ปัจจุบันร้านล้างรถหรือ ร้านคาร์แคร์ ที่บ้านเราเรียกกันมีให้บริการทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นตามท้องถนน ปั๊มน้ำมัน หรือแม้กระทั่งห้างสรรพสินค้า ซึ่งช่วยมอบความสะดวกสบายในการดูแลรักษารถยนต์และช่วยให้ประหยัดเวลาได้ค่อนข้างมากเลยทีเดียวสำหรับคนรักรถที่ไม่สะดวกล้างรถด้วยตัวเอง โดยแต่ละแห่งก็จะมีการดูแลรักษารถยนต์ ทำความสะอาดที่แตกต่างกันออกไป รวมถึงในเรื่องค่าใช้จ่ายด้วยเช่นกัน
ค่าใช้จ่ายในร้านคาร์แคร์ อยู่ที่เท่าไร ?
ร้านคาร์แคร์ในปัจจุบันไม่ใช่เพียงแค่ล้างรถแล้วจบไปเท่านั้น แต่ยังสมชื่อในเรื่องการดูแลรักษารถยนต์อย่างถึงที่สุด มีบริการเสริมอื่น ๆ ที่ “คนรักรถ” จำเป็นจะต้องเลือกใช้บริการหลายระดับ เพื่อให้การดูแลรักษารถยนต์ของคุณสมบูรณ์แบบที่สุด
- รถเก๋งขนาดเล็ก บริการล้างรถดูดฝุ่น 120 บาท / ล้างอัดฉีด (เคลือบเงาเครื่อง) 160 บาท
- รถเก๋งขนาดใหญ่/กระบะแค็บ บริการล้างรถดูดฝุ่น 140 บาท / ล้างอัดฉีด (เคลือบเงาเครื่อง) 180 บาท
- รถยนต์ 4 ประตู บริการล้างรถดูดฝุ่น 160 บาท / ล้างอัดฉีด (เคลือบเงาเครื่อง) 200 บาท
- รถยนต์อเนกประสงค์ขนาดใหญ่ MVP บริการล้างรถดูดฝุ่น 180 บาท / ล้างอัดฉีด (เคลือบเงาเครื่อง) 220 บาท
- รถตู้ บริการล้างรถดูดฝุ่น 200 บาท / ล้างอัดฉีด 240 บาท
“ราคา” บริการล้างรถดูดฝุ่นส่วนใหญ่จะเป็นราคาพื้นฐานในร้านล้างรถหรือร้านคาร์แคร์ทั่วไป ซึ่งอาจจะถูกกว่าหรือแพงกว่าขึ้นอยู่คาร์แคร์ผู้ให้บริการด้วย และจะเป็นราคาที่คิดกันตามประเภทรถยนต์(ขนาดรถ) โดยเริ่มตั้งแต่ 100 บาท ไปจนถึง 200 บาท และก็ยังขึ้นอยู่กับเทคนิคการล้างรถ เครื่องมือ อุปกรณ์ รวมถึงน้ำยาในการทำความสะอาดต่าง ๆ หากเปรียบเทียบโดยรวมแล้ว ถือว่าเป็นราคาที่คุ้มค่า ไม่แพงจนเกินไปเมื่อเทียบกันการที่คุณต้องเสียเวลาล้างรถเอง ใช้อุปกรณ์ตัวเอง รวมไปถึงความเหนื่อยล้าหลังจากการล้าง บริการล้างรถในคาร์แคร์นี่แหละคือทางออกที่จะช่วยให้รถของคุณกลับมาสะอาดดูดีขึ้นมากที่สุด
ข้อควรระวังก่อนนำรถเข้าคาร์แคร์ มีอะไรบ้าง ?
