มะเร็งต่อมน้ำเหลืองเป็น 1 ใน 10 ของประเภทมะเร็งที่พบได้บ่อยที่สุดในคนไทย และพบได้มากเป็นอันดับที่ 5 ในเพศชาย และอันดับที่ 9 สำหรับเพศหญิง ซึ่งในแต่ละปีนั้นจะมีผู้ป่วยมะเร็งรายใหม่เกิดขึ้นประมาณ 4,300 กว่าราย และมีอัตราผู้เสียชีวิตประมาณ 1,300 ราย หรือสามารถคิดเป็น 4 คนต่อวัน และที่สำคัญมะเร็งชนิดนี้ยังสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศ ทุกวัย ในบทความนี้ รู้ใจจะมาอธิบายถึงสาเหตุ อาการ และวิธีการรักษาโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง รวมถึงค่ารักษาพยาบาลโดยประมาณหากไม่มีประกันมะเร็งหรือประกันสุขภาพต้องจ่ายเองเท่าไหร่
สนใจอ่านแค่บางเรื่อง ก็เลือกได้เลย!
- มะเร็งต่อมน้ำเหลืองคืออะไร?
- มะเร็งต่อมน้ำเหลืองมีกี่ประเภท?
- วิธีการวินิจฉัยมะเร็งต่อมน้ำเหลือง
- สาเหตุของมะเร็งต่อมน้ำเหลืองเกิดจากอะไร?
- โรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองอาการเป็นยังไง?
- โรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองมีกี่ระยะ?
- มะเร็งต่อมน้ำเหลือง รักษาหายไหม?
- ค่ารักษาโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองเท่าไหร่?
- วิธีการป้องกันและการดูแลตัวเองเลี่ยงมะเร็งต่อมน้ำเหลือง
- สมุนไพรรักษามะเร็งต่อมน้ำเหลืองได้จริงหรือไม่?
มะเร็งต่อมน้ำเหลืองคืออะไร?
โรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง (Lymphoma) เป็นหนึ่งในโรคมะเร็งที่เกิดขึ้นจากระบบน้ำเหลือง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย โดยมะเร็งชนิดนี้จะเกิดขึ้นเมื่อต่อมน้ำเหลืองเกิดการเจริญเติบโตที่ผิดปกติและแบ่งตัวอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้เกิดการสะสมของเซลล์มะเร็งในต่อมน้ำเหลืองและเนื้อเยื่อที่เกี่ยวข้อง
มะเร็งต่อมน้ำเหลืองมีกี่ประเภท?
โรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง (Lymphoma) เป็นกลุ่มโรคมะเร็งที่เกิดขึ้นจากระบบน้ำเหลือง ซึ่งมีหลายประเภทที่แตกต่างกันไปตามลักษณะของเซลล์ที่เป็นโรค โดยโรคนี้แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลักคือ มะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดฮอดจ์กิน (Hodgkin lymphoma) และมะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดนอน-ฮอดจ์กิน (Non-Hodgkin lymphoma) แต่ละกลุ่มมีลักษณะเฉพาะและการรักษาที่แตกต่างกัน ดังนั้น การทำความเข้าใจประเภทของมะเร็งต่อมน้ำเหลืองจึงมีความสำคัญในการเลือกวิธีการรักษามะเร็งต่อมน้ำเหลืองและดูแลผู้ป่วย
1. มะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดฮอดจ์กิน (Hodgkin Lymphoma)
มะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดฮอดจ์กินเป็นชนิดที่พบได้น้อยกว่าชนิดนอน-ฮอดจ์กิน มักเริ่มต้นจากต่อมน้ำเหลืองบริเวณคอ รักแร้ หรือขาหนีบ และแพร่กระจายไปยังต่อมน้ำเหลืองอื่น ๆ และอวัยวะภายใน ลักษณะเฉพาะที่สำคัญของโรคนี้คือการพบเซลล์ Reed-Sternberg ซึ่งเป็นเซลล์ขนาดใหญ่ที่ผิดปกติและตรวจพบได้ในเนื้อเยื่อต่อมน้ำเหลือง โดยสามารถแบ่งประเภทของมะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดฮอดจ์กินได้อีกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ ดังนี้
- คลาสสิก ฮอดจ์กิน ลิมโฟมา (Classical Hodgkin Lymphoma) เป็นประเภทที่พบมากที่สุด แบ่งย่อยได้เป็น 4 ชนิดย่อย ได้แก่
- Nodular Sclerosis Hodgkin Lymphoma (NSHL) พบได้บ่อยที่สุด มีการเจริญเติบโตที่จำกัดในต่อมน้ำเหลือง
