Roojai

รู้จักการต่อภาษีรถยนต์ในแบบต่าง ๆ เพราะรถแต่ละประเภทคิดไม่เหมือนกัน

รู้จักการต่อภาษีรถยนต์ในแบบต่าง ๆ (1) | รู้ใจ

เชื่อแน่ว่าหนึ่งเรื่องที่ทำให้บรรดาคนมีรถทั้งหลายต้องพากันปวดหัวกันอยู่เสมอนั่นคือ การต่อภาษีรถยนต์ ที่เวียนมาบรรจบครบอีกหนึ่งรอบ เพราะไหนจะต้องวิ่งหาเงินมาจัดการ อีกทั้งเอกสารต่าง ๆ นานาที่ต้องเตรียมไป แล้วพอไปถึง อ้าว! ปีนี้ทำไมต้องจ่ายภาษีรถยนต์แพงขึ้น? แถมทำไมยังต้องบังคับซื้อประกันภัยรถยนต์เพิ่มเติมอีก

นานาปัญหาสารพันเกี่ยวกับการต่อภาษีรถยนต์ วันนี้ รู้ใจมีคำตอบมาให้สำหรับทุกคน รับรองว่าหลังจากนี้ จะไม่มีวันงงกับขั้นตอนและวิธีการต่อภาษีรถยนต์ประจำปีของคุณอีกต่อไปอย่างแน่นอน ตามไปดูกันได้เลย

ภาษีรถยนต์ คืออะไร? มาทำความรู้จักไปพร้อม ๆ กันดีกว่า

ภาษีรถยนต์ คืออะไร? ทำไมเป็นเจ้าของรถแท้ ๆ แต่ยังต้องจ่ายภาษีรถยนต์อีก? พ.ร.บ. ที่เรียกกันอยู่คือการจ่ายภาษีรถยนต์หรือไม่? คำถามมากมายที่แม้แต่คนขับรถมาจะสิบปีอาจยังยืนงงอยู่หน้ากรมการขนส่งทางบก เพราะไม่รู้ว่าตัวเองต้องทำเรื่องต่อภาษีรถยนต์แบบไหน เพื่อความกระจ่าง ไปดูคำแนะนำการต่อภาษีรถยนต์พร้อม ๆ กับเราได้เลย

แรกเริ่ม! ต้องทำความเข้าใจให้ถูกต้องกันก่อนว่า ภาษีรถยนต์นั้นคืออะไร? ภาษีรถยนต์นั้น ถ้าจะว่ากันง่าย ๆ นั่นคือเจ้าป้ายวงกลมนั่นเอง ที่ในตอนนี้กลายเป็นป้ายสี่เหลี่ยมไปแล้ว โดยเจ้าป้ายกระดาษเล็ก ๆ นี้มีความสำคัญร่วมกันกับทะเบียนรถยนต์ที่ติดรถเราอยู่ เปรียบเสมือนตัวแทนชื่อรถของเราในการเดินทาง เมื่อใดก็ตามที่เกิดเหตุก็สามารถตรวจสอบได้ผ่านทางป้ายทะเบียนรถนั่นเอง

รู้จักการต่อภาษีรถยนต์ในแบบต่าง ๆ (2) | รู้ใจ

ในแต่ละปี ผู้ที่เป็นเจ้าของรถยนต์ รวมไปถึงรถทุกประเภทจะต้อง จ่ายภาษีรถยนต์ หรือ ป้ายวงกลมอันใหม่นั่นเอง ถ้าคุณไม่ต่อภาษีรถยนต์ ยังคงใช้รถต่อไปทั้งที่ภาษีขาด อาจถูกปรับทำให้เสียเวลาและเสียเงินเพิ่มจากค่าปรับโดยใช้เหตุ หากขาดการต่อภาษีรถยนต์และถูกจับนั้น ค่าปรับจะอยู่ตั้งแต่ 400-1,000 บาท เลยทีเดียว

ข้อเน้นย้ำสำคัญที่คุณห้ามลืมสำหรับการต่อภาษีรถยนต์

สำหรับการต่อภาษีรถยนต์มีกฎระเบียบอยู่พอสมควร ดังนั้นควรศึกษาและทำความเข้าใจเกี่ยวกับห้วงเวลาสำหรับการต่อภาษีรถยนต์ให้ดี รวมไปถึงเงื่อนไขพิเศษต่าง ๆ ที่มีอยู่เพื่อจะได้ไม่พลาดในการคิดคำนวณค่าใช้จ่าย ซึ่งเงื่อนไขต่าง ๆ สำหรับการต่อภาษีรถยนต์มีดังนี้

