Roojai

ตรวจสภาพรถก่อนต่อภาษีที่ ตรอ. ใกล้ฉัน คืออะไร ใครต้องตรวจ?

ตรวจสภาพรถ ตรอ คืออะไร | ประกันรถยนต์ | รู้ใจ

เชื่อว่าหลายคนคงเกิดคำถามมากมาย เกี่ยวกับการตรวจสภาพรถยนต์กับ ตรอ. ไม่ว่าจะเป็นทำไมต้องตรวจสภาพรถยนต์ก่อนต่อภาษีรถ รวมถึง ตรวจสภาพรถ ตรอ. ทําอะไรบ้าง เพื่อให้คุณเข้าใจรายละเอียดต่าง ๆ มากขึ้น

รู้ใจได้รวบรวมข้อมูลที่น่าสนใจ และเป็นประโยชน์ต่อตัวคุณและรถยนต์คู่ใจมาให้เรียบร้อยแล้ว จะมีรายละเอียดเป็นอย่างไร รวมถึงเป็นประโยชน์จริงหรือไม่ ไปดูพร้อม ๆ กับเรา รู้ใจได้เลย

ตรอ.คืออะไร?

ก่อนอื่นต้องทำอธิบายก่อนว่า ตรอ. ย่อมาจากคำว่า “สถานตรวจสภาพรถเอกชน” เปิดให้ผู้ใช้รถยนต์หรือรถมอเตอร์ไซค์เข้ามาตรวจสภาพก่อนที่จะนำไปต่อภาษีรถ กรณีที่ไม่สะดวกเดินทางไปตรวจสภาพรถที่กรมขนส่งทางบก เช่น คนที่บ้านไกล ไม่สะดวกขับรถระยะทางไกล สามารถนำรถไปตรวจสภาพที่ ตรอ. ได้เลย เพราะที่นี่ได้รับอนุญาตจากกรมขนส่งทางบกแล้ว

นอกจากนี้ ตรอ.ยังมีหน้าที่ในการตรวจรับรอง ว่ายานพาหนะที่ใช้นั้น มีความปลอดภัย รวมถึงมีสภาพพร้อมใช้งาน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้ ตามพระราชบัญญัติของกรมการขนส่งทางบก พ.ศ.2522 และตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ.2522 ที่ระบุเอาไว้ว่า “รถที่จะนำมาใช้ในการขนส่งหรือนำจดทะเบียน ต้องมีสภาพมั่นคง แข็งแรง และเครื่องอุปกรณ์ส่วนควบของรถถูกต้องตามที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวงฯ” การตรวจสภาพรถยนต์จึงมีความจำเป็นมาก ๆ

อายุรถกี่ปีถึงควรตรวจสภาพรถยนต์

สำหรับ “อายุรถ” ที่จำเป็นต้องเริ่มตรวจสุขภาพแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ รถยนต์ที่มีอายุการใช้งานครบ 7 ปี และรถจักรยานยนต์ที่มีอายุการใช้งานครบ 5 ปี สิ่งที่ควรทำคือการนำรถไปตรวจสภาพกับตรอ. ให้เรียบร้อยก่อนต่อภาษีรถประจำปี รายละเอียดเกี่ยวกับประเภทรถมีดังต่อไปนี้

  • รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน ที่มีอายุการใช้งานครบ 7 ปีขึ้นไป
  • รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน ที่มีอายุการใช้งานครบ 7 ปีขึ้นไป
  • รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลที่มีอายุการใช้งานครบ 7 ปีขึ้นไป
  • รถจักรยานยนต์ที่มีอายุการใช้งานครบ 5 ปีขึ้นไป

สำหรับวิธีการนับอายุของรถก่อนนำมาตรวจสภาพ ตามหลักการแล้วจะนับตั้งแต่วันที่จดทะเบียนครั้งแรก จนถึงวันที่สิ้นสุดอายุภาษีประจำปี เช่น หากรถยนต์มีการจดทะเบียนปี พ.ศ.2564 จะต้องเริ่มตรวจสภาพรถ ตรอ. ในปี พ.ศ. 2571 เป็นต้น เพราะการต่อภาษีรถยนต์ เกิน 7 ปี อายุของรถแบบนี้ต้องตรวจสภาพก่อน โดยสามารถนำรถไปตรวจสภาพล่วงหน้าได้ไม่เกิน 3 เดือน ก่อนวันหมดอายุภาษีประจำปี

ตรวจสภาพรถ ตรอ. ตรวจอะไรบ้าง?

