Roojai

เปิด! รายได้ไรเดอร์ส่งอาหาร เจ้าไหนจ่ายหนัก อัปเดต 2567

เผยรายได้ไรเดอร์ส่งอาหารแต่ละแอปพลิเคชั่น | รู้ใจ ประกันออนไลน์

หลาย ๆ คนคงเคยใช้บริการแอปพลิเคชั่นเดลิเวอรี ในการสั่งอาหาร ส่งของ หรือเดินทางไปไหนมาไหน ซึ่งบริการนี้จะขาดอาชีพไรเดอร์ไปไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นไรเดอร์ส่งอาหาร ไรเดอร์ส่งของ รับ-ส่งคน บทความนี้จะพาเจาะลึกการทำงานไรเดอร์ส่งอาหาร ทั้งรายได้ ต้นทุนที่ต้องจ่าย รวมถึงความเสี่ยงด้านสุขภาพและอุบัติเหตุ มาดูกันว่าคุ้มค่าหรือไม่ ขับไรเดอร์ปี 2567 คุ้มค่าหรือเปล่า? ติดตามไปด้วยกันเลย

สนใจอ่านแค่บางเรื่อง ก็เลือกได้เลย!

อาชีพไรเดอร์ คืออะไร?

อาชีพไรเดอร์ คืออาชีพอะไร? คำว่าไรเดอร์ (Rider) เป็นคำเรียกพนักงานที่ทำหน้าที่ส่งคน อาหาร หรือสินค้า ตามคำสั่งซื้อของลูกค้าผ่านแอปพลิเคชั่นเดลิเวอร์รีต่าง ๆ เช่น Grab, Foodpanda, Robinhood, Lineman เป็นต้น งานไรเดอร์นี้ได้รับความนิยมมากขึ้นในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 เพราะผู้คนเริ่มหันมาสั่งอาหารและสินค้าผ่านแอปพลิเคชั่นมากขึ้น โดยไรเดอร์มักจะมีการทำงานที่ยืดหยุ่น แต่หากต้องการรายได้ที่ดีก็ต้องทำงานติดต่อกันนานขึ้นอยู่กับความขยันและจำนวนงานที่ได้รับ

ต้นทุนและรายได้ไรเดอร์ส่งอาหาร | รู้ใจ ประกันออนไลน์

อาชีพไรเดอร์ส่งอาหารปี 2567 ต้องมีต้นทุนเท่าไหร่?

เมื่อเรารู้แล้วว่าไรเดอร์ คืออาชีพอะไร ต่อมาคือการทำไรเดอร์นอกจากรถมอเตอร์ไซค์ของเราแล้ว ยังต้องมีต้นทุนอะไรบ้าง และงานไรเดอร์ปี 2567 รายได้ดีมั้ย ในเรื่องนี้คุณอนุกูล ราชกุณา ผู้ประสานงานเครือข่ายสหภาพไรเดอร์ ได้กล่าวว่า “อาชีพไรเดอร์ในช่วงสถานการณ์โควิดที่ผ่านมา ถือเป็นอาชีพที่สร้างรายได้ให้กับหลายคน แต่พอนานเข้าผู้ประกอบการแอปพลิเคชั่น มีการปรับเปลี่ยนการจ่ายงาน และค่าจัดส่งในแต่ละรอบ จนทำให้ไรเดอร์หลายคนต้องไปหางานอื่นทำแทน เนื่องจากไม่คุ้มกับความเสี่ยงที่เกิดขึ้น” และจากการจากการเก็บรวบรวมข้อมูลของคุณอนุกูลพบว่า

