สำหรับพนักงานออฟฟิศที่มีงานประจำ ที่มาพร้อมสวัสดิการค่าครองชีพ ค่ารักษาพยาบาลต่าง ๆ ส่วนใหญ่มักจะมองข้ามเรื่องของการทำประกันสุขภาพ เพราะคำตอบส่วนใหญ่จากคนรอบข้างที่เคยได้ยินมามักจะเป็นคำตอบที่คล้ายๆ กัน คือ “ก็มีประกันสุขภาพกลุ่มของบริษัทแล้ว ทำไมต้องซื้อประกันสุขภาพเพิ่มด้วย เปลืองเงิน” นี่เป็นคำตอบที่เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยิน และมีอีกหลายคนที่คิดแบบนี้
- ประกันสุขภาพคืออะไร?
- ประกันสุขภาพคุ้มครองอะไรบ้าง?
- ควรซื้อประกันเสริมจากประกันกลุ่มมั้ย?
- ซื้อประกันสุขภาพดีไหม? เหตุผลที่ควรซื้อประกันสุขภาพเพิ่ม
- รู้มั้ย ประกันกลุ่มและประกันสังคมใช้ร่วมกันได้?
ประกันสุขภาพส่วนบุคคลกับประกันสุขภาพกลุ่มพนักงาน ถึงจะมีความคล้ายในเรื่องของการมุ่งเน้นค่ารักษาพยาบาล แต่จริง ๆ แล้วประกันทั้งสองตัวนี้ไม่เหมือนกันยังไง ประกันภัยกลุ่ม คืออะไร เรามาเจาะลึกถึงความสำคัญของประกันสุขภาพกันในบทความนี้
ประกันสุขภาพคืออะไร?
ประกันสุขภาพเป็นประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลที่เกิดจากการเจ็บป่วย โรคภัยต่าง ๆ ให้แก่ผู้ที่เอาประกัน ตั้งแต่การเจ็บป่วยเล็กน้อยไปจนถึงการเจ็บป่วยหนักต้องนอนโรงพยาบาล เช่น ไข้หวัดใหญ่ ไข้เลือดออก หรือโรคร้ายแรงต่าง ๆ
ประกันสุขภาพมีกี่ประเภท?
- ประกันสุขภาพส่วนบุคคล – เป็นประกันสุขภาพที่ซื้อมาเพื่อให้ความคุ้มครองเฉพาะผู้เอาประกันเพียง 1 รายเท่านั้น โดยสามารถเลือกซื้อความคุ้มครองได้ตามความเหมาะสม
- ประกันสุขภาพกลุ่ม – ประกันกลุ่ม คือ ประกันสุขภาพที่ทำโดยบริษัทหรือนายจ้าง ซื้อความคุ้มครองนี้ไว้เพื่อให้เป็นสวัสดิการแก่พนักงานในองค์กร ซึ่งผลประโยชน์ความคุ้มครองต่าง ๆ ขึ้นอยู่กับบริษัท
ประกันสุขภาพคุ้มครองอะไรบ้าง?