กรณีที่คุณจะต้องนำรถยนต์ไปตรวจสภาพก่อนตรวจภาษีประจำปีเป็นครั้งแรก อาจสงสัยว่า ตรอ. จะตรวจอะไรบ้าง? เราลิสต์มาให้คุณแล้ว

  1. ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลรถ เช่น หมายเลขตัวรถ ลักษณะรถ เลขเครื่องยนต์ แผ่นป้ายทะเบียน เป็นต้น
  2. ตรวจสอบระบบภายใน เช่น ระบบรองรับน้ำหนัก ระบบเชื้อเพลิง ระบบบังคับเลี้ยว
  3. ตรวจสอบสภาพตัวรถ เช่น อุปกรณ์เกี่ยวกับความปลอดภัย พวงมาลัย ที่ปัดน้ำฝน สี ตัวถัง
  4. ตรวจสอบวัดโคมไฟน้า ทิศทางการเบี่ยงเบนของแสง และวัดค่าความเข้มของแสง
  5. ทดสอบประสิทธิภาพการเบรค ด้วยการตรวจสอบอุปกรณ์ทุกชิ้นว่าอยู่ในภาพที่พร้อมใช้งานหรือไม่
  6. รถยนต์เครื่องดีเซลต้องตรวจควันดำ โดยระบบการกรองต้องไม่เกินร้อยละ 50 และระบบความทึบแสงต้องไม่เกินร้อยละ 45
  7. ตรวจสอบวัดก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ และก๊าซไฮโดรคาร์บอนของรถยนต์ส่วนบุคคลไม่เกิน 7 ที่นั่ง
  8. ตรวจวัดเสียงรถ (ต้องดังไม่เกิน 100 เดซิเบล)
ตรอ ใกล้ฉัน ตรวจอะไรบ้าง | ประกันรถยนต์ | รู้ใจ

ตรวจสภาพรถยนต์ต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง?

การนำรถยนต์ไปตรวจสภาพที่ ตรอ. ทุกครั้ง จำเป็นจะต้องเตรียมเอกสารให้ครบถ้วน เพื่อความรวดเร็วในการใช้บริการ โดยสิ่งที่จำเป็นต้องเตรียมให้พร้อมมีดังนี้

  • รถยนต์คันที่จะตรวจสภาพ
  • เอกสารเล่มทะเบียนรถ (ทะเบียนรถยนต์เล่มสีน้ำเงิน, ทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์เล่มสีเขียว) หรือใช้สำเนาทะเบียนรถแทนได้

ค่าตรวจสภาพรถที่ตรอ. ราคาเท่าไหร่?

ในส่วนของค่าตรวจสภาพรถยนต์ ราคาจะแบ่งออกตามประเภทรถ ดังนี้

  • รถจักรยานยนต์ คันละ 60 บาท
  • รถยนต์ที่มีน้ำหนักรถเปล่าไม่เกิน 1,600 กิโลกรัม คันละ 150 บาท
  • รถยนต์ที่มีน้ำหนักรถเปล่าเกิน 1,600 กิโลกรัม คันละ 250 บาท

รถแบบไหนที่ไม่สามารถตรวจสภาพกับตรอ.?

แม้ว่า ตรอ. จะได้รับอนุญาตจากกรมขนส่งทางบก ให้สามารถตรวจสภาพรถก่อนต่อภาษีรถได้ก็ตาม แต่ในบางกรณี เช่น ลักษณะรถบางประเภท ที่จะต้องไปตรวจสภาพรถยนต์ที่กรมการขนส่งทางบกเท่านั้น ลักษณะรถที่ว่ามีรายละเอียดดังนี้

  • รถที่ทำการเปลี่ยนสีตัวถัง เปลี่ยนแปลงตัวรถ หรือส่วนใดส่วนหนึ่ง จนไม่เหลือรายละเอียดที่ระบุเอาไว้ในคู่มือทะเบียนรถ เช่น การเปลี่ยนชนิดน้ำมันเชื้อเพลิง การเปลี่ยนเครื่องยนต์ เป็นต้น
  • รถที่เจ้าของแจ้งไม่ใช้ชั่วคราว หรือแจ้งไม่ใช้รถเอาไว้กับกรมการขนส่ง
  • รถที่ทำการดัดแปลงสภาพไม่เหมือนตอนที่จดทะเบียนไว้
  • รถเก่าที่มีเลขทะเบียนรุ่นเก่า เช่น กท-0001, กทจ-0001 เนื่องจากจะต้องทำการเปลี่ยนเป็นรุ่นใหม่
  • รถที่ไม่แสดงเลขตัวรถหรือเลขเครื่องยนต์ ไม่ว่าจะเป็นการขูด ขีด แก้ไข หรือชำรุด จนไม่สามารถตรวจสอบความถูกต้องได้
  • ยานพาหนะที่เคยสูญหาย หรือโดนโจรกรรมแล้วได้คืน
  • รถที่ขาดการต่อทะเบียนเกิน 1 ปี

