แผ่นดินภาคอีสานหรือภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จุดเริ่มต้นแห่งอารยความเป็นไทย รวมไปถึงเรื่องราวทางประวัติศาสตร์มากมาย ธรรมชาติที่แปลกตาไม่เหมือนใคร แต่น่าเสียดายที่การรับรู้เรื่องราวสถานที่ท่องเที่ยวในภาคอีสานกลับเป็นที่รู้จักน้อยนิดเหลือเกิน รู้ใจจึงอยากเชิญชวนทุกคนออกเดินทางตามหาความงดงามของภาคอีสานผ่าน 10 สถานที่ท่องเที่ยวในภาคอีสาน ที่เราคัดสรรเอาไว้ รอให้ทุกคนออกไปเยี่ยมเยือน
โควิดซาแล้วอยากให้พากันไป! รับประกันเลยว่าสถานที่ท่องเที่ยว 10 แห่งที่เราจะพูดถึงในภาคอีสานนี้ คุณจะได้สัมผัสกับกลิ่นอายความเป็นอีสานได้อย่างครบถ้วนผสมความกลมกล่อมแห่งความสุขในการเดินทาง “เที่ยวเมืองไทย” ที่กลับมาอีกครั้งหลังจากห่างหายไปนานเพราะโควิด
รู้หรือไม่ว่าภาคอีสานคือดินแดนที่มีพื้นที่กว้างใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด 168,854 ตร.กม. ประกอบด้วยพื้นที่ 20 จังหวัด ในลักษณะภูมิประเทศที่แปลกตา ที่นี่คือดินแดนที่ยกตัวขึ้นมาเหนือระดับน้ำทะเลกลายเป็นที่ราบกว้างใหญ่ที่ใคร ๆ ต่างขนานนามกันว่า “ดินแดนแห่งที่ราบสูง”
จาก 20 จังหวัด กับขนาดพื้นฐานเหลือขนานับ จึงมีเรื่องราวมากมายให้คุณค้นหา เราจึงขอคัดเลือกมาเป็น 10 สถานที่ท่องเที่ยวภาคอีสาน ที่ถือเป็นสุดยอดแหล่งท่องเที่ยวที่ห้ามพลาด ดังนี้
1.วัดสหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์
เชื่อหรือไม่ว่าภาคอีสานมีไดโนเสาร์ ต้องบอกเลยว่าทั่วแคว้นแผ่นดินไทยนี้ มีเพียงแค่ภาคอีสานเท่านั้นที่มีเรื่องราวของไดโนเสาร์เป็นหลักฐานปรากฏหลงเหลืออยู่ และแหล่งที่มีการขุดพบไดโนเสาร์ที่มากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นั่นคือ วัดสหัสขันธ์ ในพื้นที่อำเภอเมือง จ.กาฬสินธุ์ นั่นเอง ที่นี่คือสถานที่พบโครงกระดูกไดโนเสาร์ตระกูลกินพืชที่ชื่อว่า ภูเวียงโกซอรัส สิรินธรเน่ มากที่สุดในโลกและเป็นโครงกระดูกที่มีความสมบูรณ์มากที่สุดเช่นกัน
2.แหล่งอารยธรรมโบราณบ้านเชียง จ.อุดรธานี
แผ่นดินอีสานเต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์อย่างยาวนาน หมดยุคไดโนเสาร์แล้ว แผ่นดินภาคอีสานยังมีแหล่งท่องเที่ยวก่อนประวัติศาสตร์ให้ได้เยี่ยมชมอีกด้วย สำหรับ ที่เที่ยวอีสาน ที่ขอแนะนำให้กับทุกคนในตอนนี้คือ แหล่งอารยธรรมโบราณบ้านเชียง จ.อุดรธานี ที่สามารถย้อนยุคไปไกลถึง 2500 ปีเลยทีเดียว ซึ่งสถานที่แห่งนี้ถูกยกให้เป็นแหล่งอารยธรรม มรดกโลกในประเทศไทยอีกด้วย ไปแล้วต้องไม่พลาดทักทายกับ คุณทองโบราณ เจ้าสุนัขที่ถูกออกแบบมาจากซากโครงกระดูกสุนัขโบราณที่ถูกขุดค้นพบ ณ ที่นี้ด้วย
3.ภูผาม่าน จ.ขอนแก่น