หากถามว่าประกันสุขภาพคุ้มครองอะไรบ้างนั้น ขึ้นอยู่กับแผนประกันที่เลือกซื้อเอาไว้ บางแผนระบุความคุ้มครองเฉพาะโรค บางแผนให้ความคุ้มครองมากกว่า 1 โรค ความคุ้มครองต่อไปนี้ เป็นความคุ้มครองที่ประกันสุขภาพส่วนใหญ่มีให้เลือกซื้อ
1. ความคุ้มครองผู้ป่วยใน
ผู้ป่วยใน คือคุ้มครองผู้ป่วยที่ต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลไม่น้อยกว่า 6 ชั่วโมง ในบางกรณี เป็น Day Case เแบบผ่าตัดเล็ก เช่น การผ่าตัดโดยการส่องกล้อง การสลายนิ่ว ซึ่งแต่ละบริษัทจะมีเงื่อนไข Day Case ที่แตกต่างกัน บางบริษัทสามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลได้ บางที่ต้องแอดมิดเท่านั้นถึงจะเบิกได้
สำหรับความคุ้มครองผู้ป่วยใน เช่น ค่าห้อง ค่ารักษาพยาบาล ผู้ป่วยสามารถเช็คผลประโยชน์เหล่านี้ได้จากตัวแทน หรือเช็คด้วยตัวเองที่กรมธรรม์ที่เลือกซื้อเอาไว้
2. ความคุ้มครองผู้ป่วยนอก
สมัยก่อนประกันสุขภาพส่วนใหญ่จะต้องนอนโรงพยาบาลถึงจะเบิกค่ารักษาพยาบาลได้ แต่ในปัจจุบัน หลายบริษัทมีการออกแผนประกัน OPD (Out Patient Department) ที่ผู้เอาประกันไม่จำเป็นต้องนอนโรงพยาบาลก็สามารถเบิกเคลมค่ารักษาได้ เช่น เป็นไข้ อาหารเป็นพิษ เป็นต้น
3. ความคุ้มครองโรคร้ายแรง
ประกันโรคร้ายแรงเป็นประกันสุขภาพประเภทหนึ่งที่ให้ความคุ้มครองเจาะจงเฉพาะกลุ่มโรคร้าย แต่ละบริษัทจะคุ้มครองโรคร้ายหลัก ๆ คล้ายกัน อาจจะมีแตกต่างกันบ้างเล็กน้อย แต่จุดประสงค์คือ ค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่ครอบคลุม เพราะโรคร้ายแรงแต่ละโรคนั้น ใช้เงินในการรักษาพยาบาลไม่น้อย และบางโรคต้องรักษาอาการต่อเนื่องและยาวนาน
4. ความคุ้มครองอุบัติเหตุ
ประกันสุขภาพส่วนใหญ่จะมีความคุ้มครองอุบัติเหตุพ่วงมาด้วยแล้ว วงเงินในการรักษาก็จะขึ้นอยู่กับแผนที่เลือก โดยจะให้ความคุ้มครองเฉพาะการบาดเจ็บที่เกิดจากอุบัติเหตุเท่านั้น ตั้งแต่บาดเจ็บเล็กน้อยไปจนถึงทุพพลภาพหรือเสียชีวิต และต้องเข้าพบแพทย์ภายใน 24 ชั่วโมงหลังเกิดการบาดเจ็บ
ซึ่งหากบางคนต้องการซื้อประกันอุบัติเหตุเพิ่มเติมก็สามารถทำได้ เพราะประกันอุบัติเหตุโดยเฉพาะจะให้ค่ารักษาพยาบาลที่สูงกว่าประกันอุบัติเหตุที่ติดมากับกรมธรรม์ประกันสุขภาพ
5. ความคุ้มครองชดเชยรายได้
หากต้องนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาล ผู้เอาประกันท่านไหนที่เลือกซื้อความคุ้มครองชดเชยรายได้ไว้ด้วย ก็จะได้สินไหมทดแทนตามจำนวนวันที่ต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาล วันละเท่าไหร่นั้น ขึ้นอยู่กับแผนที่เลือกเช่นกัน มีตั้งแต่ ชดเชยคืนละ 500 บาทไปจนถึงหลักหลายพันบาท ตัวอย่าง นาง B ซื้อชดเชยรายได้ไว้คืนละ 2,000 บาท และต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล 4 คืน เท่ากับว่า นาง B จะได้รับเงินชดเชยรายได้ 2,000×4 = 8,000 บาท เป็นต้น และโดยเงินชดเชยรายได้ส่วนใหญ่จะกำหนดจำนวนวันสูงสุด เช่น ไม่เกิน 14 วัน ไม่เกิน 30 วัน เป็นต้น
ควรซื้อประกันเสริมจากประกันกลุ่มมั้ย?
