โลกปัจจุบันเปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนมาก หากย้อนไป 20-25 ปีที่แล้ว การสื่อสาร เทคโนโลยี ต่าง ๆ ยังไม่ถูกพัฒนามาเหมือนในปัจจุบัน หากต้องการติดต่อสื่อสารกันที ต้องใช้การส่งอีเมลหรือจดหมาย กว่าจะตอบกลับต้องใช้เวลา 1-2 วัน จะประชุมกันแต่ละที ต้องมาประชุมกันในสถานที่ เดียวกัน สื่อรบกวนสมาธิในการทำงานยังมีน้อย เมื่อเทียบกับปัจจุบัน ที่ไม่ว่าจะอยู่มุมไหนของโลกก็สามารถประชุมหรือทำงานได้ แต่ก็แถมมากับปัญหาจากการใช้เทคโนโลยี สื่อโซเชียลมีเดีย ที่เกิดผลกระทบต่อสุขภาพของเรา โดยเฉพาะในเรื่องของสมาธิสั้น และยังเสี่ยงต่อการเกิดโรคซึมเศร้า โรคเครียด หรือไบโพลาร์อีกด้วย เราจะมีวิธีฝึกสมาธิอย่างไรบ้าง
- ฝึกสมองให้มีความพร้อม
- จัดระเบียบงาน
- ลืมโซเชียลมีเดียสักพัก
- กาแฟ และคาเฟอีนช่วยได้
- เลี่ยงการทำงานหลายอย่างพร้อมกัน
- ดนตรีช่วยสร้างสมาธิ
- ทำงานบ้าง พักบ้าง
- งดไลฟ์สไตล์ปาร์ตี้สังสรรค์ในวันทำงาน
“จับจด สมาธิสั้น วอกแวก” ไม่ว่าจะใช้คำไหน นั่นหมายถึงการที่เราไม่สามารถโฟกัสกับสิ่ง ๆ หนึ่งได้ หรือเรียกว่า ไม่มีสมาธิ ต้องบอกว่า เรามาดูวิธีสร้างสมาธิในที่ทำงานของพนักงานออฟฟิศทุกคน สามารถทำได้ง่าย ๆ มาฝึกจิตให้ไม่วอกแวกกันดีกว่า ด้านล่างนี้เลย
1. ฝึกสมองให้มีความพร้อม
สำหรับใครที่สวดมนต์ นั่งสมาธิเป็นประจำอยู่แล้ว ขั้นตอนในการเตรียมสมองให้มีความพร้อมในการทำงานไม่ใช่เรื่องยาก โดยก่อนเริ่มงานลองหลับตา แล้วจดจ่อกับลมหายใจของตัวเองประมาณ 1-2 นาที ให้รู้ว่าตอนนี้เรากำลังหายใจเข้า และตอนนี้เรากำลังผ่อนลมหายใจออก เพียงเท่านี้ก็จะสามารถเตรียมความพร้อมให้กับสมองของเราได้แล้ว และหากระหว่างวัน รู้สึกว่ามีสิ่งรบกวนสมาธิ ทำให้ไม่สามารถจดจ่อกับงานได้ ก็ให้หลับตาจดจ่อกับลมหายใจตัวเอง 1-2 นาที เป็นการเรียกสมาธิให้กลับมานั่นเอง
2. จัดระเบียบงาน
หลังจากเตรียมความพร้อมให้กับสมองของเราเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือจดงานที่ต้องทำในวันนี้ทั้งหมดลงบนสมุด โดยเรียงลำดับความสำคัญของงาน งานไหนที่เร่ง งานไหนไม่รีบ การเรียงลำดับความสำคัญของงาน จะช่วยให้เราทำงานได้ง่ายขึ้น และทำให้รู้ว่า ณ เวลานี้เราต้องโฟกัสเรื่องอะไรก่อน หากไม่ทำเช่นกัน งานต่าง ๆ จะปนเปอยู่ในหัวเต็มไปหมด ทำให้ไม่สามารถโฟกัสได้ว่าจะเริ่มจากอะไรก่อน
3. ลืมโซเชียลมีเดียสักพัก
หากคุณต้องการสมาธิในการทำงานชิ้นสำคัญให้เสร็จ ปัจจัยภายนอกรอบ ๆ ตัวมีส่วนสำคัญที่จะทำให้คุณเสียสมาธิได้ เช่น สื่อโซเชียลมีเดีย หากรู้ว่าต้องส่งงานนี้ให้ลูกค้าและมีเวลาไม่มาก แนะนำให้ปิดการรับรู้ทุกช่องทางไปก่อน เช่น
- ไม่เปิดหน้าโซเชียลมีเดียในคอมพิวเตอร์ขณะที่ทำงาน เช่น ไม่เข้าเฟซบุ๊ก ไม่ดูยูทูป
- ไม่หยิบมือถือมาดูแชทในไลน์
- ไม่เล่นโทรศัพท์
- ปิดเสียงมือถือ หรือเปลี่ยนเป็นระบบสั่นแทน เพื่อจะได้ไม่รบกวนสมาธิ
ผลลัพธ์จากการเอาตัวเองออกจากโซเชียลมีเดียสักพัก จะทำให้คุณเพิ่มสมาธิในทำงาน และงานเสร็จได้ทันตามกำหนดและมีประสิทธิภาพ
4. กาแฟ และคาเฟอีนช่วยได้
เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น ชา กาแฟ โกโก้ สามารถช่วยทำให้เรามีสมาธิในการทำงาน เนื่องจากคาเฟอีนจะไปช่วยในเรื่องการตื่นตัวของสมอง ทำให้ร่างกายรู้สึกกระปรี้กระเปร่า มีสมาธิในการทำงานมากขึ้น ที่สำคัญมันช่วยไล่อาการง่วงเหงา หาวนอน ได้ดีอีกด้วย