แหล่งท่องเที่ยวใหม่ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวของการผจญภัย วิถีชีวิตเกษตรอินทรีย์ จากดินแดนแห่งสงครามและความขัดแย้ง สู่ความสงบสุขร่มเย็นของ ภูผาม่าน จ.ขอนแก่น เหล่าภูเขาหินปูนสูงตระหง่านโอบล้อมเมืองเล็ก ๆ แห่งนี้เอาไว้ เต็มไปด้วยเรื่องราวที่น่าค้นหา พร้อมกับการต่อสู้ของเหล่าเกษตรกรที่เลือกปฏิเสธเกษตรเคมี มาสู่การทำเกษตรอินทรีย์เต็มรูปแบบ การมาพักผ่อนยังสถานที่แห่งนี้คือการชาร์ตพลังให้กับชีวิตได้อย่างดีมากเลยทีเดียว
4.อุทยานแห่งชาติภูจองนายอย จ.อุบลราชธานี
เมื่อพูดถึงภาคอีสาน ทุกคนคงนึกถึงแต่ความแห้งแล้งและไร้สีสัน แต่หารู้ไม่ว่า ในช่วงปลายต่อฤดูฝนถึงฤดูหนาว ดอกไม้บนลานหินตระการตาต่างพากันชูช่ออวดความสวยงามอันแสนมหัศจรรย์บนลานหินที่แต่เดิมแล้ง แห้งผาด ให้กลับมามีสีสัน มีชีวิตชีวาอีกครั้ง นับเป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติอันแสนพิเศษของทุ่งดอกไม้บนลานหินสุดละลานตา ณ อุทยานแห่งชาติภูจองนายอย อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี หนึ่งในที่เที่ยวอีสานที่เราไม่อยากให้คุณพลาด
5.วัดสองคอนมรณสักขี จ.มุกดาหาร
แผ่นดินภาคอีสานฉาบไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ แม้กระทั่งเรื่องราวของความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 กับเหตุการณ์ที่ต้องเก็บไว้เป็นบทเรียนและความทรงจำของการกระทบกระทั่งกันระหว่างการเมืองและศาสนา กับเรื่องราวของผู้กล้าที่ยอมสละชีวิตเพื่อความเชื่อของ 7 มรณสักขีแห่ง วัดสองคอนมรณสักขี จ.มุกดาหาร เรื่องราวที่ถูกซ่อนเร้นไว้มาอย่างยาวนาน พึ่งเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมเมื่อไม่นานมานี้
6.ภูกระดึง จ.เลย
ถือเป็นไฮไลต์แห่งภาคอีสานเลยก็ว่าได้ หากให้คุณเอ่ยถึง ที่เที่ยวอีสาน แห่งแรกที่คุณรู้จักแล้ว ชื่อของอุทยานแห่งชาติภูกระดึง จ.เลย คือภาพจำที่อยู่ในใจนักท่องเที่ยวมาอย่างยาวนานไม่ว่าคนเหล่านั้นจะเคยไปภูกระดึงหรือไม่ก็ตาม เรื่องราวของการเดินขึ้นเขากว่า 8 กิโลเมตร กับความเหนื่อยหอบระดับสุดยอด เพื่อสัมผัสกับหลังคาแห่งภาคอีสานที่เต็มไปด้วยความงดงามดังภาพวาดที่ถูกเขียนขึ้นมาอย่างเฉพาะเจาะจง เป็นแหล่งท่องเที่ยวในภาคอีสานที่คุณต้องมาเยี่ยมเยือนให้ได้สักครั้งในชีวิต
7.เทศกาลบั้งไฟพญานาค จ.บึงกาฬ
ภาคอีสานไม่ได้มีเพียงแค่แหล่งท่องเที่ยวเท่านั้น เรื่องราวของประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมยังคงเป็นความงดงามที่อยู่เคียงคู่กับภาคอีสานอีกด้วย โดยเทศกาลอันยิ่งใหญ่ที่ถือเป็นการรวมใจของคนภาคอีสานทั่วแถบลุ่มแม่น้ำโขงเอาไว้ด้วยกัน นั่นคือ เทศกาลบั้งไฟพญานาค จ.บึงกาฬ นั่นเอง ความแปลกประหลาดทางธรรมชาติวิทยากับฟองก๊าซสีเขียวนวลตาที่ผุดขึ้นมาจากกลางลำน้ำโขง ยังคงเป็นปรากฏการณ์ที่หาคำตอบไม่ได้ว่าเกิดจากอะไร และกลายเป็นเทศกาลที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทุกหนแห่งให้มาชมกับความงามตามธรรมชาติที่ไร้ซึ่งคำอธิบายนี้อยู่เสมอ
8.ประเพณีไหลเรือไฟ จ.นครพนม