ก่อนการตัดสินใจซื้อประกันภัยต่าง ๆ ควรตรวจสอบสิ่งที่เรามีอยู่ก่อน เช่น มีประกันภัยกลุ่มสวัสดิการพนักงานหรือไม่ ประกันสังคมมีไหม และประกันกลุ่มบริษัทที่มีอยู่นั้นมีค่ารักษาพยาบาลอยู่เท่าไหร่
- ยกตัวอย่าง – นาย ก. ตำแหน่ง Project Manager มีประกันสุขภาพกลุ่มพนักงาน โดยมี OPD อยู่ 2,000 บาท/ครั้ง มีค่ารักษาพยาบาลหากต้องนอนโรงพยาบาลอยู่ 40,000 บาท มีค่าห้องในการเข้ารักการรักษาอยู่ 2,000 บาท
หากมองดูผลประโยชน์ที่ได้รับจากประกันสุขภาพแบบกลุ่มจะเห็นว่า ค่าห้องในการนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาลมีแค่ 2,000 บาท ซึ่งค่าห้องในโรงพยาบาลเอกชนอย่างต่ำ ๆ ก็สตาร์ทที่ 4-5 พันบาท เท่ากับว่า นาย ก. ควรเลือกซื้อค่าห้องเพิ่มเติม และควรซื้อค่ารักษาพยาบาลเพิ่มเติม เพราะเดี๋ยวนี้แค่ผ่าตัดไส้ติ่ง ก็เริ่มต้นที่ 40,000 บาท ยังไม่รวมค่าหมอ พยาบาล ที่ต้องเดินเข้ามาตรวจ อุปกรณ์ต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อการรักษา จึงควรซื้อค่ารักษาพยาบาลเพิ่ม ซึ่งในปัจจุบัน มีแผนประกันแบบเหมาจ่ายให้เลือกมากมาย สามารถเลือกได้ตามความเหมาะสม และความสามารถในการชำระเบี้ยประกัน
รู้มั้ย? ประกันกลุ่มและประกันสังคมใช้ร่วมกันได้?
โดยเมื่อเราเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลตามสิทธิประกันสังคม เราอาจไม่ต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลที่เกินจากประกันสุขภาพแบบกลุ่ม เพราะโรงพยาบาลจะเรียกเก็บจากประกันสังคมให้นั่นเอง แต่หากเกินจากประกันสังคมอีก ค่าใช้จ่ายที่เหลือคือส่วนที่ต้องออกเอง ซึ่งสามารถแบ่งได้เป็น 2 กรณี
เมื่อเป็นผู้ป่วยนอก (OPD) – แจ้งโรงพยาบาลว่าจะใช้ประกันกลุ่มพนักงานและประกันสังคมร่วมกันก่อนรับรักษา
เมื่อเป็นผู้ป่วยใน (IPD) – แจ้งโรงพยาบาลว่าจะใช้ประกันสังคมและประกันกลุ่มพนักงานร่วมกัน แต่อัตราของค่าห้องอาจมากกว่าการรับรักษาด้วยประกันสังคมอย่างเดียว ทีนี้เราต้องมาเปรียบเทียบประกันกลุ่มอย่างเดียว ประกันสังคมอย่างเดียว หรือใช้ทั้งคู่ แบบไหนไม่มีส่วนเกินที่ต้องออกเองหรือมีน้อยที่สุด
ประกันอีก 2 ประเภทที่ไม่ควรมองข้าม คือ ประกันโรคร้ายแรงและประกันมะเร็ง เพราะทั้งประกันสุขภาพกลุ่มและประกันสุขภาพส่วนบุคคลนั้น มีค่ารักษาพยาบาลอยู่ก็จริง แต่หากเกิดเป็นโรคร้ายแรง หรือมะเร็งแล้ว ค่ารักษาพยาบาลที่มีจะเพียงพอหรือไม่ ที่สำคัญประกันโรคร้ายและประกันมะเร็งที่รู้ใจจะให้ความคุ้มครองเป็นเงินก้อน หากตรวจพบและได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ ทางบริษัท จะทำเรื่องจ่ายสินไหมเป็นเงินก้อนตามแผนที่ผู้เอาประกันเลือกไว้ เพื่อให้คุณบริหารใช้ในการรักษาไม่ว่าจะเป็นค่ายา ค่าฟอกไต ค่าเคมีบำบัด เป็นต้น