  • การต่อภาษีรถยนต์ในแต่ละครั้งจะต้องทำการต่อในปีที่ภาษีจะหมดอายุ คุณสามารถต่อภาษีรถยนต์ได้ก่อนวันที่ภาษีจะหมดอายุล่วงหน้า 90 วัน หรือ 3 เดือนนั่นเอง ดังนั้นคุณจึงมีเวลาวางแผนอยู่พอสมควรสำหรับการจัดสรรงบประมาณเพื่อการต่อภาษีรถยนต์นั่นเอง
  • ในกรณีที่คุณต่อภาษีรถยนต์ล่าช้าเกินกว่ากำหนด ไม่ว่าจะเป็น 1 วันขึ้นไป ทางกฎหมายระบุว่าเป็นการขาดการต่อภาษีรถยนต์ โดยนับเวลาตั้งแต่ 1–3 ปี จะต้องเสียค่าปรับร้อยละ 1 ต่อเดือน หมายความว่ายิ่งช้า ค่าปรับยิ่งเพิ่ม
  • ในกรณีที่ขาดการต่อภาษีรถยนต์มากกว่า 3 ปี ขึ้นไป ถือว่าป้ายทะเบียนนั้น ๆ ถูกยกเลิกไปในทันที หากต้องการต่อภาษีรถยนต์ใหม่จะต้องนำป้ายทะเบียนเดิมไปคืนให้กับกรมการขนส่งทางบก พร้อมชำระค่าปรับจึงสามารถรับป้ายทะเบียนรถใหม่ไปได้
  • สำหรับการต่อทะเบียนรถทุกครั้ง สำหรับรถยนต์ที่มีอายุไม่ถึง 5 ปี ไม่จำเป็นต้องตรวจสภาพ แต่ถ้ามีอายุมากกว่า 5 ปีขึ้นไป จะต้องเข้ารับการตรวจสภาพเสียก่อน จึงจะต่อภาษีรถยนต์ได้
  • คุณจะต้องต่อ พ.ร.บ. หรือ ประกันภัยภาคบังคับสำหรับการขับขี่รถยนต์ก่อน จึงจะสามารถทำการต่อภาษีรถยนต์ได้

ที่ว่ามา คือเงื่อนไขเพิ่มเติมอื่น ๆ ก่อนการต่อภาษีรถยนต์ที่คุณต้องใส่ใจ เพราะการไม่อ่านเงื่อนไขให้รอบคอบอาจทำให้คุณต้องจ่ายค่าปรับ หรือเสียเวลาในการเข้าสู่ขั้นตอนในการเสียภาษีนั่นเอง ดังนั้น ใช้ข้อมูลเหล่านี้เป็นตัวตรวจสอบว่ารถของคุณเข้าเงื่อนไขต่าง ๆ ตามข้างต้นหรือไม่ ถ้าเข้าข่ายก็ต้องทำตามคำแนะนำและข้อกำหนดต่าง ๆ ในทันที

รู้จักการต่อภาษีรถยนต์ในแบบต่าง ๆ (3) | รู้ใจ

อัตราภาษีรถยนต์ คิดยังไง?

อีกหนึ่งเรื่องปวดหัวสำหรับการพารถคันเก่งของคุณไปต่อภาษีรถยนต์ นั่นคือ รถของคุณต้องจ่ายภาษีรถยนต์เท่าไหร่? เจ้าของรถควรรู้เป็นข้อมูลพื้นฐานเอาไว้จะได้ไม่พลาดในการเตรียมเงินสำหรับการจ่ายภาษีรถยนต์นั่นเอง

สำหรับอัตราภาษีรถยนต์นั้น จะคิดเหมารวมกันแบ่งตามรูปแบบการใช้งานของรถประเภทต่าง ๆ เช่น รถใช้งานทั่วไป รถสาธารณะ หรือ รถที่ใช้ในเชิงพาณิชย์ จะมีอัตราการจ่ายภาษีรถยนต์ที่แตกต่างกัน รวมไปถึงขนาดของเครื่องยนต์ (ตามปริมาตร ซี.ซี.) จะมีผลต่อการคิดคำนวณอัตราภาษีรถยนต์อยู่ด้วย แต่อัตราภาษีรถยนต์โดยมาตรฐานจะคิดจากอัตราค่ากระบอกสูบ โดยมีการคำนวณดังนี้

  • ความจุกระบอกสูบ 600 ซี.ซี. แรก อัตราอยู่ที่ ซี.ซี. ละ 0.50 บาท
  • ความจุกระบอกสูบตั้งแต่ 601 – 1,800 ซี.ซี. อัตราอยู่ที่ ซี.ซี. ละ 1.50 บาท
  • ความจุกระบอกสูบ เกินกว่า 1,800 ซี.ซี. อัตราอยู่ที่ ซี.ซี. ละ 4.00 บาท

วิธีการคำนวณภาษีรถยนต์ หากรถมีขนาด 3,000 ซี.ซี.

