สวัสดีครับชาวรู้ใจ กลับมาพบกับสาระดี ๆ ที่ทาง CARRO นำเสนอให้อ่านกันในอีกเช่นเคยนะครับ ช่วงนี้แม้ว่าเด็กเล็ก ๆ ของโรงเรียนอนุบาลจะเปิดเทอมกันอีกครั้ง คุณพ่อคุณแม่หลายคน อาจจำเป็นต้องขับรถไปส่งลูก หรือให้ลูกไปกับรถโรงเรียน
แต่ก็มีให้เห็นความ “เผลอเรอ” หรือความ “ประมาท” ที่อาจเกิดอันตรายกับลูกได้ อย่างเหตุการณ์ “เด็กติดอยู่ในรถ” ที่เป็นข่าวหลายครั้ง ทำให้เด็กเกิดความกลัว หรืออาจเกิดอันตรายถึงชีวิตได้
ปัญหาหลัก ๆ ของการที่เด็กติดอยู่ในรถนั้น เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น เด็กซน มือเผลอไปกดปุ่มล็อกประตูรถ หรือพ่อ-แม่ ลงจากรถไปทำธุระ โดยที่มีเด็กอยู่ในรถ แล้วระบบล็อกรถยนต์ทำงานขึ้นมา หรือแม้แต่คุณครูอาจจะตรวจสอบเด็กที่ลงจากรถไม่ครบ จนเกิดเป็นข่าวเศร้ากันบ่อย ๆ
โดยปกติ หากเด็กติดอยู่ในรถที่จอดกลางแดด 5 นาที ผ่านไป ในรถจะร้อนขึ้นจนไม่สามารถทนอยู่ได้ ยิ่งติดนานร่างกายยิ่งแย่ และถ้าหากติดอยู่ในรถนานกว่า 30 นาทีขึ้นไป เลือดภายในร่างกายจะมีภาวะเป็นกรด อาจช็อกหมดสติ สมองบวม และถึงขั้นเสียชีวิตได้
แล้วจะทำอย่างไรดีล่ะ? ในการป้องกันเด็กติดอยู่ในรถ Mr.Carro มีคำแนะนำมาฝากคุณพ่อคุณแม่ครับ
1.แง้มกระจกไว้หน่อย
กรณีที่ต้องให้เด็กอยู่ในรถด้วย ให้แง้มกระจกรถไว้ประมาณ 1 ส่วน 4 ของทั้ง 4 บาน เผื่อป้องกันเด็กติดอยู่ในรถ โดยผู้ใหญ่สามารถเอื้อมมือไปปลดล็อกที่ประตูได้
2.พาเด็กลงไปด้วย
จริง ๆ แล้ว นี่จัดว่าเป็นวิธีที่ดีที่สุดเลย เพราะอุ้มเด็ก หรือพาเด็กออกนอกรถไปด้วย ปลอดภัยสุด ป้องกันเด็กซน เล่นเซ็นทรัลล็อกประตู เบรกมือ หรือเปลี่ยนเกียร์ เหยียบคันเร่งเล่น ซึ่งอาจเกิดอันตรายได้
กรณีถ้าเป็นรถโรงเรียน ครูพี่เลี้ยง หรือคนขับรถ ควรตรวจดูภายในรถให้เรียบร้อยก่อนปิดล็อก เพื่อตรวจสอบว่ามีเด็กคนไหนหลับหรือหลบอยู่ โดยที่ครูไม่ทันสังเกตหรือไม่ รวมถึงจะได้ตรวจสอบสิ่งของที่ลืมไว้บนรถด้วย
ทางที่ดี พ่อแม่หรือผู้ปกครองเด็ก ควรโทรสอบถามครู หรือผู้ที่รับเด็กไปว่าถึงที่หมายหรือยัง เด็กลงจากรถและเข้าโรงเรียนแล้วหรือยัง หรืออาจถ่ายรูปเด็กที่รับส่งทุกคนให้พ่อแม่ทราบทางไลน์กลุ่ม ว่าลูกถึงโรงเรียนอย่างปลอดภัยแล้ว
3.สอนเด็กอย่างไร ให้เอาตัวรอดได้
ถ้าหากคุณมีลูกที่โตหน่อย (ประมาณ 5-6 ขวบ ขึ้นไป เริ่มพอที่จะรู้เรื่องอะไรบ้างแล้ว) เช่น สอนให้เด็กกดแตรรถ เพื่อส่งสัญญาณให้คนภายนอกรู้ถึงความผิดปกติ หากมีอะไรเกิดขึ้นในรถ หรือการสอนให้เด็กรู้จักเปิดประตูรถเองได้ (ซึ่งควรจะสอนให้เด็กรู้ด้วยว่า ทำในยามจำเป็นเท่านั้น) ไว้ก็ดีนะครับผม แม้ว่าในยุคนี้ จะมีคนคิดค้น อุปกรณ์ช่วยเด็กติดในรถ พร้อมส่งสัญญาณแจ้งเตือน แล้วก็ตามที …
