Roojai

เปิดวิธีชาร์จแบตรถยนต์ไฟฟ้าที่ถูกต้อง ช่วยชะลอแบตรถเสื่อม!

วิธีชาร์จแบตรถยนต์ไฟฟ้า | ประกันรถยนต์ไฟฟ้า | รู้ใจ

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า “แบตเตอรี่” คือหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนรถยนต์ไฟฟ้า จากรถน้ำมันที่แบตฯ แค่ช่วยสตาร์ท สู่รถ EV ที่แบตกลายมาเป็นแหล่งพลังงานสำหรับการขับเคลื่อน รู้หรือไม่ว่า.. การบำรุงรักษาในส่วนนี้ รวมถึงวิธีชาร์จแบตรถยนต์ไฟฟ้าอย่างถูกต้องเป็นการช่วยยืดอายุการใช้งานแบตรถไฟฟ้าให้มากขึ้น ใช้งานได้นานขึ้น เสื่อมสภาพช้าลง ต้องทำยังไงถึงจะช่วยชะลอแบตรถเสื่อมได้ รู้ใจลิสต์ประเด็นที่น่าสนใจมาให้แล้ว ตามไปทำความเข้าใจพร้อม ๆ กันได้เลย

สนใจอ่านแค่บางเรื่อง ก็เลือกได้เลย!

รู้ก่อน การชาร์จแบตรถไฟฟ้ามีกี่แบบ?

ก่อนจะไปทำความเข้าใจวิธีชาร์จแบตรถยนต์ไฟฟ้าที่ถูกต้อง อยากให้รู้จักการชาร์จแบตเตอรี่ให้ดีก่อน ว่าจริง ๆ แล้วมันมีทั้งหมด 2 แบบ และแต่ละแบบมีรายละเอียดแตกต่างกันดังนี้

1. ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแบบ AC

การชาร์จช้าที่นิยมเรียกกันเป็นแบบระบบ AC ย่อมาจากคำว่า Alternating current charge คือ การชาร์จแบตเตอรี่แบบธรรมดาด้วยไฟฟ้ากระแสสลับ (ไม่มีขั้วบวกหรือลบ) จากตัว Wallbox เข้าไปยัง On board charger ในตัวรถ จากนั้นจะทำการแปลงกระแสไฟฟ้าเป็นสายตรง จ่ายไฟไปยังแบตเตอรี่รถไฟฟ้า EV โดยจะใช้ระยะเวลาในการชาร์จแบตประมาณ 4-7 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับขนาดแบตรถไฟฟ้า และรุ่นรถไฟฟ้า การชาร์จแบตแบบนี้ เหมาะสำหรับการชาร์จในพื้นที่ที่สามารถจอดรถชาร์จได้เป็นเวลานาน เช่น เครื่องชาร์จที่บ้าน ที่สำนักงาน เป็นต้น

การชาร์จแบตรถไฟฟ้ามีกี่แบบ | ประกันรถยนต์ไฟฟ้า | รู้ใจ

2. ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแบบ DC

ชาร์จไวต้องแบบ DC การชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าระบบ DC ย่อมาจากคำว่า Direct current charge เป็นการชาร์จแบตรถไฟฟ้าที่ถูกพัฒนามาจากระบบ AC แต่การจะเป็นการชาร์จไฟด้วยกระแสไฟตรงเข้าสู่แบตเตอรี่รถไฟฟ้า EV ทันที ไม่ถูกส่งเข้าไปยัง On board charger ในตัวรถ ซึ่งจะใช้เวลาในการชาร์จ จาก 0-80% ในเวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับขนาดของแบตและรุ่นรถยนต์ไฟฟ้าด้วยเช่นกัน เหมาะสำหรับการชาร์จแบตในช่วงเวลาเร่งด่วน เช่น การจอดชาร์จตามสถานีชาร์จรถไฟฟ้าในปั๊มน้ำมัน หรือการจอดแวะพักรถตามสถานีชาร์จรถไฟฟ้าต่าง ๆ เป็นต้น

วิธีชาร์จแบตรถยนต์ไฟฟ้าที่ถูกต้อง ควรทำยังไง?

ต้องบอกก่อนว่ารถยนต์ไฟฟ้าแต่ละคันมีความแตกต่างกัน ดังนั้นเจ้าของรถควรศึกษา “ข้อมูลเฉพาะ” เกี่ยวกับยี่ห้อและรุ่นรถไฟฟ้าในคู่มือผู้ใช้ก่อนเสมอ รวมถึงวิธีชาร์จแบตรถยนต์ไฟฟ้าที่เรากำลังจะบอกต่อดังต่อไปนี้ด้วย

1. รู้ว่าเมื่อไหร่ควรชาร์จและหยุดชาร์จแบต

ตามปกติแล้วแบตเตอรี่รถไฟฟ้า EV จะทำงานได้ดีที่สุด และจะมีอายุการใช้งานยาวนานที่สุด เมื่อรักษาช่วงการชาร์จอยู่ที่ 20-80% ซึ่งการทำแบบนี้จะช่วยยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่รถไฟฟ้าได้ดีมาก ๆ พูดง่าย ๆ คืออย่าใช้แบตรถจนเหลือน้อย หรือชาร์ตจนเต็มบ่อยเกินไปนั่นเอง

