หลายครั้งที่ได้ยินข่าวบ่อย ๆ เกี่ยวกับอุบัติเหตุไฟไหม้รถยนต์ ที่เกิดจากสาเหตุที่แตกต่างกันออกไป เช่น รถยนต์ไม่ได้มาตรฐาน สภาพอากาศที่ค่อนข้างร้อน หรือแม้กระทั่งลืมขวดน้ำไว้บนรถ แล้วสถานการณ์นี้เกิดจากสาเหตุไฟไหม้ยังไงบ้าง รู้ใจแชร์ 8 สาเหตุส่วนใหญ่ที่ทำให้ไฟไหม้รถยนต์ และวิธีการป้องกันไม่ให้ไฟไหม้รถยนต์ที่เราทำได้ด้วยตัวเองอีกด้วย ดังนี้
- 8 สาเหตุส่วนใหญ่ที่ทำให้ไฟไหม้รถยนต์
- วิธีการป้องกันไฟไหม้รถที่ทำได้ด้วยตัวเอง
1. ระบบเชื้อเพลิงรั่วซึม
การรั่วซึมของระบบเชื้อเพลิงของรถยนต์ นับเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดไฟไหม้มากที่สุด เนื่องจากน้ำมันเชื้อเพลิงมีจุดเผาไหม้ค่อนข้างต่ำ เมื่อเกิดการรั่วซึมออกมา แน่นอนว่าย่อมส่งผลกระทบต่อเครื่องยนต์ที่เกิดความร้อน เมื่อเกิดประกายไฟเพียงแค่เล็กน้อย แต่สามารถทำให้ไฟไหม้ได้ง่าย ๆ เลย
2. ของเหลวภายในรั่วไหล
ของเหลวภายในรถยนต์ ส่วนใหญ่มักมีจุดเผาไหม้ค่อนข้างต่ำเหมือนกับระบบเชื้อเพลิง ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันเกียร์ น้ำมันเครื่อง น้ำมันเบรค และอื่น ๆ เมื่อเกิดการรั่วไหล/รั่วซึมออกมา มักส่งผลกระทบต่อเครื่องยนต์อื่น ๆ ที่กำลังทำงานอยู่ และแน่นอนว่าเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟไหม้ได้เช่นกัน
3. เครื่องยนต์โอเวอร์ฮีทเนื่องจากทำงานหนัก
เครื่องยนต์โอเวอร์ฮีท คือ เครื่องยนต์ร้อนเกินระดับการใช้งานปกติ คูลแลนด์หรือน้ำที่เป็นของเหลวในระบบหล่อเย็นมีอุณหภูมิสูง ส่งผลให้เครื่องยนต์ทำงานผิดปกติ นอกจากนี้ยังอาจมีปัจจัยอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น น้ำยาหล่อเย็นหมด, ระบายความร้อนไม่ทัน เป็นชนวนเหตุที่ทำให้เครื่องโอเวอร์ฮีทจนติดไฟได้นั่นเอง
4. ตัวกรองก๊าซพิษท่อไอเสียอุดตัน
ตัวกรองก๊าซพิษไอเสีย เมื่อเราใช้ไปนาน ๆ ย่อมเกิดการอุดตันเป็นเรื่องปกติ หากไม่ดูแลหรือแก้ไขให้ดี จะทำให้ระดับอุณหภูมิสูงขึ้นผิดปกติ ชนิดที่ว่าสูงถึงพันองศากันเลยทีเดียว ยิ่งไปกว่านั้นหากมีเศษใบไม้ เศษกระดาษ หรืออื่น ๆ ที่สามารถติดไฟได้ง่าย เมื่อไปสัมผัสกับตัวกรองอาจทำให้เป็นสาเหตุไฟไหม้รถยนต์ และลุกลามไปยังบริเวณอื่น ๆ ของตัวรถอย่างรวดเร็ว
5. สิ่งของในรถลุกไหม้