หากไม่ต้องการเสียเวลาแนะนำให้ตรวจสอบสภาพรถของตัวเองให้ดี ว่าอยู่ภายใต้เงื่อนไขรถยนต์ที่ไม่สามารถตรวจสภาพที่ ตรอ. และอย่าลืมเตรียมเอกสารที่จำเป็นต้องใช้ไปให้พร้อม 

ตรวจสภาพรถยนต์ไม่ผ่าน ต้องทำยังไงต่อ?

กรณีที่การตรวจสภาพรถยนต์ผ่านไปได้ด้วยดี ตรอ. จะดำเนินการออกใบรับรองตามกำหนดกรมการขนส่งทางบก เพื่อให้คุณทำเรื่องต่อภาษีรถยนต์ประจำปีเป็นขั้นตอนต่อไป​ ซึ่งใบรับรองดังกล่าวมีอายุการใช้งานเพียงแค่ 3 เดือนเท่านั้น แนะนำว่าเมื่อตรวจสภาพรถเสร็จแล้ว ควรทำเรื่องต่อภาษีรถให้เร็วที่สุด เพื่อให้การใช้งานรถบนถนนไม่ต้องเจอปัญหาว่าเป็นรถยังไม่ต่อภาษี

แต่ถ้าหากเป็นกรณีที่ตรวจสภาพรถยนต์ไม่ผ่าน ตรอ.จะดำเนินการแจ้งข้อบกพร่องให้คุณทราบแทน เพื่อที่จะได้นำรถไปแก้ไขแล้วกลับมาตรวจสภาพใหม่อีกครั้ง โดยจะมีระยะเวลาในการแก้ไข 15 วันเท่านั้น ในส่วนของค่าบริการในการตรวจสภาพรถยนต์หลังจากแก้ไขแล้ว จะคิดเพียง 50% จากประเภทรถยนต์ของคุณเท่านั้น

วิธีค้นหาตรอ. ใกล้ฉัน

หากคุณไม่รู้ว่าศูนย์ตรวจสภาพรถใกล้บ้านอยู่ตรงไหน สามารถค้นหาได้อย่างง่ายดาย ด้วยการพิมพ์คำว่า ตรวจสภาพรถยนต์ หรือ ตรอ ใกล้ฉัน หรือ ตรวจสภาพรถ ตรอ ใกล้บ้าน บนเว็บไซต์ เพียงเท่านี้ก็จะปรากฏพิกัดของศูนย์ตรวจสภาพรถในละแวกบ้านมาให้คุณทันที นอกจากนี้ยังมีรายละเอียดอื่น ๆ พ่วงมาด้วย เช่น เวลาเปิดปิด เบอร์โทรศัพท์ รวมถึงแผนที่นำทางที่ช่วยให้คุณเดินทางไปตรวจสภาพรถได้สะดวกสบายมากขึ้น

ไม่ต่อภาษีรถได้มั้ย?

ไม่ว่าคุณจะลืม ละเลย หรือตั้งใจปล่อยให้ภาษีรถยนต์ขาด แน่นอนว่าจะมีผลเสียตามมา คือเรื่อง “ค่าปรับ” ที่คุณจะต้องจ่ายให้กับกรมการขนส่งทางบก ในอัตราเดือนละ 1% จากค่าภาษีรถยนต์ประจำปี กรณีที่เจ้าหน้าที่ตรวจภาษีรถยนต์แล้วพบว่ารถยนต์ขาดภาษี จะมีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท เว้นแต่กรณีที่ภาษีขาดมากกว่า 3 ปีขึ้นไป รถยนต์ของคุณจะถูกระงับป้ายทะเบียนทันที เพราะฉะนั้นอย่าได้คิดละเลยหรือตั้งใจปล่อยให้ภาษีรถยนต์ขาดเด็ดขาด

สามารถติดตามข่าวสาร สาระความรู้เกี่ยวกับสุขภาพ รถยนต์ มอเตอร์ไซค์ รวมถึงประกันภัยออนไลน์ต่าง ๆ จากรู้ใจได้ที่ Facebook Page: Roojai หรือคลิกที่นี่เพื่อเพิ่มเราเป็นเพื่อนใน LINE ได้เลย (Official Line ID: @roojai)