2. ชาร์จเป็นประจำ แต่ไม่ควรบ่อยเกินไป

หลายคนอาจไม่รู้มาก่อนว่าแบตเตอรี่รถไฟฟ้าส่วนใหญ่ มี “ข้อจำกัด” และมีรอบการชาร์จ หมายความว่าในแต่ละครั้งที่ทำการชาร์จแบต อายุการใช้งานและความสามารถในการชาร์จแบตรถไฟฟ้า ‘อาจ’ ลดลงเล็กน้อย

ดังนั้นวิธีชาร์จแบตรถยนต์ไฟฟ้าที่เหมาะสม คือ ไม่ควรชาร์จแบตบ่อยเกินไป หรือชาร์จทิ้งไว้ข้ามคืน นอกจากนี้ยังไม่ควรปล่อยให้แบตเตอรี่รถไฟฟ้า EV เปอร์เซ็นต์ต่ำกว่าหรือเกือบ 0% บ่อย ๆ เพราะอาจส่งผลต่ออายุการใช้งานแบตเตอรี่นั่นเอง

สิ่งที่ไม่ควรทำเมื่อชาร์จแบตรถยนต์ไฟฟ้า | ประกันรถยนต์ไฟฟ้า | รู้ใจ

3. หลีกเลี่ยงการชาร์จระบบ DC ในอุณหภูมิสูง

การตัดสินใจชาร์จแบตเตอรี่รถไฟฟ้าไม่กี่นาที โดยไม่รอให้แบตรถไฟฟ้าได้ชาร์จอย่างเพียงพอ ในขณะอุณหภูมิสูงมากหรือต่ำมาก อาจส่งผลต่อความจุของแบตรถไฟฟ้าในระยะยาว โดยการเร่งปฏิกิริยาเคมีภายในและทำให้ชุดแบตเตอรี่ร้อนขึ้นอย่างรวดเร็ว อาจส่งผลให้แบตเสื่อมสภาพเร็วขึ้น

นอกจากวิธีชาร์จแบตรถยนต์ไฟฟ้าที่ถูกต้องแล้ว การมีประกันรถยนต์ไฟฟ้าที่คุ้มครองแบตรถ EV เป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะแบตรถถือเป็นหัวใจของรถไฟฟ้า EV ถ้าเสียหายหรือพังจากอุบัติเหตุหมายถึงค่าใช้จ่ายหลักแสนที่ตามมา หากต้องเปลี่ยนแบตรถ ดังนั้นการมีประกันรถ EV ติดไว้จึงอุ่นใจกว่า ที่รู้ใจ คุ้มครองแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า แถมเลือกคุ้มครองเครื่องชาร์จติดผนังที่บ้านได้อีกด้วย

สาเหตุที่ทำให้แบตรถยนต์ไฟฟ้าเสื่อมเร็ว มีอะไรบ้าง?

อย่างที่ทราบกันดีว่า “แบตเตอรี่รถยนต์” เป็นหัวใจสำคัญของรถยนต์ไฟฟ้า คงจะดีไม่ใช่น้อยหากได้รู้สาเหตุที่ทำให้แบตเสื่อม และสามารถเลี่ยงได้ทัน โดยสาเหตุที่ทำแบตเสื่อมไว มีดังนี้

  1. การชาร์จแบตเตอรี่ การปล่อยให้แบตเตอรี่หมดเป็นเวลานานโดยไม่ชาร์จ เพราะการชาร์จแบตรถไฟฟ้าด้วยระบบ AC หรือ DC ให้เต็ม 100% ‘อย่างน้อย’ เดือนละ 1 ครั้ง จะช่วยให้ระบบสามารถปรับสมดุลแรงดันภายใน และช่วยให้โมดูลแต่ละตัวมีการชาร์จเข้าไปอย่างเท่าเทียม
  2. การจอดรถกลางแดด รถไฟฟ้ามีระบบควบคุมอุณหภูมิแบตเตอรี่เพื่อรักษาความเย็นในตัวเครื่อง หากจอดในที่ร้อนหรือกลางแดดเป็นเวลานาน ระบบดังกล่าวก็จะทำงานอย่างต่อเนื่อง ทำให้ใช้พลังงานจากแบตรถไฟฟ้าโดยไม่จำเป็น และอาจทำให้แบตเตอรี่เสื่อมได้นั่นเอง
  3. การชาร์จด้วยระบบ DC บ่อยเกินไป ด้วยความที่ระบบชาร์จ AC ใช้เวลาค่อนข้างนาน เจ้าของรถไฟฟ้า EV หลายคนถึงชอบใช้การชาร์จด้วยระบบ DC มากกว่า แม้จะช่วยลดระยะเวลาในการชาร์จได้ดี แต่บอกไว้ตรงนี้เลยว่า “ส่งผลกระทบต่อการใช้งานของแบตเตอรี่รถไฟฟ้าโดยตรง”