แม้ว่าการนำรถเข้าคาร์แคร์จะช่วยในเรื่องของความสะดวกสบาย เหมาะสำหรับคนที่ไม่ต้องการก้ม ๆ เงย ๆ ล้างรถของตัวเอง แต่คุณรู้หรือไม่ว่าการนำรถเข้าคาร์แคร์นั้นยังมี “ข้อควรระวัง” ด้วยเช่นกัน อะไรบ้างที่ต้องรู้ตามไปดูกันเลยกับ 7 ข้อต่อไปนี้
- ก่อนนำรถยนต์เข้าไปใช้บริการที่ร้านล้างรถ (คาร์แคร์) ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนก็ตาม ให้เก็บทรัพย์สินและของมีค่าต่าง ๆ รวมถึงเอกสารสำคัญออกจากตัวรถให้หมด
- ไม่ควรเปลี่ยนร้านล้างรถบ่อย ๆ ควรเลือกใช้บริการเฉพาะกับร้านที่ไว้ใจได้ รวมถึงคอยสังเกตรถยนต์ของตัวเองให้ดีในระหว่างล้าง ไม่ควรทิ้งรถไว้เลยหากเป็นคาร์แคร์ร้านใหม่ที่คุณไม่เคยไปใช้บริการมาก่อน
- การใช้บริการคาร์แคร์มักต้องฝากกุญแจเอาไว้เสมอ หากรถยนต์ของคุณเป็นกุญแจรีโมท แนะนำให้นำกุญแจสำรองที่เป็นลูกกุญแจฝากไว้จะดีกว่า เพราะถ้าหากพนักงานตุกติก นำกุญแจรถไปปั๊มก็จะทำได้แค่กุญแจสำรองเท่านั้น
- หากเข้าใช้คาร์แคร์ที่อยู่ในห้าง และคุณไม่ได้อยู่เฝ้ารถ หากมีคนมาขอใบรับรถจากคุณ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด ๆ ก็ตาม ไม่ควรให้ “เด็ดขาด” เพราะอาจจะเป็นกลลวงของมิจฉาชีพได้อีกทางหนึ่ง
- หากนำรถไปใช้บริการแบบที่ใช้เวลาไม่นาน อาทิ ล้างรถ หรือดูดฝุ่นทั่วไป แนะนำให้นั่งรออยู่ที่คาร์แคร์เลย เพื่อป้องกันการถูกโจรกรรมจากการแอบอ้าง
- หากจำเป็นต้องมีการเคลื่อนย้ายรถ เป็นไปได้ควรทำด้วยตัวเอง แต่ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ควรกำชับพนักงานว่า “ให้ระวังเป็นพิเศษ” พร้อมกับจับตามองตลอด เพราะอาจจะเกิดเหตุการณ์เฉี่ยวชนกับคันอื่น ๆ ได้
- เมื่อถึงเวลารับรถ แนะนำให้ตรวจเช็คดูสภาพรถโดยรอบคัน เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีริ้วรอย หรือความเสียหายใด ๆ ระหว่างที่รถยังอยู่ในคาร์แคร์
จะเห็นได้ว่าเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย ที่เรานำมาบอกต่อคุณในวันนี้ ถือเป็นข้อที่หลายคนมักมองข้ามอยู่บ่อย ๆ ซึ่งถ้าหากคุณเป็นคนที่รักรถจริง ๆ บอกเลยว่าอย่าละเลยทั้ง 7 ข้อเมื่อสักครู่เด็ดขาด ไม่อย่างนั้นรถยนต์คู่ใจของคุณอาจจะเกิดความเสียหาย หรือสูญหายก็เป็นได้
นำรถยนต์เข้าคาร์แคร์ดีกว่าล้างรถเองอย่างไร ?
การเลือกใช้บริการคาร์แคร์ “อย่างน้อย” เดือนละ 1 ครั้ง ในช่วงที่ไม่ค่อยมีเวลา หรือในช่วงฤดูฝน แถมยังต้องการการบริการแบบจัดเต็ม หรือเรียกง่าย ๆ ว่า “มากกว่าการล้างรถธรรมดา” อาทิ ตรวจเช็คระบบต่าง ๆ การขัดเคลือบเงา และอื่น ๆ ล้วนมีข้อดีและข้อเสีย ดังนี้
- ข้อดีของการล้างรถที่คาร์แคร์
แน่นอนว่าเครื่องไม้เครื่องมือของร้านคาร์แคร์ ย่อมพร้อมกว่าการล้างเองที่บ้านมากกว่า จึงสามารถล้างได้สะอาด รวดเร็ว และประหยัดเวลาได้ค่อนข้างมาก แถมผู้ให้บริการก็มีความเป็นมืออาชีพ ทำให้คุณเจียดนำรถเข้าไปล้างที่คาร์แคร์ได้อย่างอุ่นใจ หายห่วง และสามารถช่วยชุบชีวิตสีรถของคุณให้กลับมาดูดีสดใสได้มากขึ้นตามลำดับขั้นของการให้บริการ
- ข้อสังเกตหากนำรถเข้าคาร์แคร์
เพราะการนำรถเข้าคาร์แคร์คือการ “ใช้บริการ” อีกรูปแบบหนึ่ง แน่นอนว่าจะต้องมีค่าใช้จ่ายตามมาด้วยเช่นกัน ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะอยู่ที่หลักร้อย ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น ประเภทรถ ประเภทการใช้บริการ และอื่น ๆ รวมถึงยังมีความเสี่ยงในเรื่องของ “พนักงานชุ่ย” ล้างไม่สะอาด และเสี่ยงต่อการเกิดทรัพย์สินสูญหายหรือเสียหายได้
ดูแลรักษารถยนต์ ด้วยการล้างรถควรทำบ่อยแค่ไหน ?
สำหรับคนที่เพิ่งซื้อรถใหม่ แต่ยังไม่รู้วิธีการดูแลรักษารถยนต์ ว่าควรจะเช็ดล้างปัดถูตอนไหน เวลาใดบ้าง เพราะฉะนั้นเราจึงได้รวบรวมรายละเอียดมาให้คุณทำความเข้าใจแล้ว บอกเลยว่าช่วยให้รถยนต์คู่ใจของคุณสะอาดเอี่ยมไปเลย!