สิ่งของต่าง ๆ ภายในรถ อาจเป็นสาเหตุไฟไหม้ได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นพาวเวอร์แบงค์ ขวดน้ำ แว่นตา หรืออื่น ๆ หากลืมทิ้งไว้ในรถ ประกอบกับจอดรถไว้กลางแดดจ้าอาจเสี่ยงทำให้เกิดอุบัติเหตุไฟไหม้รถยนต์ได้ นอกจากนี้ยังมีน้ำหอมที่มีปริมาณแอลกอฮอล์สูง มีจุดเผาไหม้ต่ำ เป็นอีกหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟไหม้ได้เช่นกัน
6. รถเกิดอุบัติเหตุ
แม้ว่ารถยนต์รุ่นใหม่ ๆ ในปัจจุบัน จะได้รับการออกแบบให้สามารถปกป้องเครื่องยนต์ แบตเตอรี่ และถังน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นอย่างดี แต่ถ้าหากเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงอาจทำให้ของเหลวต่าง ๆ ภายในรถรั่วไหลออกมา จนทำให้เกิดไฟไหม้ได้ เช่น อุบัติเหตุรถชนกับรถยนต์คันใหญ่ เป็นต้น ซึ่งเมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น รู้มั้ยว่าสิ่งสำคัญที่สุดเมื่อเกิดอุบัติเหตุรถไฟไหม้คือข้อใด? สิ่งสำคัญเมื่อรถไฟไหม้คือ “ตั้งสติ” ดูรอบตัวและประเมินว่าสามารถดับหรือมีวิธีที่ทำให้ไฟไม่ลุกลามได้หรือไม่ หากไม่ได้หรือตกใจจนทำอะไรไม่ถูก ให้ออกจากรถให้ไวและไกลที่สุด
7. แบตเตอรี่ของรถยนต์ไฟฟ้า และรถยนต์ไฮบริด
แม้ว่าในปัจจุบันบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าหลายเจ้า จะเคลมเรื่องความปลอดภัยมากเป็นพิเศษ แต่ก็ยังมีข่าวคราวรถไฟฟ้าไฟไหม้ออกมาให้เห็นบ้าง ซึ่งสาเหตุหลัก ๆ ไม่ใช่เพราะแบตเตอรี่ไม่มีคุณภาพ แต่เป็นเพราะน้ำยาหล่อเย็นที่รั่วออกมาจากหม้อน้ำ เมื่อทำปฏิกิริยากับแบตเตอรี่ที่ชำรุดเสียหาย เมื่อเกิดประกายไฟเสี่ยงก่อให้เกิดไฟไหม้ได้
8. ระบบไฟฟ้าลัดวงจร
กรณีที่ระบบไฟฟ้าทำงานผิดพลาด/ลัดวงจร นับเป็นอีกหนึ่งสาเหตุหลัก ที่ทำให้เกิดไฟไหม้รถยนต์ได้เช่นกัน โดยเฉพาะสาเหตุจากการชำรุด หรือการหลุดหลวมของสายไฟภายในรถยนต์ เมื่อเกิดการช็อตหรือมีประกายไฟ จนเกิดเป็นเหตุไฟไหม้รถในที่สุด
ก่อนจากกัน รู้ใจขอแชร์ทริคดี ๆ ในการป้องกันรถไฟไหม้ เพราะนอกจากการรับรู้สาเหตุแล้ว วิธีการป้องกันไฟไหม้รถที่ทำได้ด้วยตัวเองก็เป็นสิ่งสำคัญ ตรวจเช็คกันสักหน่อย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ร้ายแรงย่างไฟไหม้รถกับรถยนต์ของคุณ โดยวิธีป้องกันมีดังนี้
- ตรวจสอบท่อน้ำมันเชื้อเพลิง
แนะนำให้ตรวจสอบท่อน้ำมันเชื้อเพลิง ว่ามีสิ่งแปลกปลอมเข้าไปอุดตันหรือไม่ เนื่องจากบริเวณนี้ เป็นบริเวณที่สามารถเกิดความร้อนสูงมาก ด้วยอุณหภูมิที่สูงเกินไปเมื่อเจอกับสิ่งแปลกปลอมอาจทำให้ติดไฟได้ง่าย ในท่อน้ำมันเชื้อเพลิงไม่ควรมีสิ่งแปลกปลอมปะปนอยู่แม้แต่ชิ้นเดียว นอกจากนี้ยังควรเช็คว่าน้ำมันเชื้อเพลิงหมดเร็วผิดปกติหรือไม่ หากแป๊บ ๆ น้ำมันหมดถัง ให้ตรวจสอบการรั่วซึมทันที เพราะการรั่วซึมอาจทำให้เกิดเพลิงไหม้ได้เช่นกัน