อีกหนึ่งประเพณีที่อยู่คู่กับการบวงสรวงบูชาแม่น้ำโขงในวันออกพรรษา นั่นคือเทศกาลไหลเรือไฟในจังหวัดนครพนม การจุดผางประทีปทั่วลำน้ำเพื่อรอรับการกลับมาของพระพุทธเจ้าในการเสด็จกลับมาจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ในช่วงออกพรรษา กลายมาเป็นการประกอบเรือประดับไฟผางประทีปที่งดงามตระการตาไหลล่องไปตามลำน้ำโขงอย่างยิ่งใหญ่ ซึ่งเทศกาลนี้มีจัดเพียงวันเดียวเพียงปีละหนึ่งครั้ง เป็นมนต์เสน่ห์ที่คุณต้องมาสัมผัสให้ได้ในการมาเยือนแดนดินถิ่นอีสานที่จังหวัดนครพนมนั่นเอง
9.พระบรมธาตุนาดูน จ.มหาสารคาม
ภาคอีสานคือแหล่งแห่งพุทธศาสนา จังหวัดมหาสารคาม คือดินแดนที่ได้ชื่อว่า พุทธมณฑลแห่งอีสาน ด้วยการวางรากฐานทางศาสนามาอย่างยาวนับนับตั้งแต่ยุค ทวาราวดี ความยิ่งใหญ่ของอาณาจักรเขมรในยุคปราสาทหินนครวัด เรื่อยมาจนถึงยุคของราชอาณาจักรไทย กาลเวลาผันผ่านมายาวนานนับ 1,000 ปี แต่พุทธศาสนายังคงตั้งมั่นยืนหยัดเหนือแผ่นดินภาคอีสานเสมอมา และที่ตั้งตระหง่านเป็นเสาหลักแห่งอีสานคือ พระบรมธาตุนาดูน จ.มหาสารคาม จากพระธาตุโบราณสู่ศูนย์กลางทางพุทธศาสนาในถิ่นอีสานที่คุณต้องไม่พลาดมากราบไหว้สักการะบูชาให้ได้สักครั้ง
10.อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี จ.นครราชสีมา
ปิดท้าย 10 ที่เที่ยวอีสาน ที่ทุกคนไม่เคยพลาด และเมื่อถามคนอีสานทุกคนต่างบอกว่า ห้ามพลาดโดยเด็ดขาด กับการไปไหว้สักการะอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี วีรสตรีของชาวไทยและชาวอีสานในการสู้ศึกต่างบ้านต่างเมืองอย่างแข็งขัน แม้ว่าจะถูกคู่ต่อสู้ที่มีกำลังเหนือกว่ามายึดครอง แต่เพราะความเฉลียวฉลาดและแผนการรบอันแยบยลทำให้ทัพชาวบ้านแห่งโคราช สามารถคว่ำกองทัพยักษ์ใหญ่ของเจ้าอนุวงศ์แห่งเวียงจันทร์ลงได้อย่างราบคาบ เป็นภาพความทรงจำที่ชัดเจนในใจของคนอีสานเสมอมา และในเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปีมีการบวงสรวงสักการะดวงวิญญาณของท้าวสุรนารี หรือ ย่าโม ของคนโคราช ตามมาจนถึงปัจจุบัน
10 ที่เที่ยวอีสาน ที่รู้ใจได้นำเสนอเป็นเพียงเรื่องราวเล็ก ๆ บนหนังสือเล่มใหญ่ที่ชื่อว่าภาคอีสาน ซึ่งอยากท้าชวนให้ทุกคนออกไปสัมผัสเสน่ห์แห่งอีสานด้วยตัวของคุณเอง ที่สำคัญ! ทุกการเดินทางขับขี่ ท่องเที่ยวหรือใช้งาน รถของคุณต้องมีประกันภัยรถยนต์ติดไว้เสมอ เพราะในทุกเส้นทางอุบัติเหตุย่อมเกิดขึ้นได้ เลือกซื้อประกันรถยนต์ออนไลน์จากเรา ที่รู้ใจคุณมากกว่า เลือกได้หมดทุกการคุ้มครอง ปรับแต่งแผนได้ตามการใช้งานของคุณ ซื้อง่ายภายใน 3 นาที คุ้มครองได้ทันที มีบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชม. รับประกันงานซ่อมรถที่อู่ในเครือทั่วไทยนาน 12 เดือน รู้ใจกว่า ประหยัดกว่า
สามารถติดตามข่าวสารและโปรโมชั่นใหม่ ๆ จากรู้ใจได้ทาง FB fan page: Roojai หรือ คลิก add Official Line ของเราไว้ได้เลย
