ก่อนตัดสินใจซื้อรถ เรื่องที่ควรให้ความสำคัญมาก ๆ คือ ที่จอดรถยนต์ โดยจะต้องมีที่จอดรถยนต์ส่วนตัว ไม่รุกล้ำสิทธิ์ของคนอื่น เช่น จอดในที่ห้ามจอด จอดในที่สาธารณะ หรือจอดขวางทาง-เข้าออกบ้านข้าง ๆ ไม่อย่างนั้นอาจทำให้เกิดปัญหาฟ้องร้องใหญ่โตได้ และนอกจากจะป้องกันการถูกฟ้องร้องได้แล้ว ยังช่วยป้องกัน “ความเสียหาย” ที่อาจเกิดขึ้นจากการจอดรถไม่คิด ไม่ถูกที่ในวันที่ฝนตกหนักมากอีกด้วย ถ้ายังมองภาพไม่ออกว่าจะป้องกันได้ยังไง ตามรู้ใจไปทำความเข้าใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับ “จุดเสี่ยงที่จอดรถที่ควรเลี่ยง” กันเลย
- 4 จุดเสี่ยงสูง ควรเลี่ยงในวันฝนตกหนักหรือพายุเข้า
- ทำที่จอดรถในบ้าน ต้องมีพื้นที่เท่าไหร่?
หลายคนมักมองว่า “อุบัติเหตุเป็นเรื่องไกลตัว” หรือเป็นเรื่องของคนที่ดวงไม่ดี ไม่มีทางเกิดเรื่องกับตัวเองแน่นอน จึงทำให้มองข้ามจุดที่ควรให้ความสำคัญอย่าง “ที่จอดรถ” แบบไม่รู้ตัว ถ้าอย่างนั้นเรามาดูกันเลยดีกว่าว่า 4 จุดเสี่ยงสูงที่ควรเลี่ยงจอดรถในวันที่ฝนตก มีอะไรบ้าง แล้วถ้าเผลอจอดจะส่งผลเสียตามมายังไง
1. ที่จอดรถยนต์ใต้ต้นไม้
ต้นไม้ที่เราหมายถึง เหมารวมทั้งต้นไม้ใหญ่และเล็กทั้งหมด รวมถึงพุ่มไม้บริเวณด้านข้างตัวรถด้วย เพราะในวันที่พายุฟ้าคะนอง ฝนตกหนัก พายุเข้า พวกกิ่งก้านใบทุกขนาดล้วนมีความเสี่ยงสูงที่จะสร้างความเสียหายให้กับรถยนต์ได้อย่างไม่น่าเชื่อ ไม่ว่าจะเป็น…
กิ่งไม้ขูดรถเป็นรอย
“เล็กพริกขี้หนู” คำคำนี้ใช้ในสถานการณ์นี้ได้ดีเลยล่ะ ใครบอกว่ากิ่งไม้เล็ก ๆ ไม่มีพิษสง บอกเลยว่าไม่จริง ในวันที่ฝนฟ้าคะนอง ลมแรง กิ่งไม้เล็ก ๆ ถือเป็นศัตรูตัวร้ายของรถยนต์ยิ่งกว่าอะไร เพราะมันจะหักและหล่นลงมาขูดขีดรถของคุณให้เป็นรอยยาว สร้างความเจ็บจี๊ดในใจได้แบบสุด ๆ ยังไม่รวมพุ่มไม้บริเวณด้านข้างรถ เมื่อถูกลมพัดโบกสะบัดใส่รถคุณมากเท่าไหร่ แรงแค่ไหน รอยที่เกิดขึ้นก็จะมากขึ้นตามไปด้วย โดยเฉพาะคนที่ชอบจอดรถในที่สาธารณะอย่างริมถนน ที่ต้องจอดชิดเบียดขอบทาง เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกเฉี่ยวชนให้ได้มากที่สุด บอกเลยว่างานนี้รอยสวยรอบคันแน่นอน
กิ่งไม้ใหญ่ตกใส่รถยนต์
นอกจากการจอดรถใต้ต้นไม้ใหญ่จะไม่ได้เป็นเกราะกำบังชั้นดี แต่ในความเป็นจริงแล้วต่อให้ฝนไม่ตก กิ่งไม้ก็ตกลงมาใส่รถของคุณได้ แถมยังมีนกขี้ใส่หลังคาและตัวรถ ส่งผลเสียต่อสีรถยนต์อีกต่างหาก ยิ่งถ้าเป็นวันที่พายุฟ้าคะนอง ฝนตกหนักมาก ลมแรง พายุเข้า ยิ่งไปกันใหญ่ เพราะความเสี่ยงสูงที่กิ่งไม้ใหญ่จะหล่นทับหลังคารถหรือตัวรถมี “สูงมาก” เนื่องจากกิ่งไม้ไม่สามารถรับน้ำหนักของการอมน้ำไว้ได้ยังไงล่ะ
เศษใบไม้ทำให้ระบบแอร์ขัดข้อง
