เบรครถยนต์ อุปกรณ์ชิ้นสำคัญสำหรับรถของคุณ เมื่อรถของคุณทำความเร็วสำหรับการเดินทางซึ่งมีแรงผลักมหาศาลในการทำให้รถคุณพุ่งไปข้างหน้า เมื่อนั้นความต้องการอุปกรณ์สำหรับการหยุดรถที่มีประสิทธิภาพเพื่อช่วยให้คุณสามารถหยุดรถได้ในทุกสถานการณ์ด้วยความปลอดภัยจึงเป็นเรื่องที่มีความสำคัญมาก
นักขับทุกคนควรทำความรู้จักกับระบบเบรครถยนต์กันสักนิดว่าในปัจจุบันนี้ระบบเบรครถยนต์แต่ละแบบนั้นเป็นอย่างไร และระบบเบรครถยนต์ของคุณเป็นรูปแบบไหน ที่สำคัญการดูแลรักษาระบบเบรครถยนต์ให้ใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพในทุกเวลาต้องทำอย่างไรบ้าง รู้ใจมีคำตอบทุกอย่างเกี่ยวกับเรื่องเบรครถยนต์ให้คุณได้เรียนรู้แล้วที่นี่
การทำงานของ ระบบเบรครถยนต์ขั้นพื้นฐาน เป็นอย่างไร
หลักการทำงานขั้นพื้นฐานของ ระบบเบรครถยนต์ คือ การช่วยให้รถชะลอความเร็วลงมาถึงระดับที่สามารถหยุดรถได้โดยมีชุดอุปกรณ์ในการห้ามล้อที่เป็นตัวทำงานหลักสำหรับการช่วยหยุดรถ ซึ่งในแต่ละรูปแบบมีระบบการทำงานที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งโดยทั่วไปจะเป็นระบบเบรครถยนต์แบบ ไฮดรอลิก (Hydraulics braking system) ที่ส่งผ่านแรงสำหรับการหยุดรถผ่านการทำงาน 3 ส่วนหลักในชุดเบรครถยนต์ ดังนี้
1.ส่วนของการส่งผ่านแรงเบรค
สำหรับส่วนแรกเปรียบเสมือนเป็นชุดรับคำสั่งสำหรับการห้ามล้อให้เกิดขึ้น โดยเริ่มจากแป้นเบรครถยนต์ในห้องคนขับที่เชื่อมโยงไปยังชุดขยายแรงและแผ่นเบรค โดยมีตัวนำสำคัญได้แก่ น้ำมันเบรค ซึ่งถือเป็นหนึ่งในวัสดุหลักที่เจ้าของรถต้องดูแลเอาใจใส่เช็คความพร้อมตลอดเวลา โดยหน้าที่ของน้ำมันเบรคจะช่วยในการหล่อลื่นและระบบความร้อนในที่เกิดขึ้นในห้องเครื่องยนต์ระหว่างการส่งคำสั่งสำหรับการเบรครถยนต์ออกไปนั่นเอง
2.ส่วนขยายแรงจากการเหยียบแป้นเบรครถยนต์
ในการทำงานส่วนนี้ เป็นการเพิ่มสัญญาณการเบรคให้มีกำลังมากยิ่งขึ้นซึ่งเป็นการเชื่อมโยงต่อกับชุดเบรคในหัวข้อถัดไป เพราะการที่คุณจะหยุดรถได้เพียงแค่แรงปกตินั้นเป็นเรื่องที่ทำได้ยากมาก ดังนั้น การมีอุปกรณ์เสริมเพิ่มเข้ามาในระบบเพื่อเป็นการขยายกำลังสำหรับการหยุดรถจึงเป็นการทดแรงที่คุณไม่จำเป็นต้องใช้พลังมากเกินไปในการเหยียบแป้นเบรครถยนต์เพื่อให้เบรคทำงาน หลักการทำงานคร่าว ๆ คือ เมื่อเหยียบแป้นเบรครถยนต์แล้ว แรงจะถูกส่งต่อไปยัง บูสเตอร์สุญญากาศ ส่งแรงไปยัง แม่ปั๊มเบรค เพื่อขยายกำลังในการเบรครถยนต์ ทำให้ไม่ต้องออกแรงมากที่จะหยุดรถขนาดใหญ่ได้
3.ส่วนสร้างแรงเสียดทานเพื่อลดความเร็วของล้อ
