เราอาจจะเคยเห็นหรือเคยได้ยินคนพูดกันเรื่องกรุ๊ปเลือดไหน ต้องกินอาหารอย่างไรสุขภาพถึงจะดี คนส่วนใหญ่เชื่อว่าการที่เราออกกำลังกาย ดูแลสุขภาพก็น่าจะเพียงพอแล้ว จะไปกังวลเรื่องกรุ๊ปเลือดกับการกินทำไมกัน จริง ๆ แล้ว การกินอาหารตามกรุ๊ปเลือดมีส่วนช่วยให้เลือดในร่างกายของเรา ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ วันนี้รู้ใจขอแชร์ข้อมูลเรื่องกรุ๊ปเลือดมาอธิบายให้ฟังกัน ว่านอกจากควรรับประทานอาหารให้ถูกกรุ๊ปเลือดแล้ว เราควรระวังโรคอะไรบ้างที่คนแต่ละกรุ๊ปเลือดต้องให้ความใส่ใจเป็นพิเศษ
เลือดจัดว่าเป็นของเหลวที่ไหลเวียนอยู่ในร่างกายของเรา ซึ่งเลือดถือว่าเป็นองค์ประกอบที่สำคัญมาก ๆ ในการดำรงชีวิต เช่นเดียวกับที่เราควรจะทราบกรุ๊ปเลือดของตัวเอง เพราะหากเกิดอุบัติเหตุหรือมีเหตุการณ์ใดที่เราจำเป็นต้องผ่าตัดอย่างเร่งด่วน การได้รับเลือดให้ถูกกรุ๊ปเป็นสิ่งสำคัญมาก หากเราได้รับเลือดผิดกรุ๊ปอาจเสี่ยงถึงชีวิตได้เลย
นอกจากกรุ๊ปเลือดจะมีความสำคัญต่อชีวิตมนุษย์แล้ว มันยังสามารถบอกให้เราระวังถึงความเสี่ยงที่จะเกิดโรคบางอย่างได้อีกด้วย โดยกรุ๊ปเลือดสามารถบอกได้ว่า กรุ๊ปไหนเสี่ยงต่อโรคอะไรหรือจำเป็นต้องดูแลส่วนใดเป็นพิเศษเพื่อไม่ให้เกิดโรคร้าย ถ้าเรารู้ทันมันจะสามารถป้องกันและดูแลสุขภาพของเราได้อย่างถูกต้อง
กรุ๊ปเลือดคืออะไร?
กรุ๊ปเลือดหรือหมู่เลือด (Blood Type) คือ สิ่งที่บอกความแตกต่างของเลือด จะทราบได้จากการเจาะเลือดตรวจ โดยดูได้จากสารที่มีชื่อว่า แอนติเจน ซึ่งกรุ๊ปเลือดถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนควรรู้ เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน สิ่งนี้จะช่วยให้แพทย์รักษาเราได้อย่างถูกต้องและทันท่วงที ไม่ต้องมานั่งเสียเวลาเอาเลือดไปตรวจ
ในเลือดจะมีองค์ประกอบหลายอย่าง เช่น เม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว น้ำเลือด และเกล็ดเลือด เลือดมีหน้าที่ไหลเวียนไปหล่อเลี้ยงอวัยวะส่วนต่าง ๆ ในร่างกายของเรา และมันยังมีหน้าที่ลำเลียงออกซิเจน สารอาหารเข้าสู่ร่างกายของเราอีกด้วย โดยสามารถแบ่งเลือดออกได้หลายหมู่ ดังนี้
- กรุ๊ปเลือด A – คือกรุ๊ปเลือดที่มีสารเอนติเจน A บนผิวเม็ดเลือดแดง และมีสารแอนติบอดี้ชนิด B ในพลาสม่า
- กรุ๊ปเลือด B – คือกรุ๊ปเลือดที่มีสารแอนติเจน B บนผิวเม็ดเลือดแดง และมีสารแอนติบอดี้ชนิด A ในพลาสม่า
- กรุ๊ปเลือด AB – คือ กรุ๊ปเลือดที่มีสารเอนติเจนทั้ง A และ B บนผิวเม็ดเลือดแดง แต่จะไม่มีแอนติบอดี้ชนิด A และ B ในพลาสม่า
- กรุ๊ปเลือด O – คือ กรุ๊ปเลือดที่ไม่มีทั้งสารเอนติเจน A และ B บนผิวเม็ดเลือดแดง แต่จะมีแอนติบอดี้ทั้ง A และ B ในพลาสม่า
กรุ๊ปเลือดสำคัญยังไง?