- การล้างทำความสะอาดภายนอกรถยนต์ ควรทำสัปดาห์ละ 2 ครั้ง หรือตอนที่รู้สึกว่ารถยนต์ของคุณสกปรกมากเกินไป
- การทำความสะอาดภายใน ควรทำสัปดาห์ละ 1 ครั้ง หรือตอนที่รู้สึกว่ารถยนต์ของคุณสกปรกมากเกินไป
- การลงแว็กซ์เคลือบสี แนะนำให้ทำ “ทุกครั้ง” หลังล้างสีรถ ปกป้องสี และความเงางาม
- Detailing เคลือบแก้ว ควรทำปีละ 2 ครั้ง เพื่อดูแลสภาพสีรถ ป้องกันการเกิดรอยขีดข่วน หรือรอยขนแมว
การดูแลรักษารถยนต์ แนะนำให้ทำแบบพอดี อย่ามากเกินไปหรือน้อยเกินไป ไม่อย่างนั้นอาจจะส่งผลเสียต่อรถยนต์คู่ใจของคุณได้ ซึ่งถ้าหากคุณไม่มีความรู้ความเข้าใจในส่วนนี้ สามารถให้ผู้เชี่ยวชาญต่าง ๆ ตรวจสอบ และแนะนำการดูแลเพิ่มเติมได้ โดยเฉพาะการนำรถเข้าคาร์แคร์ แต่ถ้าหากกังวลว่ารถจะเกิดความเสียหาย “ประกันรถยนต์” คือตัวช่วยที่ทำให้คุณอุ่นใจได้
หลายคนมีประกันรถยนต์อยู่แล้ว แต่รู้มั้ย รู้ใจ ประกันออนไลน์ ทำไมถึงดีกว่า?
“รู้ใจ” คือผู้ให้บริการประกันภัยรถยนต์ “อันดับหนึ่ง” ด้วยการพัฒนาระบบคำนวณเบี้ยประกันรถที่เป็นธรรม เพื่อให้คุณหรือลูกค้าคนอื่น ๆ จ่ายเบี้ยประกันรถยนต์ในราคาที่ถูกกว่า ที่นี่กล้ารับประกันราคาดีที่สุด ยืนดีคืนเงิน 100% หากคุณพบเจอที่อื่นที่ถูกกว่าภายใต้เงื่อนไขกรมธรรม์เดียวกัน
มากกว่าแค่ประกันรถ แต่คือการดูแล
เพราะรู้ใจใส่ใจเพื่อให้บริการอย่างดีที่สุด แม้ว่าจะเป็นช่วงเวลาฉุกเฉิน ก็พร้อมให้ความช่วยเหลือคุณ “ภายใน 30 นาที” เพื่อให้คุณได้รับบริการอย่างรวดเร็วทันใจ และไม่ต้องกังวลกับสถานการณ์ตรงหน้าเพียงลำพัง ด้วยประกันรถยนต์ที่คุ้มค่าที่สุด แต่ถ้าหากคุณยังมองภาพไม่ออก เราได้ลิสต์ข้อดีมาให้คุณ ดังนี้
- มีประกันรถยนต์ทุกประเภทให้เลือกได้ตามใจ แถมราคาไม่แพง สามารถเช็คเบี้ยประกันผ่านเว็บได้ทันที
- ชำระเงินได้หลากหลายช่องทาง อาทิ บัตรเครดิต บัตรเดบิต โอนเงินผ่านอินเทอร์เน็ต Banking แถมยังสามารถ “ผ่อน” นานสุด 10 งวดอีกด้วย
- คุณจะได้รับตารางกรมธรรม์ภายใน 14 วันทำการ พร้อมส่งต่อประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยม ทั้งด้านการให้บริการและประสบการณ์ด้านการเคลม
- ติดต่อง่าย ๆ ผ่านหลายช่องทาง เช่น โทรศัพท์ เว็บไซต์ และแอปพลิเคชัน
- เช็คข้อมูลความคุ้มครองในกรมธรรม์ที่มีอยู่ผ่านแอปได้ตลอดเวลา ไม่ต้องพกเอกสาร
การนำรถไปใช้บริการคาร์แคร์ ถือว่าตอบโจทย์คนใช้รถที่ไม่ค่อยมีเวลา แต่ไม่อยากให้รถเลอะ หรือต้องการดูแลในเรื่องอื่น ๆ แบบครบ จบในที่เดียว แต่ถ้าคุณเป็นคนที่รักรถจ๋า กลัวว่าใครจะทำมารถพัง เป็นรอย หรือเกิดอุบัติเหตุไม่คาดฝันต่าง ๆ อย่าลืมเรียกใช้บริการ รู้ใจ ประกันออนไลน์ เพราะเราพร้อมดูแล และแคร์คุณอย่างสุดความสามารถ
สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารและโปรโมชั่นใหม่ ๆ จากรู้ใจได้ทาง FB Fan page: Roojai หรือ คลิกที่นี่ เพื่อเพิ่มเราเป็นเพื่อนใน Line ไว้ได้เลย