สำหรับส่วนชุดเบรครถยนต์ในตอนท้าย เชื่อว่าเป็นส่วนที่คนคุ้นเคยและคุ้นตากันเป็นอย่างดี นั่นคือชุดเบรครถยนต์หรือชุดห้ามล้อด้านหน้าที่เห็นประกอบติดกับล้อรถยนต์นั่นเอง โดยการทำงานในส่วนนี้เมื่อได้รับแรงกดเบรครถยนต์จากชุดคำสั่งแล้ว ระบบจะทำหน้าที่สร้างแรงเสียดทานให้เกิดการฝืดของการหมุนของล้อ ซึ่งทำให้เกิดการผ่อนความเร็วของล้อรถยนต์ลงมาจนถึงระดับที่สามารถหยุดรถได้ ซึ่งอุปกรณ์สำคัญในส่วนนี้คือส่วนของผ้าใบเบรคที่รับหน้าที่รับแรงเสียดทานทุกอย่างเอาไว้ ดังนั้น ผ้าใบเบรคจึงเป็นอุปกรณ์สำคัญอีกชิ้นที่คุณต้องให้ความใส่ใจและดูแลรักษาให้ดี เพื่อพร้อมใช้งานอยู่เสมอ
รูปแบบของ ระบบเบรครถยนต์ ในปัจจุบัน มีกี่แบบ
นอกจากคุณเข้าใจการทำงานของระบบเบรครถยนต์อย่างครบถ้วนแล้ว คุณยังคงต้องทำความรู้จักกับรูปแบบเบรครถยนต์ที่มีใช้อยู่ในปัจจุบันนี้ว่ามีรูปแบบใดบ้าง
โดยปัจจุบันจะมีระบบเบรครถยนต์ที่ถูกใช้งานอยู่ 2 รูปแบบด้วยกัน ได้แก่ ระบบดิสก์เบรค ที่โดยทั่วไปจะติดตั้งในล้อหน้า เพราะว่าเป็นพื้นที่ที่เกิดแรงเสียดทานสูงจึงต้องใช้เบรคที่มีประสิทธิภาพทนทานต่อแรงเสียดทานและความร้อนพร้อมน้ำหนักกดทับได้เป็นอย่างดี การทำงานเหมือนก้ามปูที่ออกแรงกดลงบนจานเบรคและส่งผ่านแรงเพื่อไปชะลอความเร็วของล้อรถอีกที ส่วนอีกชุดได้แก่ ชุดดรัมเบรค ที่มักติดอยู่บริเวณล้อหลังเป็นลักษณะของชุดกระจายแรงเพื่อช่วยชะลอรถนั่นเอง
ดูแลรักษาเบรครถยนต์ ให้พร้อมใช้งานได้อย่างไร
เพราะเบรครถยนต์มีความสำคัญต่อการชะลอความเร็ว เพื่อหยุดและจอดรถเป็นอย่างมาก ดังนั้นการดูแลรักษาชุดเบรคทั้งระบบให้มีประสิทธิภาพพร้อมใช้งานอยู่ทุกเวลา ย่อมเป็นเรื่องที่สมควรทำอย่างยิ่ง เพราะระบบเบรครถยนต์ที่ขาดการดูแลรักษาอาจลงเอยที่อุบัติเหตุที่ร้ายแรงได้ รู้ใจขอแนะนำวิธีการดูแลรักษารถยนต์สำหรับชุดระบบเบรครถยนต์แบบง่าย ๆ ทำได้เอง ดังนี้
1.เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเบรครถยนต์ตามวงรอบ
การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเบรครถยนต์นับเป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก เพราะน้ำมันเบรคทำหน้าที่ทั้งส่งคำสั่งแรงออกไปยังชุดอุปกรณ์เบรคทั้งระบบ รวมไปถึงการช่วยระบายความร้อนให้ห้องเครื่องยนต์อีกด้วย โดยทั่วไปแล้วระยะสำหรับการใช้น้ำมันเบรคนั้นอยู่ที่ปีละหนึ่งครั้งแม้ว่าคุณจะใช้งานรถมากหรือน้อยก็ตาม เพื่อรักษาประสิทธิภาพการทำงานให้อยู่ในระดับสูงที่สุด นั่นเป็นเพราะน้ำมันเบรคมีส่วนผสมของน้ำมันแร่ที่มีการระเหยไอน้ำออกมา ไม่ว่าอย่างไรย่อมเกิดการควบแน่นที่อาจนำปัญหาเรื่องสนิมและคราบเกาะแน่นต่าง ๆ ให้เกิดขึ้นได้ จึงควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเบรครถยนต์ทุกปี
2.เช็กและเปลี่ยนผ้าใบเบรครถยนต์
