เทศกาลปีใหม่กำลังจะมาถึง และทันทีที่เข้าสู่วันที่ 1 มกราคม – 31 มีนาคม 2566 ก็คือเทศกาลยื่นภาษีประจำปีของคนไทย ซึ่งสามารถยื่นได้ด้วยตนเองที่กรมสรรพากรหรือยื่นภาษีออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ของกรมสรรพากร หลายคนอาจเป็นมือโปรด้านลดหย่อนภาษี พอถึงเวลาก็แค่เข้าเว็บไซต์ของกรมสรรพากรและยื่นภาษีออนไลน์ ส่งเอกสารขอลดหย่อนภาษีทั้งหมดที่เตรียมไว้ก็เป็นอันเรียบร้อย ได้รับทั้งเงินคืนภาษี และได้ทำหน้าที่ของประชาชนไทยสำเร็จเสร็จสิ้น
ผู้ที่มีหน้าที่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปี คือบุคคลที่มีเงินได้เกิดขึ้นระหว่างปีที่ผ่านมา สำหรับคนที่ได้รับเงินเดือนประจำ กรมสรรพากรกำหนดให้ต้องยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา โดยแบ่งเป็นสถานภาพดังนี้
สถานภาพโสด
- กรณีมีเงินได้จากการจ้างแรงงาน (เงินเดือน ค่าจ้าง) เพียงประเภทเดียว จะต้องยื่นแบบภาษีเมื่อมีรายได้เกิน 120,000 บาท
- กรณีมีเงินได้จากการจ้างแรงงาน (เงินเดือน ค่าจ้าง) และมีเงินได้ประเภทอื่นด้วย เช่น มีรายได้จากการค้าขาย ค่าลิขสิทธิ์ เงินปันผล รายได้จากการเป็นฟรีแลนซ์ ฯลฯ จะต้องยื่นแบบภาษีเมื่อมีเงินได้เกิน 60,000 บาท
- กรณีมีเฉพาะเงินได้ประเภทอื่นที่ไม่ใช่เงินได้จากการจ้างแรงงาน จะต้องยื่นแบบภาษีเมื่อมีเงินได้เกิน 60,000 บาท
สถานภาพสมรส
- กรณีมีเงินได้จากการจ้างแรงงาน (เงินเดือน ค่าจ้าง) เพียงประเภทเดียว จะต้องยื่นแบบภาษีเมื่อมีเงินได้เกิน 220,000 บาท
- กรณีมีเงินได้จากการจ้างแรงงาน (เงินเดือน ค่าจ้าง) และมีเงินได้ประเภทอื่นด้วย จะต้องยื่นแบบภาษีเมื่อมีเงินได้เกิน 120,000 บาท
- กรณีมีเฉพาะเงินได้ประเภทอื่นที่ไม่ใช่เงินได้จากการจ้างแรงงาน จะต้องยื่นแบบภาษีเมื่อมีเงินได้เกิน 120,000 บาท
ผู้มีเงินเดือนเป็นรายได้เพียงอย่างเดียว ยื่นแบบ ภ.ง.ด. 91
ผู้มีเงินเดือนและรายได้ประเภทอื่น ๆ ร่วมด้วย ยื่นแบบ ภ.ง.ด. 90
ทำไมถึงต้องลดหย่อนภาษี
เพราะว่าคนที่มีรายได้สูง หากไม่นำรายการอื่น ๆ มาช่วยแบ่งเบาภาระ กรมสรรพากรกำหนดให้ต้องเสียภาษีโดยคำนวณจากเงินได้สุทธิ ซึ่งการยกเว้นภาษีจะยกเว้นให้ผู้มีเงินได้สุทธิไม่เกิน 150,000 เท่านั้น ในกลุ่มคนที่มีเงินได้สุทธิตั้งแต่ 150,501 บาทต่อปีขึ้นไป จะต้องเสียภาษีตามขั้นบันไดเงินได้ เริ่มตั้งแต่ 5% จนถึงสูงสุดที่ 35% ของเงินได้สุทธิต่อปีเลยทีเดียว
ซื้ออะไรใช้ลดหย่อนภาษีได้บ้าง
- กลุ่มค่าลดหย่อนส่วนตัวและครอบครัว
- กลุ่มประกัน เงินออม และการลงทุน
- กลุ่มค่าลดหย่อนเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์
- กลุ่มเงินบริจาค
- กลุ่มค่าลดหย่อนตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐ
ประกันมะเร็งลดหย่อนภาษีได้