สำหรับทางการแพทย์แล้ว การทราบกรุ๊ปเลือดก่อนทำการรักษาหรือให้เลือดกับผู้ป่วย มีความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากปฏิกิริยาการจับตัวกันของแอนติเจนและแอนติบอดี้ นอกจากจะทำให้เม็ดเลือดแดงตกตะกอนแล้ว ยังสามารถทำให้เกิดปฏิกิริยาอื่น ๆ กับผู้ป่วยได้อีก เช่น มีไข้ หนาวสั่น ไตวาย หลอดเลือดอักเสบ หรือตับอักเสบ ตัวกระตุ้นที่ทำให้เกิดการอักเสบดังกล่าวมาจากปฏิกิริยาภูมิคุ้มกันที่กล่าวมาข้างต้น การให้เลือดตรงกับกรุ๊ปเลือดจึงมีความสำคัญมาก เพราะกรุ๊ปเลือดที่เราใช้กันในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นการให้เลือดหรือการบริจาคเลือด ทั้งน้ำเลือด เม็ดเลือดแดงและเกล็ดเลือด มีมากมายหลายกรุ๊ป
นอกจากการให้เลือดแล้ว การทราบกรุ๊ปเลือดของตัวเอง สามารถบอกได้ถึงสายเลือดจากครอบครัวเดียวกัน เช่น จากพ่อแม่สู่ลูก ใช้ในการพิสูจน์ความเป็นพ่อแม่ลูกได้ และนอกจากนี้ กรุ๊ปเลือดยังสามารถบอกได้ถึงความเสี่ยงต่อบางโรคได้อีกด้วย
เช็คเลย! กรุ๊ปเลือดไหนเสี่ยงโรคอะไรบ้าง?
กรุ๊ปเลือดแบ่งออกเป็น 4 กรุ๊ป A, B, AB และ O ในแต่ละกรุ๊ปจะมีแอนติเจนที่ได้กล่าวไปแล้ว ซึ่งความต่างนี้สามารถบอกถึงสุขภาพของคนแต่ละกรุ๊ปเลือดได้ รวมทั้งโรคร้ายต่าง ๆ ที่แต่ละกรุ๊ปเลือดควรระวัง มีอะไรบ้าง
โรคมะเร็งตับอ่อน
สำหรับกรุ๊ปเลือดที่ต้องระวังเรื่องมะเร็งตับอ่อนเป็นพิเศษคือ กรุ๊ป A, B และ AB โมเลกุลของเซลล์เม็ดเลือดแดงของกรุ๊ปเลือด A, B และ AB มีส่วนช่วยให้แบคทีเรียที่มีชื่อว่า H Pylori หรือเชื้อแบคทีเรียในกระเพาะอาหาร เติบโตได้ดีในลำไส้ ซึ่งคนที่มีกรุ๊ปเลือด A, B และ AB อาจต้องเพิ่มความระมัดระวังในการเกิดโรคมะเร็งตับอ่อน
โรคเครียด
สำหรับคนที่มีกรุ๊ปเลือด A จะมีคอร์ติซอลมากกว่ากรุ๊ปเลือดอื่น ตัวคอร์ติซอลนี้เป็นฮอร์โมนแห่งความเครียด ดังนั้น ผู้ที่มีกรุ๊ปเลือด A ต้องระมัดระวังโรคที่เกี่ยวกับความเครียด เช่น ไมเกรน
โรคมาลาเรีย
ในผู้ที่มีกรุ๊ปเลือด A B และ AB มีความเสี่ยงต่อการติดโรคมาลาเรียได้ง่ายกว่าคนที่มีกรุ๊ปเลือด O เพราะตัวปรสิตที่จะไปเกาะติดกับเซลล์เม็ดเลือดต่าง ๆ จะไปเกาะเม็ดเลือดของคนกรุ๊ป O ได้ยากกว่ากรุ๊ป A B และ AB
โรคกระเพาะและแผลในกระเพาะอาหาร
สำหรับคนที่มีกรุ๊ปเลือด O ควรระมัดระวังโรคที่เกี่ยวกับกระเพาะอาหาร แผลในกระเพาะอาหาร หรือการอักเสบของลำไส้ส่วนบน
ลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำ
ภาวะลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำ VTE คือการที่เลือดไม่จับตัวเป็นก้อนในหลอดเลือดดำ เช่น เส้นเลือดดำที่ขา และบางครั้งก้อนหรือลิ่มเลือดนี้อาจจะเคลื่อนไปที่บริเวณปอด ทำให้การไหลเวียนเลือดติดขัด โดยเฉพาะในผู้ที่มีกรุ๊ปเลือด A B และ AB ต้องระวังเป็นพิเศษ
โรคเบาหวาน
โรคเบาหวานประเภท 2 ที่เกิดจากภาวะดื้ออินซูลินพบได้บ่อยในผู้ที่มีกรุ๊ปเลือด A และ B แต่ยังไม่มีงานวิจัยที่ระบุถึงสาเหตุที่แน่ชัด
โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke)
สำหรับกรุ๊ปเลือดที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดสมองมากที่สุด คือ กรุ๊ป AB ในเลือดของคนกรุ๊ปนี้มีแนวโน้มที่จะจับตัวเป็นก้อนมากกว่ากรุ๊ปเลือดอื่น ๆ
อายุยืน
คนที่มีกรุ๊ปเลือด O จะมีอายุยืนกว่ากรุ๊ปเลือดชนิดอื่นเพราะความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดมีค่อนข้างน้อย ผู้ที่ควรระมัดระวังเรื่องโรคหัวใจและหลอดเลือดเห็นจะไม่พ้นกรุ๊ป A B และ AB
การมีบุตรหรือภาวะเจริญพันธุ์
สำหรับผู้หญิงที่มีกรุ๊ปเลือด O อาจจะมีบุตรยากกว่ากรุ๊ปเลือดอื่น เนื่องจาก ไข่อาจจะไม่สมบูรณ์เท่าคนที่มีกรุ๊ปเลือด A B และ AB
และทั้งหมดนี้เป็นข้อมูลที่ทางรู้ใจนำมาบอกต่อ โดยข้อมูลทั้งหมดนี้ ไม่ได้บ่งชี้ว่าทุกคนที่มีกรุ๊ปเลือดแต่ละกรุ๊ปนั้น ต้องเป็นโรคที่ได้กล่าวมาข้างต้น เพียงแต่เราอยากให้ทุกคน หันมาใส่ใจสุขภาพและระวังความเสี่ยงต่อโรคดังกล่าวให้มากขึ้น ที่สำคัญ การทำประกันภัยติดไว้ก็เป็นเรื่องสำคัญ เพราะอาการเจ็บป่วย บางครั้งไม่ได้มีสัญญาณเตือนเรา การวางแผนทางการเงินเตรียมพร้อมไว้แต่เนิ่น ๆ จะเป็นทางเลือกการป้องกันที่ดีอีกทางเลือกหนึ่ง ถึงไม่ได้ป้องกันโรคร้ายโดยตรง แต่ป้องกันความเสี่ยงทางการเงินให้เรารักษาตัวได้อย่างสบายใจ ที่รู้ใจ มีประกันโรคร้ายแรง CI Focus เจอ จ่าย จบ รับเงินก้อนสูงสุด 2,000,000 บาท
สามารถติดตามข่าวสาร สาระความรู้เกี่ยวกับสุขภาพ รถยนต์ มอเตอร์ไซค์ รวมถึงประกันภัยออนไลน์ต่าง ๆ จากรู้ใจได้ที่ Facebook Page: Roojai หรือคลิกที่นี่เพื่อเพิ่มเราเป็นเพื่อนใน LINE ได้เลย (Official Line ID: @roojai)