  • ต้นทุนค่าแรกเข้า – ต้นทุนของไรเดอร์ส่งอาหารมีอะไรบ้างสำหรับการสมัครครั้งแรก โดยการทำงานไรเดอร์มีต้นทุนอยู่ที่ประมาณ 4,000 บาท ซึ่งรวมถึงค่ากระเป๋า เสื้อ รวมไม่เกิน 2,000 บาท (ขึ้นอยู่กับแต่ละแอป) และหมวกกันน็อกคุณภาพดี ไม่เกิน 2,000 บาท (ขึ้นอยู่กับความตระหนักถึงความปลอดภัยและความจำเป็นของไรเดอร์แต่ละคน)
  • ค่าน้ำมัน – น้ำมันที่ใช้เฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 200-400 บาท ขึ้นอยู่กับชั่วโมงการทำงาน โดยอาชีพไรเดอร์ต้องทำงาน ประมาณวันละ 8 ชั่วโมงขึ้นไปถึงจะคุ้มค่า
  • รายได้วิ่งงานต่อวัน – สำหรับไรเดอร์ในเขตกรุงเทพฯ ต้องทำให้ได้ประมาณ 1,000 บาท และในต่างจังหวัดอยู่ที่ประมาณ 500 บาท ถึงคุ้มค่า

(ที่มา: thairath.co.th)

ไรเดอร์ส่งอาหารแต่ละแอป รายได้เท่าไหร่?

พอพูดถึงเรื่องรายได้ หลายคนอาจสงสัยว่าไรเดอร์ค่ายไหนดีสุด? บทความนี้จะพาเจาะลึกรายได้ไรเดอร์คร่าว ๆ ว่าแอปไรเดอร์แต่ละเจ้าให้เรทราคาเท่าไหร่ แต่ต้องบอกก่อนว่าอาจมีการเปลี่ยนแปลงเรทราคาไปตามเงื่อนไขของบริษัทนั้น ๆ อาชีพไรเดอร์มีรายได้ ดังนี้

1. ไลน์แมนไรเดอร์ (Line man)

สำหรับไลน์แมนไรเดอร์ การคำนวณรายได้ไรเดอร์ส่งอาหารต่อเที่ยวจะแบ่งตามพื้นที่ โดยตัวอย่างพื้นที่กทม. แบ่งออกเป็น 4 รูปแบบ ได้แก่

  1. เขตพื้นที่ธุรกิจสีแดง เช่น บางรัก ห้วยขวาง คลองเตย ฯลฯ ได้ค่ารอบเริ่มต้น 43 บาท
  2. พื้นที่รอบนอก (สีเหลือง) ในกรุงเทพฯ ได้ค่ารอบเริ่มต้น 38 บาท
  3. พื้นที่ปริมณฑล (สีเขียว) เริ่มต้น 37 บาท และ
  4. พื้นที่เขตสมุทรสาคร (สีเทา) เริ่มต้น 35 บาท

นอกจากนี้ไลน์แมนไรเดอร์ ยังมีรายได้ในส่วนของค่าตอบแทนอื่น ๆ คือ

  • ค่าตอบแทนเพิ่มเติมสำหรับงานพ่วงในทุกพื้นที่ที่ 15 บาท
  • โบนัสพิเศษขึ้นอยู่กับช่วงเวลา (สูงสุด) 12 บาท
ข้อดีของงานไรเดอร์ | รู้ใจ ประกันออนไลน์

2. ฟู้ดแพนด้าไรเดอร์ (FoodPanda)

รายได้ไรเดอร์ส่งอาหารของฟู้ดแพนด้า จะคิดตามระดับของฟู้ดแพนด้าไรเดอร์ มี 1-6 ระดับ เรียกว่า “แบตช์” (Batch) โดยแบตช์ที่ 1 (ระดับที่ 1) จะได้ค่ารอบมากที่สุด

  • ฟู้ดแพนด้าไรเดอร์ระดับแรกค่ารอบเริ่มต้น 39-40 บาทต่องาน
  • สำหรับต่างจังหวัดบางพื้นที่ค่ารอบเริ่มต้น 21 บาท
  • ต่างจังหวัดห่างไกลค่ารอบเริ่มต้น 17 บาท

3. โรบินฮู้ดไรเดอร์ (Robinhood)

สำหรับรายได้ไรเดอร์ส่งอาหารของโรบินฮู้ด ค่ารอบในกรุงเทพฯ เริ่มต้น 39 บาทต่องาน ค่ารอบในต่างจังหวัดเริ่มต้นที่ 28 บาทต่องาน รายได้เฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 25,000 – 35,000 บาทต่อเดือน โดยมีการตัดรอบทุก 6 โมงเย็น คนขับจะได้รับเงินในเวลา 4 ทุ่มของทุกวัน และไม่มีการหักเปอร์เซ็นต์รายได้ อีกข้อดีคือไรเดอร์ไม่ต้องใช้เงินสดออกค่าอาหารไปก่อน และไม่ต้องเก็บจากลูกค้าด้วย