แม้ว่าใบไม้ที่ปลิดปลิวมาตามแรงลม จะสร้างรอยขีดข่วนได้ไม่เท่ากับกิ่งไม้ แต่กลับสร้างความเสียหายให้กับระบบแอร์ได้อย่างไม่น่าเชื่อ โดยเฉพาะใบไม้ที่เข้าไปอยู่ในระบบหมุนอากาศภายในรถ นอกจากจะทำให้แอร์ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพแล้ว ยังทำให้รถมีคราบสกปรกอีกด้วย
ความเสี่ยงจากอุบัติเหตุหรือภัยธรรมชาติ เป็นสิ่งที่เลี่ยงได้ยาก แม้จะจอดรถไว้ในที่จอดรถยนต์ก็ตาม แต่เรารับมือได้ด้วยประกันรถยนต์ที่รู้ใจ พร้อมคุ้มครองรถคุณจากภัยธรรมชาติ น้ำท่วม ไฟไหม้ รถหาย เลือกปรับแต่งแผนได้ตามใจ ลดสูงสุด 30% มีอู่และศูนย์ซ่อมทั่วไทย 1,600+ แห่ง ไปไหนก็อุ่นใจ พร้อมดูแลรถยนต์คู่ใจและดูแลคุณ
2. ที่จอดรถยนต์ใกล้ป้ายโฆษณา
ป้ายโฆษณาหรือป้ายบิลบอร์ดขนาดใหญ่ ที่มองด้วยตาเปล่าก็เห็นถึงความแข็งแรง ทนทาน มั่นคง ยากต่อการหักโค่นหรือล้มได้ง่าย ไม้เหมือนกับต้นไม้ที่อ่อนไหว แต่ต้องทำความเข้าใจก่อนว่าลักษณะของป้ายต่าง ๆ นั้น มีลักษณะ “ต้านลม”
หากดวงไม่ดี บวกกับวันนั้น ๆ ฝนตกหนักมาก พายุเข้า ลมพัดอย่างรุนแรง แม้ว่าโครงสร้างป้ายทั้งหมดจะไม่หล่นทับรถยนต์คู่ใจของคุณ แต่ก็มความเสี่ยงสูงที่ชิ้นส่วนบางอย่างจะปลิวตกลงมาตามแรงลม แล้วยิ่งถ้าหากโครงสร้างเสาเหล่านั้นมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ผุพัง รอวันพังขึ้นมาด้วยล่ะก็บอกเลยว่าเตรียมเสียรถยนต์สุดรัก สุดหวงไว้ได้เลย
3. ที่จอดรถยนต์ใกล้ไซต์ก่อสร้าง
ไซต์งานก่อสร้างต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นใต้ทางด่วนที่มีการซ่อมแซม สร้างรถไฟฟ้า หรือแม้แต่ตึกบ้านช่อง ถือเป็นจุดอันตรายเสี่ยงสูง ห้ามจอดรถเด็ดขาด แม้ว่าวันนั้น ๆ จะมีท้องฟ้าสดใสก็ตาม เพราะอาจมีเศษวัสดุก่อสร้าง เช่น เศษไม้ เหล็ก หิน กระเบื้อง ฯลฯ หล่นลงมาใส่ตัวรถ และที่อันตรายและสร้างความเสียหายร้ายแรงได้มากที่สุด คือ แท่งเหล็กหรือแท่งปูนขนาดใหญ่ นอกจากจะสร้างความเสียหายต่อตัวรถยนต์แล้ว ยังเป็นอันตรายต่อชีวิตอีกด้วย เพราะฉะนั้นเลี่ยงได้ควรเลี่ยง อย่าคิดว่าจอดแค่พักเดียว หรือมองว่าเป็นไซต์ก่อสร้างขนาดเล็ก คงไม่เป็นอะไรเด็ดขาด
4. ที่จอดรถยนต์ที่พื้นต่ำกว่าถนน
พื้นที่ต่ำกว่าระดับถนน ใกล้ท่อระบายน้ำ หรือเหนือท่อระบายน้ำ เป็นอีกหนึ่งจุดเสี่ยงสูงที่ควรเลี่ยง เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็น “ทางน้ำไหลผ่าน” หากเกิดฝนตกหนักมาก น้ำระบายไม่ทันขึ้นมา จะทำให้น้ำท่วมสูงกว่าจุดอื่น ๆ แถมยังมีความเสี่ยงสูงที่น้ำจะไหลเข้าตัวรถได้ง่าย ๆ แน่นอนว่าส่งผลเสียต่อรถยนต์เกินกว่าที่คุณจะคาดเดาได้เลยล่ะ ไม่ว่าจะเป็นช่วงล่างเสียหาย น้ำไหลเข้าท่อไอเสีย ฯลฯ แนะนำว่าควรจอดบริเวณเนินสูง หรือจุดจอดที่สูงกว่าพื้นถนน หลีกเลี่ยงบริเวณท่อระบายน้ำจะดีที่สุด
ทำที่จอดรถในบ้าน ต้องมีพื้นที่เท่าไหร่?
