เนื้องอกในมดลูกปัญหาภายในของผู้หญิงที่อาจเกิดขึ้นกับผู้หญิงคนไหนก็ได้ ส่วนใหญ่คนที่มีเนื้องอกในมดลูกมักจะไม่แสดงอาการอะไร แต่หากเป็นผู้ที่ตรวจภายในเป็นประจำทุกปีอาจจะสามารถรู้เท่าทันและสามารถป้องกันได้มากกว่าผู้ที่ไม่ตรวจภายใน ซึ่งการไม่แสดงอาการในระยะแรกของการเกิดเนื้องอกนั้น ทำให้ผู้หญิงหลายคนชะล่าใจจนละเลยการตรวจภายใน
- เนื้องอกในมดลูกคืออะไร?
- เนื้องอกในมดลูกเกิดขึ้นที่ไหน?
- เนื้องอกในมดลูก สาเหตุเกิดจากอะไร?
- เนื้องอกในมดลูก อาการเป็นยังไง?
- ใครบ้างที่มีความเสี่ยง?
- สัญญาณเตือนเนื้องอกมดลูก
- เนื้องอกในมดลูกกลายเป็นมะเร็งได้หรือไม่?
- วิธีตรวจเนื้องอกในมดลูก?
- วิธีรักษาเนื้องอกในมดลูก
- วิธีป้องกันเนื้องอกในมดลูก
ฉะนั้น การตรวจสุขภาพประจำปีและหากคุณเป็นเพศหญิงที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป ควรได้รับการตรวจภายในทุกปี หรือผู้หญิงที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก และให้นับไปอีก 3 ปี ควรตรวจภายใน เช่น มีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกตอนอายุ 21 ปี อายุ 24 หรือ 25 ปี ควรตรวจภายใน เป็นต้น ซึ่งในบทความนี้ รู้ใจจะหยิบเรื่องราวของเนื้องอกในมดลูกว่า มีสาเหตุมาจากอะไร อาการของเนื้องอกในมดลูกมีอาการอย่างไร ใครบ้างที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง รวมไปถึงการป้องกันและการรักษา
เนื้องอกในมดลูกคืออะไร?
เนื้องอกในมดลูกคือ การเจริญเติบโตของเซลล์กล้ามเนื้อมดลูกที่ผิดปกติ ที่สามารถเกิดได้ทั้งด้านนอกผนังมดลูก อยู่ในเนื้อมดลูกหรืออาจอยู่ในโพรงมดลูก ซึ่งเนื้องอกนั้นสามารถแบ่งได้เป็น เนื้องอกชนิดธรรมดาและเนื้องอกชนิดที่เป็นมะเร็ง
เนื้องอกในมดลูกเกิดขึ้นที่ไหน?
เนื้องอกในมดลูกที่แบ่งตามตำแหน่งการเกิดมีดังนี้
- เนื้องอกที่เกิดขึ้นบริเวณนอกผนังมดลูก – หากเนื้องอกก้อนนี้โตมากขึ้น อาจไปเบียดอวัยวะบริเวณใกล้เคียง หรืออาจส่งผลให้ผู้ป่วยมีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง
- เนื้องอกที่เกิดในเนื้อมดลูกหรือภายในผนังของมดลูก – เนื้องอกที่เกิดตำแหน่งนี้จะส่งผลให้ผู้ป่วยมีประจำเดือนมาก และมีบุตรยาก ทั้งนี้ยังขึ้นอยู่กับขนาดและตำแหน่งของเนื้องอกด้วย
- เนื้องอกในโพรงมดลูก – ถ้าเกิดเนื้องอกเกิดขึ้นที่บริเวณนี้ จะส่งผลให้ผู้ป่วยมีประจำเดือนมากแบบผิดปกติ ปวดท้องประจำเดือน มีบุตรยาก และมีโอกาสในการแท้งบุตรอีกด้วย
เนื้องอกในมดลูก สาเหตุเกิดจากอะไร?
ปัจจุบัน ทางการแพทย์ยังไม่สามารถหาสาเหตุเนื้องอกมดลูกเกิดจากปัจจัยอะไรได้บ้าง แต่พบว่า เนื้องอกในมดลูกมีความสัมพันธ์กับฮอร์โมนเอสโตรเจนที่ผลิตมาจากรังไข่ โดยพบว่า ผู้หญิงในวัยเจริญพันธุ์หรือมีอายุระหว่าง 20-50 ปี จะมีอัตราการเกิดเนื้องอกในมดลูกสูง และเมื่อเข้าสู่วัยหมดประจำเดือน เนื้องอกในมดลูกมักจะฝ่อตัวลง
เนื้องอกในมดลูก อาการเป็นยังไง?