แต่สำหรับใครที่สนใจเป็นไรเดอร์ส่งอาหารของ Robinhood ควรรู้! เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. 2567 บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) ได้แจ้งยุติการให้บริการของแอปพลิเคชั่น Robinhood จากนั้นในวันที่ 30 ก.ค. 2567 ก็ได้ออกมาแจ้งเลื่อนการยุติการให้บริการส่งอาหารของแอปพลิเคชั่น Robinhood ออกไป เนื่องจากบริษัทอยู่ในระหว่างการพิจารณาข้อเสนอเข้าซื้อกิจการทั้งหมดจากผู้ที่สนใจซึ่งมีจำนวนมากกว่าที่คาดไว้ ดังนั้นสำหรับคนที่สนใจเป็นไรเดอร์ของ Robinhood อาจต้องมีการติดตามข่าวสารของแอปพลิเคชั่นอย่างใกล้ชิด (ที่มา: thaipbs.or.th)

4. แกร็บฟู้ดไรเดอร์ (GrabFood)

สำหรับแกร็บฟู้ด GrabFood เป็นบริการที่มีชื่อเสียงและมีผู้ใช้งานเยอะ โดยแกร็บฟู้ด ไรเดอร์จะถูกเรียกว่า “พาร์ตเนอร์” รายได้ไรเดอร์ส่งอาหารต่อเที่ยว ดังนี้

  • ค่ารอบเริ่มต้น 28 บาทต่องานในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล
  • ค่ารอบเริ่มต้น 28-21-17 บาทในพื้นที่ต่างจังหวัดจนถึงจังหวัดห่างไกล

โดยพาร์ตเนอร์อาจได้รายได้เพิ่มเติมในกรณีที่รออาหารช้า และทางบริษัทได้ยกเลิกการหักค่าคอมมิชชันออกไป

ความเสี่ยงต่อสุขภาพและอุบัติเหตุของอาชีพไรเดอร์ | รู้ใจ ประกันออนไลน์

รู้มั้ย? อาชีพไรเดอร์เสี่ยงปัญหาสุขภาพอะไรบ้าง?

อาชีพไรเดอร์ส่งอาหาร ไรเดอร์ส่งของ หรือส่งคนไม่ได้เสี่ยงแค่อุบัติเหตุ! แต่ไรเดอร์จะมีความเสี่ยงทั้งต่ออุบัติเหตุ สุขภาพกาย และสุขภาพจิต โดยเกิดจากการทำงานที่ยาวนาน บางคนต้องทำ 8-12 ชั่วโมง รวมไปถึงความเร่งรีบในการทำงาน สภาพแวดล้อมอย่างการจราจร ไปจนถึงปัญหากับร้านอาหารและลูกค้า การต้องเผชิญกับแรงกดดันเหล่านี้ ทำให้ไรเดอร์มีความเสี่ยงต่อสุขภาพดังนี้

  • ปัญหาสุขภาพร่างกาย เช่น ปวดหลัง ปวดเอว ปวดข้อมือ จากการขับขี่รถเป็นเวลานาน รวมไปถึงโรคประจำตัวด้วย
  • ปัญหาสุขภาพจิตจากความเครียดระหว่างทำงาน ทั้งกับลูกค้า ร้านค้า และสภาพอากาศ
  • ปัญหาความเสี่ยงจากการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน เนื่องจากต้องแข่งกับเวลาในการส่งของ

งานไรเดอร์ต้องทำงานบนความกดดัน ความเร่งรีบ ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุมากขึ้น โดยอาชีพไรเดอร์เสี่ยงอุบัติเหตุจากรถมอเตอร์ไซค์ที่ทำให้มีโอกาสบาดเจ็บรุนแรงมากกว่ารถยนต์ ในส่วนของค่ารักษาพยาบาล แม้จะสามารถเบิกจากพ.ร.บ. ได้ตามที่จ่ายจริงเบื้องต้นไม่เกิน 30,000 บาท แต่ก็อาจยังไม่ครอบคลุม การทำประกันอุบัติเหตุเพิ่มก็เป็นอีกทางเลือก เพราะนอกจากค่ารักษาพยาบาลแล้ว ยังเลือกค่าชดเชยรายวันได้ด้วย ประกันอุบัติเหตุที่รู้ใจ เริ่มต้นแค่ 61 บาท/ปี ปรับแผนความคุ้มครองได้ เลือกขยายความคุ้มครองจากการโดยสารหรือขับขี่รถจักรยานยนต์เพิ่มเติมได้อีกด้วย

ทำไมคนถึงทำอาชีพไรเดอร์?

