เมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เริ่มคลี่คลายในหลาย ๆ ประเทศ รวมถึงประเทศไทยของเราด้วย หลายบริษัทเริ่มเรียกให้พนักงานกลับมาทำงานประจำกันที่ออฟฟิศแทนการ WFH และก็มีอีกหลาย ๆ บริษัทที่เปลี่ยนระบบการทำงานเพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ในยุค New Normal เรียกว่าแบบ Hybird ที่หลาย ๆ บริษัททั่วโลกเริ่มใช้กัน
การทำงานแบบ Hybrid ของพนักงานออฟฟิศยุค New Normal นี้ คืออะไร?
การทำงานแบบ Hybrid ง่าย ๆ เลย คือ อยู่ที่ไหนก็ทำงานได้ ไม่จำเป็นต้องเข้าออฟฟิศ แต่ก็อาจจะมีบ้างที่เข้าประชุมใหญ่ แต่ไม่จำเป็นต้องเข้าทุกวัน เรียกว่าเป็นระบบการทำงานสำหรับคนยุค New Normal
แต่ไม่ว่าจะทำงานที่ออฟฟิศ ทำงานที่บ้าน หรือทำงานแบบไฮบริด สิ่งที่พนักงานออฟฟิศมนุษย์เงินเดือนมักจะต้องเจอก็คือ ปัญหาสุขภาพ ด้วยพฤติกรรมการนั่งทำงานนาน ๆ บวกกับความเครียดในงานที่ทำ ทำให้พนักงานออฟฟิศเหล่านี้เสี่ยงโรคร้าย ไม่เพียงแต่จะเป็นออฟฟิศซินโดรมเท่านั้น การนั่งทำงานนาน ๆ กับความเครียดเท่ากองภูเขาแถมยังมีเวลาพักผ่อนน้อย พฤติกรรมที่กล่าวมานี้ ล้วนเป็นปัจจัยที่จะทำให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ ได้ เรามาดูกันว่ามีโรคอะไรบ้างที่เป็นโรคร้ายยอดฮิตสำหรับชีวิตวัยทำงาน
- โรคออฟฟิศซินโดรม – ยืนหนึ่งในฐานะโรคฮิตที่ชีวิตพนักงานออฟฟิศเป็นกัน จากสถิติของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุขระบุว่า ร้อยละ 60 ของพนักงานออฟฟิศมีภาวะเสี่ยงเป็นโรคออฟฟิศซินโดรม ออฟฟิศซินโดรมเกิดจากพฤติกรรมที่นั่งทำงานอยู่ในท่าเดียวนาน ๆ มองจอคอมพิวเตอร์โดยไม่ลุกไปไหน ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณลำคอเกิดอาการตึง หากมีพฤติกรรมเช่นนี้นานเข้าจะทำให้กล้ามเนื้ออักเสบได้ จึงเกิดเป็นโรคออฟฟิศซินโดรมในที่สุด
- โรคเครียด – เป็นอีกหนึ่งโรคที่พบได้บ่อยสำหรับพนักงานออฟฟิศหรือพนักงานประจำ เป็นผลจากการพักผ่อนน้อย เครียดกับงานที่ทำ ไม่มีเวลาออกกำลังกาย จนทำให้เกิดความเครียดสะสม อาการนี้หากไม่ได้รับการรักษาจะสามารถพัฒนาไปเป็นโรคซึมเศร้าได้
- โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ – โรคฮิตของสาว ๆ พนักงานออฟฟิศที่นั่งทำงานจนเพลิน ปวดปัสสาวะก็ไม่ยอมลุกไปเข้าห้องน้ำ ดื่มน้ำน้อย หรือดื่มชา กาแฟ น้ำอัดลมมากเกินไป พฤติกรรมเหล่านี้ทำให้เสี่ยงต่อการเป็นโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ
- โรคปลายประสาทอักเสบ – โรคปลายประสาทอักเสบเป็นโรคที่ผู้หญิงวัยทำงานพึงระวัง จากข้อมูลทางสถิติผู้หญิงที่อยู่ในช่วงอายุ 20-40 ปี จะเสี่ยงต่อการเป็นโรคนี้ อาการหนัก ๆ สำหรับคนที่เป็นโรคนี้จะสูญเสียการเคลื่อนไหวของร่างกาย บางรายอาจถึงขั้นเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาตได้
- โรคเบาหวานและไขมันในเลือดสูง – เกิดจากโภชนาการที่ไม่ถูกต้อง อาจจะเพราะไม่มีเวลาเตรียมของทำอาหารเอง จำเป็นต้องซื้อแถวที่ทำงานซึ่งอาจจะมีตัวเลือกไม่มากนัก ประกอบกับการนั่งทำงานนาน ๆ แก้อาการหิวด้วยการกินขนมแทนข้าว พฤติกรรมเหล่านี้ส่งผลให้เกิดโรคเบาหวานและไขมันในเลือดสูงได้นั่นเอง
- โรคหัวใจ – มักเกิดขึ้นกับคนวัยทำงานหรือพนักงานออฟฟิศ ด้วยการทำงานที่หนัก พักผ่อนน้อย รับประทานอาหารที่มีไขมันสูง ขาดการดูแลสุขภาพหรือไม่ได้ออกกำลังกาย สิ่งเหล่านี้นำพามาซึ่งโรคหัวใจได้