อุปกรณ์สำคัญอีกชิ้นที่รับศึกหนักในการหยุดรถ การตรวจสอบผ้าใบเบรครถยนต์ว่ายังคงใช้งานได้ดีหรือไม่ สามารถสังเกตได้จากระยะการเหยียบแป้นเบรคต้องกดลึกมากกว่าเดิมหรือต้องใช้แรงในการกดมากขึ้นหรือไม่ หรือเมื่อเหยียบเบรครถยนต์แล้วมีเสียงโลหะเสียดสีกันหรือเปล่า ถ้ามีอาการอย่างหนึ่งอย่างใดเกิดขึ้น เป็นการสันนิษฐานได้ว่า ผ้าใบเบรคเสื่อมสภาพแล้ว ความทำการเปลี่ยนในทันที โดยความหนาของผ้าเบรคต้องมีมากกว่า 4 มม.ขึ้นไป บางกว่านั้นถือว่าผ้าใบเบรคใกล้หมดแล้ว
3.เช็กความพร้อมของจานเบรครถยนต์
อีกหนึ่งอุปกรณ์สำหรับในการหยุดรถคือจานเบรครถยนต์ที่เราเห็นเป็นแผ่นโลหะทรงกลมขนาดใหญ่ ความเสียหายที่มีโอกาสเกิดขึ้นกับจานเบรคคือ ความสึกหรอที่เกิดจากการใช้งาน ที่พบอยู่เป็นประจำคือ การขูดขีดจากของแข็งหรือโลหะต่าง ๆ รวมไปถึงการฝืนใช้ระบบเบรคที่ผ้าเบรครถยนต์ใกล้หมด ย่อมสร้างรอยให้เกิดขึ้นบนเนื้อจานเบรค ซึ่งวิธีการแก้ไขมีสองรูปแบบคือ ถ้ารอบต่าง ๆ ยังไม่ลึกมาก สามารถใช้วิธีเจียจานเบรครถยนต์ให้กลับมาพร้อมใช้งานอีกครั้ง แต่ความสึกหรอของจานเบรครถยนต์มีสูงมาก แนะนำว่าควรเปลี่ยนเลยดีกว่า สนนราคาของจานเบรครถยนต์ไม่ได้สูงมาก อยู่ที่ประมาณ 1,000-2,000 บาทเท่านั้น
4.เช็กท่อและสายเบรคเชื่อมโยงการทำงานของระบบเบรครถยนต์
เป็นอุปกรณ์ที่มีความสำคัญมากและเป็นสิ่งที่ผู้ขับขี่มองไม่ค่อยเห็นกันเท่าไหร่ เพราะชุดอุปกรณ์เหล่านี้จะแฝงตัวอยู่ตามระบบเบรครถยนต์ทั้งหมด ดังนั้น จึงควรทำการตรวจเช็กเบรครถยนต์ตามระยะวงรอบ อย่างน้อยที่สุดคือทุก ๆ 10,000 กิโลเมตร ว่าอุปกรณ์เหล่านี้ยังอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานหรือไม่ เพราะความสึกหรอของท่อและสายต่าง ๆ ที่ปริ แตก จนน้ำมันเบรคไหลรั่วออกมา สิ่งที่เกิดขึ้นตามมานั่นคือ อาจใช้เบรครถยนต์เพื่อหยุดรถไม่ได้ จะกลายเป็นปัญหาใหญ่ที่เกิดขึ้นจากความไม่ใส่ใจในสิ่งเล็ก ๆ ที่ใช้ในการควบคุมระบบเบรครถยนต์ของเรานั่นเอง ดังนั้น เมื่อพบความผิดปกติต่าง ๆ อย่ารอช้า ควรรีบทำการแก้ไขในทันที
ระบบเบรครถยนต์มีความสำคัญต่อรถของคุณเป็นอย่างมาก จึงต้องหมั่นตรวจสอบอยู่เสมอเพื่อให้การทำงานยังคงทำได้อย่างเต็มประสิทธิภาพในทุกครั้งที่คุณแตะเบรค การมอบความปลอดภัยให้กับตัวรถในรอบด้านนับเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่ง บางครั้งแค่เบรครถยนต์ที่ทำงานมีประสิทธิภาพอาจยังไม่พอ การมองหา ประกันภัยรถยนต์ ที่ครอบคลุมการดูแลรักษาทั้งระบบจะช่วยให้คุณสบายใจได้ในทุกการเดินทาง มอบความไว้วางใจนี้ให้กับรู้ใจ กับการทำประกันภัยรถยนต์ทุกประเภท เพราะเรารู้ใจกว่า ประหยัดกว่า มีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน 24 ชม. พร้อมดูแลคุณที่อู่ในเครือทั่วประเทศ สามารถเลือกรูปแบบกรมธรรม์คุ้มครองรถที่เหมาะสมสำหรับคุณให้ดูแลคุณไปในทุกเส้นทางอย่างอุ่นใจและปลอดภัย
สามารถติดตามข่าวสารและโปรโมชั่นใหม่ ๆ จากรู้ใจได้ที่ FB fan page: Roojai หรือ คลิก add Official Line ของเราไว้ได้เลย