ในบทความนี้จะขอพูดถึงเรื่องของประกันมะเร็งและประกันสุขภาพเพื่อใช้ลดหย่อนภาษีกัน โดยประกันมะเร็งและประกันสุขภาพที่เราซื้อ สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ทั้งของตัวเราเอง และของบิดามารดาด้วย ซึ่งประกันมะเร็งที่กำลังเป็นที่นิยมในการซื้อเพื่อลดหย่อนภาษีในขณะนี้ ถูกจัดรวมอยู่ในหมวดประกันสุขภาพ
- ประกันสุขภาพตัวเอง ลดหย่อนได้สูงสุด 25,000 บาท
- ประกันอุบัติเหตุที่มีค่ารักษาพยาบาล การสูญเสียอวัยวะ กระดูกแตก
- ค่ารักษาพยาบาล
- ประกันโรคร้ายแรง
- ประกันมะเร็ง
- • ประกันสุขภาพบิดา มารดา ลดหย่อนได้สูงสุด 15,000 บาท โดยบิดา มารดาต้องมีรายได้ต่อปีรวมกันไม่เกิน 30,000 บาท แต่ไม่จำเป็นต้องมีอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป
- หากบิดา มารดามีบุตร 2 คน บุตรสามารถหารเฉลี่ยการลดหย่อนภาษีจากประกันสุขภาพบิดา มารดาได้ คนละ 7,500 บาท หากมีบุตรมากกว่า 2 คน ก็สามารถหารเฉลี่ยตามจำนวนบุตรได้
ทำไมต้องซื้อประกันมะเร็งเพื่อลดหย่อนภาษี
เพราะการลดหย่อนภาษี นอกจากเป็นหน้าที่ตามกฎหมายของประชาชนแล้ว ยังเป็นการวางแผนทางการเงินเพื่อให้ได้เงินคืนภาษีในสิทธิที่พึงได้รับ ดังนั้นการซื้อประกันมะเร็ง ก็ถือเป็นการวางแผนทางการเงินอีกชนิดหนึ่งที่ทำให้คุณและคนในครอบครัวได้รับสิทธิประโยชน์จากความคุ้มครองโรคมะเร็ง ซึ่งสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับขึ้นอยู่กับกรมธรรม์แต่ละฉบับและข้อเสนอที่แตกต่างกันจากบริษัทประกัน ในภาพรวมจะพูดถึงประโยชน์ของประกันมะเร็งดังนี้
- นำเบี้ยประกันมะเร็งยื่นลดหย่อนภาษีตามที่กรมสรรพากรกำหนดได้
- ได้รับความคุ้มครองโรคมะเร็ง โดยประกันมะเร็งที่แนะนำ คือประกันมะเร็งที่ให้ความคุ้มครองต่อมะเร็งทุกชนิด ทุกระยะ รวมทั้งมะเร็งผิวหนังด้วย ซึ่งในบางบริษัทประกันมีการละเว้นโรคมะเร็งผิวหนังไว้
- ปกป้องครอบครัวจากภาระหนี้สินเมื่อต้องเจ็บป่วยหรือเข้ารับการรักษาโรคมะเร็ง
- มีเงินก้อนรองรับเมื่อคุณหรือคนในบ้านตรวจเจอโรคมะเร็งและต้องเข้ารับการรักษาโรคมะเร็ง เช่น ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ค่ายาบำรุง ค่าอาหารเสริม อาหารเฉพาะสำหรับผู้ป่วย อุปกรณ์ดูแลผู้ป่วยต่าง ๆ
- ไม่กระทบเงินเก็บในชีวิต เพราะเมื่อตรวจเจอโรคมะเร็ง เงินก้อนที่ได้รับจากประกันมะเร็งประเภทเจอ จ่าย จบ จะทำให้คุณหรือคนในครอบครัวบริหารค่าใช้จ่ายในการรักษาโรคมะเร็งได้โดยไม่กระทบกับเงินเก็บ
- หากคุณเป็นผู้นำครอบครัว หรือผู้นำครอบครัวเป็นมะเร็ง รายได้หลักของครอบครัวอาจกระทบเนื่องจากการรักษามะเร็งที่ใช้เวลานาน ส่งผลกับสุขภาพและการประกอบอาชีพ ดังนั้นเงินก้อนจากประกันมะเร็งจะช่วยทำให้ค่าใช้จ่ายต่อเดือนเป็นไปอย่างราบรื่นในระหว่างการรักษาตัวของผู้นำครอบครัว
ประกันมะเร็งที่รู้ใจดีอย่างไร
- อายุรับประกันตั้งแต่ 18-60 ปี (สามารถต่ออายุประกันได้จนถึง 65 ปี)
- คุ้มครองมะเร็งทุกชนิด ทุกระยะ รวมถึงมะเร็งผิวหนัง
- ค่าเบี้ยประกันคงที่นาน 5 ปี โดยยึดจากราคาเบี้ย ณ ปีแรกที่ซื้อ แม้อายุคุณเพิ่มคุณ แต่หากมีการต่อประกันมะเร็งทุกปีอย่างต่อเนื่องก็สามารถจ่ายเบี้ยราคาเดิมได้ ไม่ต้องจ่ายเบี้ยเพิ่ม