แน่นอนว่าที่จอดรถที่ปลอดภัยคือ ภายในบ้านของเรา แล้วในบ้านควรมีพื้นที่ที่ต้องทำเป็นที่จอดรถเท่าไหร่ รู้ใจมีคำตอบ โดยพื้นที่จอดรถยนต์ขนาดมาตรฐานสำหรับรถ 1 คันจะอยู่ที่ 2.40 x 5.00 ม. มีความสูงจากพื้นถึงเพดานอย่างน้อย 2.50 ม. และควรเว้นพื้นที่ด้านข้าง 0.70 ม. และเว้นพื้นที่ด้านหน้า 0.40 ม. เผื่อพื้นที่ไว้ให้สะดวกในการขนย้ายของ รวมถึงการเปิด-ปิดประตู การมีที่จอดรถที่บ้านก็ถือเป็นวิธีดูแลรถยนต์ทั้งจากแสงแดด ความร้อน ฝุ่น ฝน พายุ ฯลฯ ปกป้องรถจากความเสียหาย/สูญหายอีกด้วย
ทั้งหมดนี้คือ “จุดเสี่ยงสูง” ที่หลายคนมักมองข้าม รวมทั้งมองว่าเป็นจุดที่ไม่มีอะไร ไม่เป็นอันตราย แต่พอลองอ่านคำแนะนำจากรู้ใจแล้ว เห็นเลยใช่มั้ยว่าสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่หลายคนชะล่าใจ กลับสร้างความเสียหายได้ร้ายแรงที่สุด เมื่อเห็นแบบนี้แล้ว เวลาคิดจะจอดรถก็ควรมองบริเวณรอบ ๆ ให้ดีก่อนล่ะ ถือเป็นการดูแลรถยนต์ทางหนึ่ง จะได้ไม่เจ็บหนักกับค่าใช้จ่ายที่ตามมาในภายหลัง
ในฤดูฝนนอกจากจะต้องระวังเรื่องการขับขี่แล้ว ยังต้องระวังในเรื่องของที่จอดรถยนต์ให้ดีด้วยเช่นกัน เพราะไม่อย่างนั้นรถยนต์ของคุณอาจได้รับความเสียหายได้ง่าย ๆ นอกจากนี้ยังควรให้ความสำคัญกับ “ประกันภัยรถยนต์” ด้วย โดยจะต้องเลือกกรมธรรม์ที่ให้ความคุ้มครองอย่างครอบคลุม และตอบโจทย์ทั้งรถและคุณที่สุดอีกด้วย
สามารถติดตามข่าวสาร สาระความรู้เกี่ยวกับสุขภาพ รถยนต์ มอเตอร์ไซค์ รวมถึงประกันภัยออนไลน์ต่าง ๆ จากรู้ใจได้ที่ Facebook Page: Roojai หรือคลิกที่นี่เพื่อเพิ่มเราเป็นเพื่อนใน LINE ได้เลย (Official Line ID: @roojai)
คำจำกัดความ
| ภัยธรรมชาติ | คือ ภัยที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ควบคุมไม่ได้ และสร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินและชีวิต เช่น น้ำท่วม แผ่นดินไหว ดินถล่ม เป็นต้น |
| ไซต์ก่อสร้าง | ไซต์ก่อสร้าง หรือ สถานที่ก่อสร้าง คือ พื้นที่ที่ใช้สำหรับการก่อสร้างอาคาร โครงสร้าง หรือสิ่งก่อสร้างต่างๆ |