แม้ไรเดอร์จะเป็นอาชีพที่มีความเสี่ยง แต่ก็มีข้อดีหลายข้อที่ทำให้หลายคนเลือกที่จะทำงานนี้ ทั้งอาจทำเป็นงานประจำหรือพาร์ตไทม์ โดยอาชีพไรเดอร์มีข้อดี ดังนี้

  1. ความยืดหยุ่นในการทำงาน – งานไรเดอร์สามารถเลือกเวลาทำงานได้ตามความสะดวก ไม่ว่าจะเป็นการทำงานเต็มเวลาหรือพาร์ตไทม์
  2. รายได้ที่ดี – รายได้ไรเดอร์ขึ้นอยู่กับความขยันและจำนวนงานที่รับ
  3. โบนัสและสิทธิพิเศษ – ไรเดอร์มักจะได้รับโบนัสและสิทธิพิเศษต่าง ๆ เช่น โบนัสจากการวิ่งครบจำนวนรอบที่กำหนด หรือการสะสมแต้มเพื่อรับสิทธิพิเศษ
  4. ไม่ต้องมีนายจ้าง – อาชีพไรเดอร์เป็นนายตัวเอง สามารถจัดการเวลาทำงานและการพักผ่อนได้ตามต้องการ
  5. พบปะผู้คนใหม่ ๆ – การขับไรเดอร์ทำให้ได้พบปะผู้คนใหม่ ๆ และสร้างเครือข่ายทางสังคม

จะเห็นได้ว่า รายได้ไรเดอร์ส่งอาหารแต่ละบริษัทมีค่าตอบแทนให้แก่ไรเดอร์/พาร์ตเนอร์แตกต่างกัน รวมถึงมีการแบ่งพื้นที่ธุรกิจที่แตกต่างกัน ซึ่งส่งผลต่อค่าตอบแทนที่ไรเดอร์จะได้รับ นอกจากนั้นงานไรเดอร์ยังมีความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพทั้งร่างกาย จิตใจ รวมไปถึงอุบัติเหตุ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าหากขยันทำงานก็ได้รายได้ดีไม่น้อย รวมถึงมีเวลาการทำงานที่ยืดหยุ่นอีกด้วย

สามารถติดตามข่าวสาร สาระความรู้เกี่ยวกับสุขภาพ รถยนต์ มอเตอร์ไซค์ รวมถึงประกันภัยออนไลน์ต่าง ๆ จากรู้ใจได้ที่ Facebook Page: Roojai หรือคลิกที่นี่เพื่อเพิ่มเราเป็นเพื่อนใน LINE ได้เลย (Official Line ID: @roojai)

คำจำกัดความ

พาร์ตเนอร์ มีหลายความหมาย เช่น หุ้นส่วนทางธุรกิจ คู่สมรส เป็นต้น แต่ในบทความนี้หมายถึง ผู้ร่วมงานกัน ซึ่งใช้เป็นชื่อเรียกไรเดอร์ของแอปพลิเคชั่นแกร็บฟู้ด
แอปพลิเคชั่นเดลิเวอรี แอปพลิเคชั่นบนมือถือหรืออุปกรณ์เคลื่อนที่อื่น ๆ ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถสั่งอาหารหรือสินค้า โดยมีบริการจัดส่งถึงที่หมาย ไม่ต้องเดินทางไปที่ร้านเอง
พาร์ตไทม์ งานพาร์ตไทม์ (Part-time) คือการทำงานที่มีชั่วโมงการทำงานน้อยกว่างานเต็มเวลา (Full-time) สามารถเลือกทำงานตามเวลาที่สะดวกได้