เชื่อว่ายังมีผู้ใช้รถอีกหลายคนที่ไม่ทราบว่า ขี้เกลือที่เกิดขึ้นกับแบตเตอรี่เป็นอย่างไร และเกิดขึ้นตรงไหนและถ้าเกิดขึ้นจะส่งผลกระทบยังไงบ้าง วันนี้ Roojai.com มีคำอธิบายในส่วนของสาเหตุ รวมไปถึงวิธีแก้และแนวทางป้องกันมาแนะนำ
สำหรับขี้เกลือที่แบตเตอรี่รถยนต์ เกิดขึ้นได้จากสาเหตุของการทำปฏิกิริยาทางเคมีของน้ำกรดในแบตเตอรี่ ที่ระเหยออกมาทำปฏิกิริยากับอากาศ เนื่องจากเติมน้ำกลั่นมากเกินไป ขันขั้วไม่แน่น หรือแบตเตอรี่มีรอยแตก อีกทั้งยังสามารถเกิดขึ้นได้ในแบตเตอรี่ทุกๆ ประเภท ไม่ว่าจะเป็นแบตเตอรี่น้ำ กึ่งแห้งหรือแบตเตอรี่แห้ง
ลักษณะของขี้เกลือที่เกิดกับแบตเตอรี่รถยนต์ นั้นเป็นผงแป้งสีฟ้าหรือสีขาว โดยขึ้นบริเวณขั้วแบตเตอรี่หรือที่รัดแบตเตอรี่ บางกรณีก็เกิดขึ้นได้บริเวณฐานรองแบตเตอรี่ที่เป็นเหล็ก เป็นสาเหตุทำให้ไฟจากแบตเตอรี่ไหลผ่านไม่สะดวก และยิ่งมีขี้เกลือขึ้นมากเท่าไร การเคลื่อนของกระแสไฟก็ยิ่งถูกขัดขวางมากขึ้นเท่านั้น ส่งผลเสียให้รถสตาร์ทยาก ไดชาร์จชาร์จไฟเข้าแบตเตอรี่ได้น้อย และแบตเตอรี่จ่ายไฟได้ไม่สม่ำเสมอ
การทำความสะอาดขี้เกลือ สามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยตัวคุณเอง โดยใช้น้ำร้อนเทราดบริเวณที่มีขี้เกลือเกาะอยู่ ซึ่งน้ำร้อนจะช่วยละลายคราบขี้เกลือที่เกาะฝังแน่นอยู่ตามส่วนต่างๆ และควรให้ใช้ผ้ารองเพื่อคอยซับน้ำไว้ ไม่ให้ไปโดนส่วนอื่น เนื่องจากรถบางรุ่นน้ำอาจจะเข้าไปขังตรงถาดรองแบตเตอรี่ได้ ส่วนขี้เกลือที่ขั้วแบตเตอรี่ควรเทน้ำร้อนใส่ภาชนะ แล้วนำอุปกรณ์ที่ขึ้นขี้เกลือลงจุ่มไป เพื่อทำความสะอาดได้ลึกมากยิ่งขึ้น เสร็จแล้วเช็ดทำความสะอาดให้แห้ง และควรใช้น้ำยาเคลือบอเนกประสงค์ หรือจาระบีทาบริเวณที่เกิดขี้เกลือเพื่อป้องกันการเกิดขึ้นอีก
บางคนอาจสงสัยว่าจะทำความเสียหายกับแบตเตอรี่หรือไม่ ในกรณีที่เอาน้ำร้อนไปเทราด ซึ่งต้องขอแนะนำว่าการราดไม่ใช่สาดใส่แบตเตอรี่ทั้งลูกด้วยน้ำร้อนแบบเต็มๆ หรือรุนแรง ให้เทเบาๆ ใส่เฉพาะจุดที่เกิดขี้เกลือเท่านั้น โดยวิธีการดังกล่าวผู้ผลิตแบตเตอรี่เอง ตลอดจนโรงเรียนช่างเทคนิคต่างก็แนะนำวิธีการดังกล่าวนี้ และถ้าจะเกิดการชำรุดเสียหายก็คงไม่มีใครทำตามกันอย่างแน่นอน หรือถ้าไม่มั่นใจก็สามารถซื้อน้ำยาทำความสะอาดขั้วแบตเตอรี่แบบสเปรย์มาใช้ทดแทนกันได้
ตรวจสอบระดับน้ำกรดเพื่อป้องกันการเกิดขี้เกลือ เมื่อเห็นว่าพร่องควรเติมด้วยน้ำกลั่นให้อยู่ในระดับ MAX LEVEL ไม่ควรเติมสูงกว่า MAX LEVEL เพราะเวลาแบตเตอรี่เดือดน้ำกรดจะระเหยล้นออกมาจนขึ้นขี้เกลือ ขณะเดียวกันก็ไม่ควรปล่อยให้ระดับน้ำกรดลดต่ำกว่าระดับ MIN LEVEL
การดูแลสำหรับแบตเตอรี่ชนิดเติมน้ำกลั่น ควรตรวจดูระดับน้ำกรดเป็นประจำทุกๆ สัปดาห์หรือไม่ควรเกินทุกๆ 2 สัปดาห์ ส่วนสำหรับแบตเตอรี่ชนิดพร้อมใช้ไม่ต้องดูแล (Maintenance Free) หรือแบตเตอรี่แห้ง ก็ไม่ต้องดูแลมากมายเพราะแบตเตอรี่ประเภทนี้ถูกออกแบบพัฒนามาอย่างดีให้มีคุณสมบัติกินน้ำน้อย และระบบป้องกันการระเหยที่ดีถูกออกแบบมาให้ใช้ได้จนหมดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ นั้นคือสิ่งที่แบตเตอรี่ประเภทนี้ถูกกำหนดมาจากโรงงานเช่นนี้ แต่อย่างไรก็ดีในทางปฏิบัติ ก็มีความเป็นไปได้ที่แบตเตอรี่ประเภทนี้ระดับน้ำกรดลดลงจนกำลังไฟไม่พอ ซึ่งถ้าเราเติมน้ำกลั่นเข้าไปอัดไฟใหม่แบตเตอรี่ก็ยังคงใช้งานได้อยู่ ดังนั้นควรก็ตรวจดูระดับน้ำกรดทุกๆ 5-6 เดือน (ในกรณีบางรุ่นไม่มีฝาเปิดก็ดูระดับน้ำกรดก็ไม่ต้องตรวจเช็ค)
สุดท้ายอย่าลืมเพิ่มความอุ่นใจในการเดินทาง ด้วยประกันรถที่รู้ใจคุณที่สุด กับ Roojai.com ประกันรถออนไลน์ พร้อมบริการคุณตลอดเวลา เช็คเบี้ยออนไลน์ได้ราคาทันทีผ่านเว็บไซต์ กับราคาที่แฟร์กว่า คำนวณตามลักษณะการขับขี่ของคุณโดยเฉพาะ