สำหรับโรคสุดท้ายที่พนักงานออฟฟิศมักจะคิดไม่ถึงและมองข้ามไป นั่นก็คือ โรคมะเร็ง คนทั่วไปมักจะไม่ทราบว่าความเครียดจากที่ทำงาน สภาพแวดล้อมต่าง ๆ สามารถทำให้เราเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งได้
โรคมะเร็งชนิดไหนบ้าง? ที่พนักงานออฟฟิศต้องระวัง
- โรคมะเร็งตับ – พนักงานออฟฟิศที่ใช้ชีวิตแบบ Work Hard, Play Harder ต้องอ่านให้ดี! โรคที่พนักงานออฟฟิศที่ทำงานหนักแล้วปาร์ตี้ต้องหนักกว่า มีงานเลี้ยงที่ไหนไม่เคยพลาด ดื่มหนักกลับบ้านนอน 3-4 ชั่วโมงแล้วลุกไปทำงานต่อ ไม่เพียงแต่เสี่ยงเป็นโรคมะเร็งตับ ยังอาจจะตามมาด้วยโรคอื่น ๆ อีก เช่น เสี่ยงไขมันในเลือดสูง เสี่ยงโรคกระเพาะ ด้วยปริมาณแอลกอฮอลล์ที่ดื่มไปนั้น สามารถกัดกระเพาะทำให้เกิดแผลในกระเพาะอาหารได้ เมื่อเป็นแล้วไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง ก็อาจจะเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารในอนาคตได้เช่นกัน
- โรคมะเร็งปอด – เมื่อดื่มหนัก สูบจัด ก็ไม่รอดความเสี่ยงสำหรับโรคมะเร็งปอด นอกจากจะถ่ายทอดทางพันธุกรรมเเล้ว สารพิษที่อยู่ในบุหรี่ยังเป็นสาเหตุให้เกิดโรคอื่น ๆ ได้อีกด้วย เช่น ถุงลมโป่งพอง โรคหัวใจและโรคเกี่ยวกับหลอดเลือด
- โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ – พฤติกรรมของพนักงานออฟฟิศที่เร่งรีบ แข่งกับเวลา ทำให้ไม่ได้ใส่ใจในเรื่องของอาหารการกินมากเท่าที่ควร เช้ามาก็หมูปิ้ง เที่ยงหน่อยก็อาหารตามสั่งตามร้านที่ใช้น้ำมันไม่ได้คุณภาพ วัตถุดิบ เครื่องปรุงคุณภาพต่ำ กับรสชาติอาหารเค็ม ๆ มัน ๆ ตบท้ายด้วยน้ำอัดลมหวาน ๆ หลักเลิกงานแล้วยังไปปาร์ตี้ต่อ อาหารและพฤติกรรมแบบนี้เสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ อาหารที่กากใยน้อย อุดมไปด้วยไขมัน ทำให้เกิดอาหารท้องผูก แถมไม่ออกกำลังกายอีก พฤติกรรมเสี่ยงเหล่านี้น่ากลัวมากเลยทีเดียว
เพื่อน ๆ ที่กำลังอ่านอยู่นี้ ลองกลับมาสังเกตุตัวเองว่ามีพฤติกรรมเสี่ยงแบบที่กล่าวมาข้างต้นหรือไม่ หากพบว่าตัวเองมีพฤติกรรมเสี่ยง ควรเริ่มหันกลับมาเอาใจใส่การดูแลสุขภาพเพื่อเลี่ยงและลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคร้ายกันเถอะ
นอกจากการออกกำลังกายและพักผ่อนให้เพียงพอแล้ว เรื่องอาหารการกินก็สำคัญในการดูแลสุขภาพเช่นเดียวกัน เพราะการกินนั้นสำคัญที่สุด อาหารเป็นบ่อเกิดของสุขภาพที่ดีแต่อีกด้านของอาหาร หากเรากินไม่เลือก อาหารนั้นก็เปรียบเสมือนยาพิษที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็งและโรคร้ายแรงอื่น ๆ ได้นั่นเอง
แต่ถ้าอยากเพิ่มความอุ่นใจให้มากขึ้น มากกว่าแค่การดูแลสุขภาพตัวเอง แต่รวมไปถึงการป้องกันความเสี่ยงทางการเงิน ที่รู้ใจ ประกันออนไลน์ เรามีแผนประกันมะเร็งที่ซื้อง่าย จ่ายเบา เบี้ยเริ่มต้นเพียงวัน 5 บาท ช่วยคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลโรคมะเร็งที่แสนแพงนั่นเอง เมื่อตรวจเจอโรคมะเร็งทุกชนิด ทุกระยะ รวมถึงโรคมะเร็งผิวหนัง ยังเคลมประกันมะเร็งเพื่อรับเงินก้อนอีกด้วย
สามารถเข้าไปดูรายละเอียดบนเว็บไซต์ได้เลย หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02 582 8855
เรามาปรับรูปแบบการใช้ชีวิตจาก Work hard, play harder เป็น Work hard, take care your health harder กันดีกว่า
ติดตามข่าวสาร สาระความรู้เกี่ยวกับรถยนต์ มอเตอร์ไซค์ และสุขภาพ รวมถึงโปรโมชั่นใหม่ ๆ จากรู้ใจ ประกันออนไลน์ ได้ที่ Facebook Page: Roojai หรือ Official Line ID: @roojai ไว้ได้เลย