- ตรวจสอบของเหลว
การที่ของเหลวภายในเครื่องยนต์เกิดการรั่วซึม/รั่วไหลออกมา มักเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้รถยนต์เกิดไฟไหม้ได้ ดังนั้นควรตรวจเช็คให้ดี หากเป็นน้ำมันเชื้อเพลิงจะมีกลิ่นที่ค่อนข้างชัดเจน สังเกตได้ไม่ยาก เมื่อได้กลิ่นเมื่อไหร่ขึ้นมาควรรีบจอดรถและดับรถทันที เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำมันที่รั่วซึมไปสัมผัสกับเครื่องยนต์ที่มีอุณหภูมิสูง
- ตรวจสอบเขม่าบนฝากระโปรงรถ
ฝากระโปรงรถเป็นบริเวณที่มีเครื่องยนต์อยู่มาก แนะนำให้ตรวจเช็คว่าบริเวณดังกล่าวมีคราบเขม่าติดอยู่มั้ย “หากพบว่ามีเขม่าคือเครื่องยนต์จุดใดจุดหนึ่งกำลังเกิดปัญหา” ให้รีบเข้าศูนย์เพื่อตรวจสอบทันที
- ตรวจสอบและเติมน้ำภายในหม้อน้ำ
หากหม้อน้ำมีน้ำน้อยเกินไป อาจทำให้เครื่องยนต์ร้อนง่าย รวมถึงทำให้ติดไฟได้ง่ายเช่นกัน แนะนำให้เติมน้ำลงในหม้อน้ำในระดับที่เหมาะสมอยู่เสมอ
- ซื้อประกันคุ้มครองรถไฟไหม้
ความคุ้มครองประกันรถยนต์ที่ให้ความคุ้มครองไฟไหม้รถ เป็นวิธีที่ช่วยลดความเสี่ยงทางการเงินได้ การที่รถยนต์ไฟไหม้อาจเกิดขึ้นได้นอกเหนือจาก 8 สาเหตุหลัก ๆ นี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่คาดคิด การทำประกันรถยนต์ก็ยังมีคนช่วยชดเชยค่าเสียหายเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน
ทั้ง 8 ประเด็นที่รู้ใจรวบรวมมาให้เมื่อข้างต้น เป็นสาเหตุเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น จริง ๆ แล้วยังมีสาเหตุอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น เครื่องยนต์ขาดการดูแล, การผลิต/ออกแบบที่ผิดพลาด, แคทฯ ตันจนเกิดความร้อนสูง ฯลฯ ที่ทำให้รถยนต์ของคุณไฟไหม้ได้เช่นกัน ดังนั้นควรหมั่นตรวจเช็คสภาพรถ ให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์อยู่เสมอ เพื่อป้องกันการเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน และเกิดความเสียหายที่รุนแรงขึ้น
สามารถติดตามข่าวสาร สาระความรู้เกี่ยวกับสุขภาพ รถยนต์ มอเตอร์ไซค์ รวมถึงประกันภัยออนไลน์ต่าง ๆ จากรู้ใจได้ที่ Facebook Page: Roojai หรือคลิกที่นี่เพื่อเพิ่มเราเป็นเพื่อนใน LINE ได้เลย (Official Line ID: @roojai)