  • 600 ซี.ซี. แรก = 600×0.50 = 300 บาท
  • 601 – 1,800 ซี.ซี. = (1,800 – 600) = 1,200 x 1.50 = 1,800 บาท
  • เกินกว่า 1,800 ซี.ซี. = (3,000 – 1,800) = 1,200 x 4.00 = 4,800 บาท

ดังนั้น อัตราภาษีรถยนต์ทั้งหมดจะเป็น 300 + 1,800 + 4,800 = 6,900 บาท นั่นเอง

ค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ยังไม่รวมในกรณีของการตรวจสภาพรถ การต่อ พ.ร.บ. ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นอีกเพียงเล็กน้อย และนอกจากนั้น หากรถมีอายุเกินกว่า 5 ปีขึ้นไป จะได้รับส่วนลดหย่อนภาษีเพิ่มเติมอีกด้วย

  • ปีที่ 6 ร้อยละ 10
  • ปีที่ 7 ร้อยละ 20
  • ปีที่ 8 ร้อยละ 30
  • ปีที่ 9 ร้อยละ 40
  • ปีที่ 10 และปีต่อ ๆ ไป ร้อยละ 50

ตัวอย่างเช่น รถคันเดิมที่เราเคยเสียภาษีรถยนต์ทุกปี ปีละ 6,900 บาท ในปีที่หกจะได้รับการลดหย่อนภาษี 10% ดังนั้นในปีที่ 6 คุณจะจ่ายภาษีรถยนต์ในอัตรา 6,900 – (6,900 x 10%) = 6,210 บาท นั่นเอง

รู้จักการต่อภาษีรถยนต์ในแบบต่าง ๆ (4) | รู้ใจ

ต่อภาษีรถยนต์ ใช้เอกสารอะไรบ้าง?

หลังจากที่เรารู้ถึงเงื่อนไขต่าง ๆ สำหรับการต่อภาษีรถยนต์ และวิธีการคิดคำนวณอัตราภาษีรถยนต์ที่ต้องจ่ายไปแล้ว อีกหนึ่งเรื่องที่มักเป็นปัญหาคือ เอกสารที่ใช้ในการต่อภาษีรถยนต์ที่หลายครั้งต้องพบกับคำว่า “เอกสารไม่ครบ” ทำให้ต้องเสียเวลาในการย้อนกลับมาเสียภาษีอีกครั้ง ซึ่งเอกสารที่คุณต้องเตรียมเอาไว้ให้พร้อมสำหรับการเสียภาษีรถยนต์ มีดังนี้

  1. คู่มือจดทะเบียนรถฉบับจริงหรือสำเนา
  2. หลักฐานการทำประกันภัยตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ ที่ภาษาของคนรับต่อภาษีรถยนต์เรียกว่า หาง พ.ร.บ.
  3. ใบรับรองการตรวจสภาพรถยนต์สำหรับรถยนต์ที่มีอายุ 5 ปีขึ้นไป รวมไปถึงรถที่มีการดัดแปลงสภาพ

ต่อภาษีรถยนต์ ได้ที่ไหน?

สำหรับการต่อภาษีรถยนต์นั้นคุณสามารถทำได้ด้วยตัวของคุณเอง หรือเลือกใช้บริการผ่านทางระบบออนไลน์ หรือ ตัวแทนรับต่อภาษีรถยนต์ ซึ่งมีผู้ให้บริการอยู่เป็นจำนวนมาก รู้ใจรวมรายละเอียดมาไว้ให้ ดังนี้

  1. สำนักงานขนส่งทั่วประเทศ (ไม่ว่ารถนั้นจะจดทะเบียนที่จังหวัดใดก็ตาม)
  2. ที่ทำการไปรษณีย์
  3. ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)
  4. ห้างสรรพสินค้าที่เข้าร่วมโครงการ “ช้อปให้พอ แล้วต่อภาษี (Shop Thru for Tax)”
  5. จุดบริการเลื่อนล้อต่อภาษี (Drive Thru for Tax)
  6. เคาน์เตอร์เซอร์วิสทั่วประเทศ
  7. การต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์
  8. ขอใช้บริการผ่านสถานที่รับตรวจสภาพรถและต่อภาษีรถยนต์ที่มีอัตราค่าบริการที่ 200-300 บาทต่อคัน

หลังจากนี้เรื่องภาษีรถยนต์จะไม่ใช่เรื่องยากสำหรับคุณอีกต่อไป ต่อภาษีรถยนต์ครั้งหน้า จะเลือกทำด้วยตัวคุณเอง หรือเลือกใช้บริการผ่านตัวแทนการต่อภาษี เช่นที่รู้ใจ เรามีทั้งข้อมูลการต่อภาษีและการทำประกันภัยรถยนต์ที่ครบถ้วน ให้คุณสามารถทำทุกอย่างได้ครบ จบในที่เดียว สามารถซื้อประกันภัยรถยนต์และต่อ พ.ร.บ. เพื่อนำไปใช้ต่อภาษีได้เลย เพราะที่รู้ใจ ประกันออนไลน์ รู้ใจกว่า ประหยัดกว่า เราช่วยให้ประกันภัยเป็นเรื่องง่าย ไม่ซับซ้อน และเชื่อถือได้สำหรับทุกคน

สามารถติดตามข่าวสารและโปรโมชั่นใหม่ ๆ จากรู้ใจได้ทาง FB fan page: Roojai หรือ คลิก add Official Line ของเราไว้ได้เลย