัติ
เมื่อเราเห็นแล้วว่าการทิ้งรถให้ตากฝนหรือขับรถเปียกฝน มองว่า ไม่เป็นไร ไม่ต้องล้าง เพราะเดี๋ยวก็เปียกอีกครั้ง เป็นเรื่องที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง การล้างรถหน้าฝน ยังคงเป็นเรื่องที่ต้องทำกันเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ มาดูกันดีกว่าว่าหลักการล้างรถในช่วงหน้าฝน มีอะไรที่เราต้องใส่ใจเป็นพิเศษบ้าง
• ล้างรถทันทีทุกครั้งหลังฝนตก
ทุกครั้งหลังฝนตกควรทำการล้างรถเพื่อให้สิ่งสกปรกต่าง ๆ หลุดออกจากตัวถังโดยไว รวมไปถึงการปรับสภาพพื้นผิวที่ถูกน้ำในที่อาจมีฤทธิ์เป็นกรดหรือด่างสูงให้กลับมามีสภาวะปกติ และถ้าล้างไปแล้วเจอฝนตกอีกครั้ง และคุณยังไม่ได้ขับรถออกไปไหน การฉีดน้ำล้างตัวถังรถอย่างรวดเร็วเป็นเรื่องที่ควรทำอย่างยิ่ง ไม่จำเป็นต้องลงแชมพูล้างรถก็ได้ขอเพียงแค่คุณควรรีบจัดการกับคราบน้ำ คราบโคลนต่าง ๆ ให้หลุดออกจากตัวถังรถอย่างรวดเร็วที่สุด
• ใช้เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง ล้างรถ ฉีดล้างช่วงล่างและซุ้มล้ออยู่เสมอ
ซุ้มล้อบังโคลนคือแหล่งสะสมของคราบโคลนที่จะค่อย ๆ เกาะแน่น และพอกพูนจนกลายเป็นคราบดินแข็งล้างออกยาก รวมไปถึงช่วงล่างและตัวถังรถที่มักจะถูกโคลนกระเด็นใส่เป็นประจำและไม่ถูกทำความสะอาด
การล้างด้วยวิธีการปกติอาจไม่เพียงพอสำหรับส่วนที่ว่า การใช้น้ำแรงดันสูงจะช่วยทำให้คราบฝังแน่นเหล่านี้หลุดออกมาได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะในจุดที่เราไม่สามารถเอื้อมมือเข้าไปขัดถูได้ง่าย น้ำแรงดันสูงสามารถทำงานแทนเราได้เป็นอย่างดี
• วิธีล้างรถที่ถูกต้อง ต้องเริ่มจากบนลงล่าง
ในการล้างรถช่วงฝนตก ควรฉีดน้ำไล่ลงมาจากข้างบนลงไปสู่ข้างล่าง เพราะว่าจะทำให้การดูแลความสะอาดทำได้ง่าย และพื้นที่ตัวถังช่วงล่างจะได้รับการหล่อน้ำอยู่เสมอซึ่งช่วยให้คราบฝังแน่นหลุดออกได้ง่ายกว่า และที่สำคัญถ้าคุณล้างรถจากส่วนล่างก่อน น้ำจากการล้างก็จะกระเด็นกลับไปเกาะติดเป็นคราบรถคุณอยู่ดีเมื่อขึ้นไปล้างส่วนบน
• ควรล้างรถเป็นประจำตามรอบการดูแลเสมอ
แม้ว่าฝนจะตกหนักมาก ตกทุกวัน แต่คุณก็ยังต้องรักษาวงรอบการล้างรถเอาไว้ไม่ให้ขาด อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้งดีที่สุด เพื่อการตรวจเช็ก บำรุงรักษา และลง Wax เคลือบรถให้เงางามและช่วยปกป้องสีรถ เพราะการลง Wax เป็นประจำ จะทำให้คราบฝังแน่นต่าง ๆ เกาะติดตัวถังรถได้ยากขึ้น และแน่นอนว่าทำให้การทำความสะอาดสามารถทำได้ง่ายขึ้นตาม
กับเวลาที่แสนไม่เป็นใจ อุตส่าห์ล้างรถมาซะสวย แต่กลับต้องมาเจอน้ำฝนทำให้รถเลอะอีกครั้ง การตัดสินใจไม่ล้างรถยามฤดูฝน คือการปล่อยปละละเลยให้รถของคุณต้องหมองคล้ำ ไม่สวยสดใสอย่างที่ควรจะเป็น และเป็นการทำร้ายรถของคุณได้ง่าย ๆ การล้างรถหน้าฝนบวกกับเพิ่มความพิถีพิถันเข้าไป คือเรื่องจำเป็นที่จะทำให้รถคันเก่งของคุณ สะอาด เงางาม แถมยังยืดอายุการใช้งานรถของคุณไปได้อีกด้วย เช่นเดียวกับประกันรถยนต์ที่คุณควรมีไว้เพื่อช่วยคุ้มครองค่าใช้จ่าย กรณีเกิดเหตุไม่คาดคิดต่าง ๆ และที่รู้ใจ เรามีประกันรถยนต์ออนไลน์ ที่ซื้อง่ายใน 3 นาที บริการรู้ใจกว่า ราคาประหยัดกว่า สูงสุดถึง 30% เลือกผ่อนผ่านบัตรเดบิตได้ถึง 10 งวดอีกด้วย สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารและโปรโมชั่นใหม่ ๆ ของเราได้ทาง FB Fan page: Roojai หรือ คลิก add Official Line ของเราไว้ได้เลย