สำหรับเนื้องอกในมดลูกอาการจะขึ้นอยู่กับขนาด และตำแหน่งของเนื้องอกที่ไปเบียดทับอวัยวะข้างเคียง ซึ่งจะมีอาการดังนี้
- ปวดท้องน้อย หรือปวดประจำเดือนรุนแรง
- มีประจำเดือนออกมามากผิดปกติ
- ปัสสาวะบ่อย
- ท้องผูก
- แท้งง่ายหรือมีลูกยาก
- อาจคลำพบก้อนที่ท้องได้ด้วยตัวเอง
ใครบ้างที่มีความเสี่ยง?
กลุ่มเสี่ยงในการเกิดเนื้องอกในมดลูกนั้น ได้แก่ กลุ่มผู้หญิงวัยทำงานที่ยังมีประจำเดือนและยังไม่เคยผ่านการมีบุตร ในทางกลับกัน ผู้หญิงที่อยู่ในช่วงวัยทองหรือวัยหมดประจำเดือน จะมีแนวโน้มการพบเนื้องอกในมดลูกน้อยกว่า เนื่องจากระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนลดลง ทำให้เนื้องอกไม่สามารถเจริญเติบโตได้ เนื้องอกจะฝ่อและตายไปในที่สุด
สัญญาณเตือนเนื้องอกมดลูก
หากคุณสังเกตเห็นอาการต่อไปนี้ ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจภายใน เพราะอาจเป็นสัญญาณของเนื้องอกมดลูก
- มีประจำเดือนมานานเกิน 1 สัปดาห์
- มีเลือดประจำเดือนออกมามาก
- รู้สึกปวดบริเวณท้องน้อยหรืออุ้งเชิงกราน
- ท้องน้อยบวมหรือขยายขึ้น
- รู้สึกเจ็บปวดขณะมีเพศสัมพันธ์
- ต้องปัสสาวะบ่อยขึ้น
- ปัสสาวะไม่หมด
- มีอาการท้องผูก
- สัญญาณเนื้องอกมดลูก ปวดหลังส่วนล่างหรือปวดขา
เนื้องอกในมดลูกกลายเป็นมะเร็งได้หรือไม่?
สามารถกลายเป็นมะเร็งได้ แต่มีโอกาสน้อยมากเพราะเนื้องอกที่พบส่วนใหญ่จะเป็นเนื้อดีไม่ใช่เนื้อร้าย และ 80% จะไม่ใช่มะเร็ง แต่หากตรวจพบก้อนเนื้องอกในมดลูกไปเบียดอวัยวะอย่างเช่น ท่อไต อาจส่งผลให้เกิดโรคไตได้
แม้เนื้องอกในมดลูกจะมีโอกาสเป็นสาเหตุการเกิดมะเร็งปากมดลูกหรือมะเร็งอื่น ๆ ได้น้อยมาก แต่เราก็ยังเผชิญความเสี่ยงของโรคมะเร็งอยู่ทุกวัน จากพฤติกรรมการใช้ชีวิต สภาพแวดล้อม การเตรียมรับมือเพื่อรับความเสี่ยง โดยเฉพาะการป้องกันสภาพทางการเงินเมื่อเป็นโรคร้ายแรงจึงสำคัญ ด้วยการทำประกันโรคร้ายแรงเอาไว้ หากคุณเป็นคนที่มีสุขภาพแข็งแรง สมบูรณ์ ไม่เคยมีประวัติโรคร้ายแรง ช่วงนี้จึงเป็นช่วงวัยที่เหมาะที่สุดในการทำประกันไว้สักเล่ม นอกจากจะช่วยให้สภาพทางการเงินของเราไม่ติดขัดหากต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาลแล้ว ยังเป็นอีกทางในการเข้าถึงการรักษาที่หลากหลายหากเกิดเป็นโรคร้ายขึ้นมา
วิธีตรวจเนื้องอกในมดลูก?
อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า ระยะแรกของการเกิดเนื้องอกในมดลูกนั้นจะไม่แสดงอาการใด ๆ จะรู้ตัวอีกทีตอนที่ก้อนเนื้องอกนั้นโตขึ้นแล้ว หรือเมื่อรับการตรวจภายใน รวมถึงตรวจสุขภาพอย่างละเอียดเท่านั้นที่จะทราบได้ โดยการตรวจวินิจฉัยเนื้องอกในมดลูก มีวิธีดังนี้
- ซักประวัติคนไข้ รวมถึงอาการที่เป็น
- ตรวจภายใน
- อัลตราซาวนด์
วิธีรักษาเนื้องอกในมดลูก
สำหรับวิธีรักษาเนื้องอกในมดลูกนั้น แพทย์จะประเมินขนาดของก้อนเนื้องอก และความต้องการของคนไข้ที่ยังต้องการมีบุตร เช่น
- กรณีที่เนื้องอกมีก้อนเล็ก แพทย์จะให้รับประทานยาลดปวด
- การผ่าตัด จะตัดเอาเฉพาะเนื้องอกออก หรือตัดมดลูกออกทั้งหมด ซึ่งวิธีผ่าตัดสามารถทำได้ 2 แบบ คือ การผ่าแบบเปิดหน้าท้อง และการผ่าตัดโดยใช้กล้องซึ่งการใช้กล้องแผลจะมีขนาดเล็กกว่าผ่าตัดเปิดหน้าท้อง แต่จะใช้ได้ในกรณีที่เนื้องอกนั้นไม่ได้มีขนาดที่ใหญ่จนเกินไป
เนื้องอกในมดลูกสามารถรักษาให้หายขาดได้มั้ย?
เนื้องอกในมดลูกสามารถรักษาให้หายขาดได้ โดยการตัดมดลูกออกให้หมด วิธีนี้จะเหมาะกับผู้หญิงที่ไม่ต้องการมีบุตรแล้ว หรือผู้หญิงที่อยู่ในวัยหมดประจำเดือนแล้ว แต่หากผ่าตัดเลาะเฉพาะเนื้องอกออกแต่ยังคงมดลูกเอาไว้ จะมีโอกาสกลับมาเป็นเนื้องอกได้อีก
วิธีป้องกันเนื้องอกในมดลูก
- หลีกเลี่ยงหรืองดการใช้ยาคุมที่มีปริมาณเอสโตรเจนสูง ๆ
- ออกกำลังกายและควบคุมน้ำหนัก
- หมั่นสังเกตอาการผิดปกติของตัวเอง
- ควรตรวจร่างกายอย่างละเอียด รวมถึงตรวจภายในทุกปี
สำหรับผู้หญิงที่มีปัจจัยเสี่ยง เช่น มีคนในครอบครัวเป็นเนื้องอกในมดลูก ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจเช็คร่างกายเป็นประจำ และสำหรับคนที่ไม่มีประวัติครอบครัวก็ควรตรวจภายในด้วยเช่นกัน ตรวจอาการมะเร็งปากมดลูก เนื้องอกในมดลูก และโรคอื่น ๆ เพื่อสุขภาพที่ดี รวมถึงทำให้รักษาได้เร็ว โอกาสหายก็มีมากขึ้น
สามารถติดตามข่าวสาร สาระความรู้เกี่ยวกับสุขภาพ รถยนต์ มอเตอร์ไซค์ รวมถึงประกันภัยออนไลน์ต่าง ๆ จากรู้ใจได้ที่ Facebook Page: Roojai หรือคลิกที่นี่เพื่อเพิ่มเราเป็นเพื่อนใน LINE ได้เลย (Official Line ID: @roojai)
คำจำกัดความ
ฮอร์โมนเอสโตรเจน | คือ ฮอร์โมนเพศหญิงที่ทำหน้าที่ควบคุมระบบสืบพันธุ์ของผู้หญิง มีผลต่อการเจริญเติบโตทางเพศ ลักษณะของเพศหญิงต่าง ๆ การมีประจำเดือน การหมดประจำเดือน และการตั้งครรภ์ |
การตรวจภายใน | หรือการตรวจพีวี (PV, Per vaginal examination) เป็นการตรวจทางการแพทย์ที่ใช้เพื่อตรวจหาความผิดปกติของอวัยวะในอุ้งเชิงกรานของผู้หญิง |