กรณีที่เด็กติดอยู่ในรถแล้ว …
หากเกิดกรณีที่เด็กติดในรถแล้ว รีบตามคนมาช่วยเป็นอันดับแรก เช่น ตามช่างกุญแจ ที่สามารถสะเดาะกุญแจได้ หรือตามตำรวจ หน่วยกู้ภัย มาช่วยด้วย เพราะอาจจะต้องปฐมพยาบาลเด็กด้วย หรือถ้าหากยังเปิดประตูไม่ออก ขั้นสุดท้ายอาจต้องทุบกระจก (โดยเลือกทุบส่วนที่เป็นหูช้างบานหลัง) เพื่อเอื้อมมือเข้าไปเปิดล็อกภายในรถ
แล้วรีบอุ้มเด็กออกมาในสายที่อากาศถ่ายเท ปลดเสื้อหรือคลายเสื้อเด็กให้หลวม หาผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัวเด็ก เพื่อให้ร่างกายได้ระบายความร้อน เช็ดตามหน้า และตามตัว บริเวณหลอดเลือดใหญ่ อย่างเช่น ซอกคอ แขน และขา เป็นต้น
หากเด็กไม่หายใจให้รีบทำ CPR ปั๊มหัวใจทันที โดยวิธีการที่ถูกต้องก็คือ ให้วางส้นมือข้างหนึ่งไว้ตรงกลางหน้าอกของเด็กในระดับราวนม จากนั้นใช้มืออีกข้างวางบนหน้าผากพยายามให้เด็กหงายหน้าขึ้นเพื่อเปิดทางเดินหายใจ จากนั้นกดหน้าอกลงไปประมาณ 1 ใน 3 ของความลึกของหน้าอก โดยให้กดเร็ว ๆ แบบไม่หยุดครั้งละประมาณ 30 ครั้ง
ส่วนใครกำลังมองหารถมือสองสภาพเยี่ยม ราคาสบาย ๆ Carro แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ เรามีรถให้คุณเลือกมากมาย คุณสามารถจองรถได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น! พร้อมคำนวณสินเชื่อและค่างวด ได้ภายในเว็บไซต์ทันที!
ซึ่ง Carro เรามีรถให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพโดย Carro Certified อย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด, การันตีคืนเงินภายใน 5 วัน, รับประกันเครื่องยนต์และเกียร์ 1 ปี, รับประกันไม่กรอไมล์ และไม่ประสบอุบัติเหตุหนัก ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม พร้อมรับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร!
ที่สำคัญ Carro เรายังมีให้บริการสินเชื่อรถยนต์แก่ลูกค้าทุกท่านผ่านทาง Genie หรือ บริษัท จีนี่ เซอร์วิส จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทสินเชื่อในเครือ Carro สมัครง่าย อนุมัติไว รู้ผลทันที ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม กับ Carro สิ!
หรือถ้าหากคุณสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงกรอกชื่อ-เบอร์โทรศัพท์ และรถที่คุณสนใจ ไว้ที่ “รับการแจ้งเตือน” เมื่อมีรถที่คุณต้องการ Carro จะรีบติดต่อไปยังคุณทันที
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook -> Carro Thailand โทร. 02-460-9380 หรือทาง Line @carrothai ครับ