ซื้อประกันสุขภาพดีไหม? เหตุผลที่ควรซื้อประกันสุขภาพเพิ่ม
1. สภาพแวดล้อมที่แย่
ดูได้จากอากาศ มลภาวะต่าง ๆ ที่พวกเราทุกคนบนโลกกำลังประสบปัญหากันอยู่ในขณะนี้ อีกทั้งยังสารเคมีต่าง ๆ ในการเร่งกระบวนการเติบโตในสัตว์ สิ่งแวดล้อมในปัจจุบันที่แย่ลงเป็นสาเหตุของการเจ็บป่วย ที่คนในสมัยนี้มีโอกาสเกิดโรคได้ง่ายกว่าสมัยก่อน
2. โรคใหม่ ๆ เกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง
ตัวอย่างที่ผ่านมาคือ สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ที่เกิดขึ้นโดยที่พวกเราไม่ทันได้ตั้งตัว รวมถึงไม่ได้เตรียมเงินสำหรับค่ารักษาพยาบาล แต่หากมีประกันสุขภาพอยู่ในมือ ความกังวลตรงนี้จะหมดไป
3. จ่ายน้อยแต่คุ้มค่ามาก
ประกันสุขภาพในปัจจุบันนี้ มีแพคเกจออกมาให้เลือกมากมาย อีกทั้งยังสามารถเลือกแบ่งชำระเป็นรายเดือนได้ ไม่จำเป็นต้องจ่ายเป็นก้อน ทั้งนี้เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ที่มีรายได้น้อย และผู้ที่มีรายได้มากก็จะสามารถเลือกแผนความคุ้มครองที่กว้างขึ้นหลากหลายมากขึ้นได้อีกด้วย
ไม่ว่าจะซื้อประกันสุขภาพเพิ่มเติมเพื่อเสริมความคุ้มครองหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจและความจำเป็นของแต่ละคน แต่หากคุณไม่ได้เป็นคนที่มีเงินเก็บมากมายการซื้อความคุ้มครองเสริมประกันสุขภาพกลุ่มก็เป็นทางเลือกที่ดี ไม่งั้นหากป่วยสักครั้งนึงคงต้องเครียดเรื่องค่ารักษาพยาบาลไม่น้อย และยิ่งหากป่วยเป็นโรคร้ายแรงที่มีค่ารักษาแพงและต้องใช้เวลาในการรักษานาน แบบนี้นอกจากเจ็บป่วยแล้วยังต้องเครียดเรื่องเงินอีกด้วย ที่สำคัญคืออาจทำให้คุณต้องมีหนี้สินติดตัว จนกลายเป็นปัญหาบานปลายที่คูณต้องกลับมาจัดการเมื่อหายดีแล้วอีกด้วย
สามารถติดตามข่าวสาร สาระความรู้เกี่ยวกับสุขภาพ รถยนต์ มอเตอร์ไซค์ รวมถึงประกันภัยออนไลน์ต่าง ๆ จากรู้ใจได้ที่ Facebook Page: Roojai หรือคลิกที่นี่เพื่อเพิ่มเราเป็นเพื่อนใน LINE ได้เลย (Official Line ID: @roojai)
คำจำกัดความ
สวัสดิการ | สิ่งที่นายจ้างจัดให้แก่ลูกจ้าง นอกเหนือจากค่าจ้าง ที่ช่วยให้ลูกจ้างมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น |
Day Case | การเข้ารับการรักษาหรือการผ่าตัดแบบวันเดียวกลับ โดยที่ผู้ป่วยไม่ต้องนอนที่โรงพยาบาล |