4 อาการน่าสงสัยของรถ EV ที่เตือนว่าแบตเสื่อม

หากคุณกำลังสงสัยแต่ไม่ค่อยแน่ใจ ว่า “อาการ” เหล่านี้ใช่อาการแบตรถไฟฟ้าเสื่อมหรือไม่ รู้ใจลิสต์ 4 อาการน่าสงสัยมาให้ลองเช็คดู ซึ่งจะมีอาการไหนน่าสงสัยบ้าง? ตามไปดูกัน

1. วิ่งระยะทางได้น้อยลง

เมื่อชาร์จแบตเตอรี่เต็ม 100% เท่าเดิม แต่กลับวิ่งระยะทางได้น้อยลง อาจเป็นหนึ่งในอาการแบตเตอรี่รถไฟฟ้าเสื่อม เนื่องจากตัวเก็บประจุไฟฟ้าเสื่อมสภาพ ความสามารถในการเก็บไฟน้อยลง ส่งผลต่อระยะทางในการวิ่งที่ทำได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ

2. ใช้เวลาในการชาร์จแบตนานกว่าเดิม

อาการแบบนี้เกิดจากความสามารถในการเก็บไฟของแบตรถไฟฟ้า EV ลดลง ส่งผลให้ระยะเวลาในการชาร์จแบตเต็ม 100% นานขึ้น

สาเหตุที่ทำให้แบตรถยนต์ไฟฟ้าเสื่อมเร็ว | ประกันรถยนต์ไฟฟ้า | รู้ใจ

3. ชาร์จแบตรถไฟฟ้าเต็ม 100% เร็วผิดปกติ

อย่างที่อธิบายไปก่อนหน้าแล้วว่า การชาร์จแบตรถไฟฟ้า EV มีอยู่ด้วยกัน 2 รูปแบบ ระยะเวลาแตกต่างกันขึ้นอยู่กับระบบที่เลือกใช้ แต่ถ้าหากสังเกตว่าชาร์จแบตเต็ม 100% ใช้เวลาเร็วเกินไป ก็อาจมีสาเหตุมาจากประสิทธิภาพ “ความจุ” ในแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าเหลือน้อยลงก็เป็นได้

4. ประสิทธิภาพรถแย่ลง

เมื่อไหร่ก็ตามที่ความสามารถในการเก็บไฟของแบตรถไฟฟ้า EV ลดลง ก็จะทำให้การทำงานของระบบเครื่องยนต์ไม่เหมือนเดิมตามไปด้วย หากพบความผิดปกติใด ๆ อาจเดาได้ว่ามาจากแบตเตอรี่เสื่อมสภาพ

เนื่องจากการชาร์จระบบดังกล่าว เป็นการชาร์จที่เร็วและอัดประจุเข้าไปในระยะเวลาสั้น ๆ หากไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้รถไฟฟ้า EV ระยะเวลาสั้น ๆ หรือไม่ต้องการใช้งานรถที่สูงสุด แนะนำให้พิจารณาใช้การชาร์จแบบ AC จะดีกว่า

อยากถนอมอายุแบตเตอรี่รถไฟฟ้าให้ยาวนานขึ้น หรือชะลอแบตรถเสื่อมให้อยู่หมัด การนำวิธีชาร์จแบตรถยนต์ไฟฟ้าที่เรานำมาบอกต่อไปปรับใช้ ก็เป็นหนึ่งในทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย นอกจากนี้อย่าละเลยการทำประกันรถยนต์ไฟฟ้าด้วย เพราะนอกจากจะช่วยให้ขับขี่บนท้องถนนได้อย่างมั่นใจแล้ว ยังช่วยให้หมดกังวลเรื่องแบตรถไฟฟ้าเสียหายจากเหตุไม่คาดฝันบนท้องถนนได้อีกด้วย

สามารถติดตามข่าวสาร สาระความรู้เกี่ยวกับสุขภาพ รถยนต์ มอเตอร์ไซค์ รวมถึงประกันภัยออนไลน์ต่าง ๆ จากรู้ใจได้ที่ Facebook Page: Roojai หรือคลิกที่นี่เพื่อเพิ่มเราเป็นเพื่อนใน LINE ได้เลย (Official Line ID: @roojai)

คำจำกัดความ

Wallbox ที่ชาร์จรถไฟฟ้าติดผนังที่บ้าน ที่สามารถเชื่อมต่อกับแอปในมือถือ หรือ Mobile Application เพื่อให้สามารถดึงข้อมูลการชาร์จรถของคุณได้
On board charger ส่วนของอุปกรณ์หม้อแปลงกระแสไฟฟ้าที่ติดตั้งภายในรถ ทำหน้าที่แปลงระหว่างไฟฟ้ากระแสตรง (DC) และ ไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) เพื่อส่งกระแสไฟฟ้าไปเก็บที่แบตเตอรี่