- สามารถเลือกวงเงินความคุ้มครองได้สูงสุด 3 ล้านบาท
- สามารถปรับแต่งเบี้ยประกันที่ต้องการจ่ายได้ โดยเป็นผู้กำหนดแผนกรมธรรม์ที่ต้องการซื้อเอง
- หากตรวจเจอโรคมะเร็ง บริษัทประกันภัยจะจ่ายเงินเต็มจำนวนตามวงเงินความคุ้มครองที่ระบุในกรมธรรม์ และถือเป็นการสิ้นสุดสัญญากรมธรรม์ประกันภัย (เจอ จ่าย จบ)
- ไม่ต้องตรวจสุขภาพ เพียงตอบคำถามสุขภาพเท่านั้น
- ซื้อง่ายผ่านเว็บไซต์ Roojai.com/cancer และได้รับเล่มกรมธรรม์ประกันมะเร็งภายใน 14 วันทำการ หรือระบุให้คอลเซนเตอร์รู้ใจติดต่อกลับเพื่อให้ข้อมูลต่าง ๆ ก่อนตัดสินใจ
- ราคาเบี้ยประกันเริ่มเพียงวันละ 5 บาท
- ลูกค้าสามารถดาวน์โหลดเอกสารสำคัญในการยื่นลดหย่อนภาษีได้ทุกที่ ทุกเวลา ผ่าน https://myaccount.roojai.com หรือแอปพลิเคชั่น Roojai Mobile App
- รับประกันโดย KPI บริษัท กรุงไทยพานิชประกันภัย จำกัด (มหาชน)
การมองหาสิ่งของที่จะซื้อมาเพื่อลดหย่อนภาษี ประกันมะเร็งจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะเป็นการวางแผนทางการเงินอีกหนึ่งทางที่ชาญฉลาดและครอบคลุม เนื่องจากเราใช้ชีวิตประจำวันโดยไม่ทันระมัดระวังได้รอบด้าน หรือต่อให้เฝ้าระวังความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งแล้ว ก็ยังมีสิ่งที่เราเลี่ยงไม่ได้อย่าง ‘อากาศ’ ในการหายใจ เพราะในอากาศยังมีละอองฝุ่น PM 2.5 ที่ถือว่าเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญของโรคมะเร็งปอดสะสมอยู่ทั่วไป หรือควันจากรถยนต์ รถโดยสาร อาหารปิ้งย่าง ทุกอย่างที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเราแต่ละวัน คือปัจจัยเล็กน้อยที่รอสะสมไปสู่การเป็นโรคมะเร็งชนิดใดชนิดหนึ่งเสมอ
รู้ใจไม่อยากให้ใครป่วย ไม่ว่าจะเป็นตัวคุณ หรือการที่คุณต้องมองเห็นคนในครอบครัวเจ็บป่วยจากโรคร้าย ล้วนเป็นความทรมานใจทั้งสิ้น การมีประกันมะเร็งไม่ได้หมายความว่า “เป็นมะเร็งแล้วจะได้เงินก้อน” เพียงเท่านั้น แต่หมายถึง “การมีทางเลือกในการรักษาและมีเวลาดูแลตัวเองมากขึ้นเมื่อเป็นมะเร็ง โดยไม่ต้องกังวลเรื่องเงิน”
เพราะเงินจำนวนเท่าไหร่ก็ไม่สามารถทดแทนได้กับความเจ็บป่วยใด ๆ ที่เกิดกับตัวคุณและคนในครอบครัว ไม่มีใครอยากป่วยเพื่อให้ได้เงินก้อน แต่หากเจ็บป่วยขึ้นมา นอกจากกำลังใจแล้ว การมีเงินเพียงพอสำหรับค่ารักษาและการใช้ชีวิตก็เป็นสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งที่ช่วยให้ผู้ป่วยและคนในครอบครัวสามารถต่อสู้กับโรคร้ายได้อย่างต่อเนื่อง ไม่หมดหวัง และมีโอกาสเอาชนะโรคมะเร็งร้ายได้สำเร็จ
สามารถติดตามข่าวสาร สาระความรู้เกี่ยวกับสุขภาพ รถยนต์ มอเตอร์ไซค์ รวมถึงประกันภัยออนไลน์ต่าง ๆ จากรู้ใจได้ที่ Facebook Page: Roojai หรือคลิกที่นี่เพื่อเพิ่มเราเป็นเพื่อนใน LINE ได้เลย (Official Line ID: @roojai)