5. เลี่ยงการทำงานหลายอย่างพร้อมกัน
การทำงานได้แบบ Multitasking บริษัทหรือเจ้าของธุรกิจคนไหน ๆ ก็อยากได้ลูกน้องประเภทนี้อยู่แล้ว แต่ทราบหรือไม่ว่า การทำงานแบบ Multitasking หรือทำงานหลายอย่างพร้อมกัน ส่งผลให้งานที่ออกมาไม่ได้คุณภาพ งานไม่เสร็จ หรือเสร็จแบบลวก ๆ คนเรามีความชำนาญในหลายเรื่องได้ไม่ใช่เรื่องผิด แต่ไม่ควรนำความชำนาญนั้นมาใช้พร้อมกัน ควรจัดลำดับความสำคัญของงาน (ย้อนไปที่ข้อ 2) เพื่อจะได้เลี่ยงการทำงานหลายอย่างในเวลาเดียวกัน และมันยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับงานอีกด้วย
6. ดนตรีช่วยสร้างสมาธิ
เสียงเพลงหรือดนตรีเบา ๆ ที่มีแต่เสียงเครื่องดนตรีบรรเลง เป็นสิ่งที่เหมาะกับการสร้างสมาธิในการทำงาน แนะนำว่า ควรเป็นดนตรีแนวบรรเลงมากกว่าเพลงที่มีเนื้อร้อง
7. ทำงานบ้าง พักบ้าง
บางคนพอเห็นว่าสมาธิกำลังมา กำลังทำงานได้ดีเลยหักโหม ทำงานแบบไม่มีพักอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกาย เพราะคนส่วนใหญ่ทำงานกับคอมพิวเตอร์ การที่เราต้องนั่งจ้องจอคอมพิวเตอร์ตลอดทั้งวัน อาจส่งผลให้ตาเกิดอาการเหนื่อยล้า สมองเกิดความเครียด และมันจะส่งผลต่อสมาธิ ฉะนั้นควรหยุดพักสายตาและสมองระหว่างวันบ้าง ไม่เฉพาะแค่ตอนพักกลางวัน ควรหาเวลา 5 นาที ในช่วงเช้าก่อนพักกลางวัน และช่วงบ่ายอีก 5 นาที เดินออกจากโต๊ะทำงาน เปลี่ยนอิริยาบถบ้าง นอกจากจะช่วยเพิ่มความสดชื่นให้กับตัวเองแล้ว มันยังช่วยลดปัญหาเรื่องออฟฟิศซินโดรมได้อีกด้วย
8. งดไลฟ์สไตล์ปาร์ตี้สังสรรค์ในวันทำงาน
การดื่มเหล้า ไลฟ์สไตล์ปาร์ตี้ระหว่างวันทำงานเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ไม่มีสมาธิในการทำงาน เพราะวันรุ่งขึ้น หลังจากที่คุณไปดื่มมาแล้วนั่น ร่างกายยังคงมีแอลกอฮอลล์ตกค้างอยู่ ทำให้เกิดความไม่สบายตัวขึ้น บางคนมีอาการแฮงค์มากจนไม่สามาถลุกจากที่นอนได้ ทำให้ต้องเสียงานเสียการ ในบางคนที่พอจะลุกมาทำงานได้ ก็อาจจะมาแต่ร่างกายแต่จิตใจไม่พร้อมทำงาน การเลี่ยงการดื่มสังสรรค์ระหว่างวันทำงานจึงเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ควรทำ นอกจากความพร้อมในเรื่องของการทำงานยังช่วยเรื่องของการดูแลสุขภาพกายใจให้ดีขึ้นด้วย
ไม่ว่าพนักงงานออฟฟิศ ฟรีแลนซ์ หรือใครก็ตามที่กำลังอยู่ในช่วงทำงาน และอยากเพิ่มสมาธิ ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลองทำตามวิธีที่กล่าวถึงด้านบนได้เลย ในทางกลับกันหากใครประสบปัญหาเรื่องสมาธิสั้นมาก ๆ จนส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน ส่งผลกระทบต่องานและคนรอบข้าง เเนะนำให้ไปปรึกษาแพทย์เพื่อเข้ารับการรักษาจะดีที่สุด ก่อนที่จะส่งผลกระทบร้ายแรงต่อชีวิตประจำวัน หรือเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคที่ร้ายแรงมากขึ้น อย่างโรคซึมเศร้า โรคเครียด หรือไบโพลาร์อีกด้วย
สามารถติดตามข่าวสาร สาระความรู้เกี่ยวกับสุขภาพ รถยนต์ มอเตอร์ไซค์ รวมถึงประกันภัยออนไลน์ต่าง ๆ จากรู้ใจได้ที่ Facebook Page: Roojai หรือคลิกที่นี่เพื่อเพิ่มเราเป็นเพื่อนใน LINE ได้เลย (Official Line ID: @roojai)