- Mixed Cellularity Hodgkin Lymphoma (MCHL) พบในผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง
- Lymphocyte-Rich Hodgkin Lymphoma (LRHL) เป็นชนิดที่พบในผู้ป่วยที่มีเซลล์เม็ดเลือดขาวสูง
- Lymphocyte-Depleted Hodgkin Lymphoma (LDHL) เป็นชนิดที่พบได้น้อยและมักเกิดในผู้ป่วยสูงอายุหรือผู้ป่วย HIV
- โนดูลา ลิมโฟไซต์-โพพริดอมิเนต ฮอดจ์กิน ลิมโฟมา (Nodular Lymphocyte-Predominant Hodgkin Lymphoma, NLPHL) เป็นประเภทที่พบได้น้อยกว่า และมีอัตราการเจริญเติบโตช้ากว่าประเภทคลาสสิก
2. มะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดนอน-ฮอดจ์กิน (Non-Hodgkin Lymphoma)
มะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดนอน-ฮอดจ์กินเป็นชนิดที่พบได้บ่อยกว่า และมีหลายประเภทที่แตกต่างกันตามลักษณะของเซลล์ที่เกิดการเจริญเติบโตที่ผิดปกติ โดยสามารถแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ ๆ คือ มะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดบีเซลล์ (B-cell Lymphomas) และมะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดทีเซลล์ (T-cell Lymphomas) โดยสามารถแบ่งประเภทของมะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดนอน-ฮอดจ์กินได้ดังนี้
- บีเซลล์ ลิมโฟมา (B-cell Lymphomas) เป็นประเภทที่พบได้มากที่สุด แบ่งออกเป็นหลายชนิดย่อย เช่น
- Diffuse Large B-cell Lymphoma (DLBCL) เป็นชนิดที่พบได้บ่อยที่สุดในกลุ่มนอน-ฮอดจ์กิน มีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว
- Follicular Lymphoma มีลักษณะการเจริญเติบโตที่ช้า แต่สามารถกลายเป็นชนิดที่มีความรุนแรงได้ในระยะยาว
- Mantle Cell Lymphoma (MCL) พบได้น้อยแต่มีความรุนแรงสูง
- Burkitt Lymphoma เป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดที่เจริญเติบโตอย่างรวดเร็วมาก และต้องการการรักษาอย่างเร่งด่วน
- ทีเซลล์ ลิมโฟมา (T-cell Lymphomas) เป็นชนิดที่พบได้น้อยกว่าและมีหลายชนิดย่อย เช่น
- Peripheral T-cell Lymphoma เป็นชนิดที่พบได้บ่อยที่สุดในกลุ่มนี้
- Cutaneous T-cell Lymphoma เป็นชนิดที่ส่งผลต่อผิวหนัง ทำให้เกิดผื่นหรือแผลเรื้อรัง
- Anaplastic Large Cell Lymphoma (ALCL) เป็นชนิดที่พบได้ในวัยเด็กและวัยรุ่น
วิธีการวินิจฉัยมะเร็งต่อมน้ำเหลือง
การวินิจฉัยประเภทของมะเร็งต่อมน้ำเหลืองเป็นสิ่งสำคัญในการกำหนดวิธีการรักษาที่เหมาะสม แต่ละประเภทของมะเร็งมีแนวโน้มที่จะตอบสนองต่อการรักษาแตกต่างกันไป ซึ่งแพทย์จะใช้ข้อมูลนี้ร่วมกับข้อมูลอื่น ๆ เช่น ระยะของโรคและสภาพร่างกายของผู้ป่วยในการวางแผนการรักษา
สาเหตุของมะเร็งต่อมน้ำเหลืองเกิดจากอะไร?
ปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดของโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง แต่มีปัจจัยเสี่ยงบางอย่างที่อาจเพิ่มโอกาสในการเกิดโรค เช่น
- พันธุกรรม หากมีประวัติครอบครัวที่เคยเป็นโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรค
- การติดเชื้อ การติดเชื้อบางชนิด เช่น เชื้อไวรัส Epstein-Barr (EBV) หรือเชื้อ HIV อาจเพิ่มความเสี่ยง
- ปัจจัยทางสิ่งแวดล้อม การสัมผัสสารเคมีที่เป็นอันตรายหรือรังสีในปริมาณสูง
- ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เช่น ผู้ที่ได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะ อาจมีความเสี่ยงสูงขึ้น
โรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองอาการเป็นยังไง?
อาการโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล บางรายอาจไม่มีอาการที่ชัดเจนในระยะแรก แต่สามารถพบอาการที่พบบ่อยดังนี้
- ต่อมน้ำเหลืองโต – อาการบวมของต่อมน้ำเหลืองบริเวณคอ รักแร้ หรือขาหนีบ
- ไข้และเหงื่อออกตอนกลางคืน – ไข้ที่ไม่มีสาเหตุชัดเจนและเหงื่อออกในเวลากลางคืน
- น้ำหนักลด – การลดน้ำหนักอย่างรวดเร็วโดยไม่มีสาเหตุ
- อ่อนเพลียและเหนื่อยง่าย – รู้สึกอ่อนเพลียอย่างมากและไม่มีแรง
- คันผิวหนัง – บางคนอาจมีอาการคันโดยไม่มีผื่นหรืออาการทางผิวหนังอื่น ๆ
โรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองมีกี่ระยะ?
โรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง (Lymphoma) เป็นหนึ่งในโรคมะเร็งที่เกี่ยวข้องกับระบบน้ำเหลือง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย การแบ่งระยะของโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองเป็นสิ่งสำคัญในการวางแผนการรักษาและคาดการณ์ผลลัพธ์ของการรักษา ระยะของโรคจะแสดงถึงการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งในร่างกายและความรุนแรงของโรค โดยทั่วไปมะเร็งต่อมน้ำเหลืองจะแบ่งออกเป็น 4 ระยะหลัก ๆ ดังนี้
1. มะเร็งต่อมน้ำเหลืองระยะแรก หรือระยะที่ 1 (Stage I)
ลักษณะมะเร็งต่อมน้ำเหลืองระยะแรก เซลล์มะเร็งจะถูกจำกัดอยู่ในต่อมน้ำเหลืองเพียงกลุ่มเดียว หรืออยู่ในอวัยวะที่ไม่ใช่ต่อมน้ำเหลือง เช่น ม้าม โดยที่ไม่มีการแพร่กระจายไปยังส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย โดยที่ความสำคัญ ของมะเร็งต่อมน้ำเหลืองระยะแรกเป็นระยะเริ่มต้นของโรค มักจะสามารถรักษาได้ง่ายและมีโอกาสหายขาดสูง
2. มะเร็งต่อมน้ำเหลืองระยะที่ 2 (Stage II)
สำหรับในระยะที่ 2 เซลล์มะเร็งจะพบในต่อมน้ำเหลืองตั้งแต่สองกลุ่มขึ้นไป โดยเซลล์มะเร็งจะยังคงอยู่ในด้านเดียวของกะบังลม (Diaphragm) เช่น ทั้งหมดอยู่ในส่วนบนของร่างกาย (เช่น คอหรือรักแร้) หรือทั้งหมดอยู่ในส่วนล่างของร่างกาย โดยในระยะที่ 2 นี้ยังถือว่าเป็นระยะต้นของโรค และการรักษามักได้ผลดี อย่างไรก็ตาม ความรุนแรงของโรคจะเพิ่มขึ้นมากกว่าระยะแรก
3. มะเร็งต่อมน้ำเหลืองระยะที่ 3 (Stage III)
มะเร็งต่อมน้ำเหลืองระยะแพร่กระจาย ในระยะที่ 3 เซลล์มะเร็งจะแพร่กระจายไปยังต่อมน้ำเหลืองทั้งสองด้านของกะบังลม เช่น อาจพบเซลล์มะเร็งทั้งในต่อมน้ำเหลืองที่คอและในบริเวณท้อง หรืออาจแพร่กระจายไปยังอวัยวะที่อยู่ใกล้เคียงกับต่อมน้ำเหลือง ในระยะที่ 3 นี้เป็นระยะแพร่กระจายไปยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย การรักษาอาจมีความซับซ้อนมากขึ้น และต้องใช้การรักษาหลายรูปแบบร่วมกัน เช่น เคมีบำบัดและการฉายรังสี
4. มะเร็งต่อมน้ำเหลืองระยะสุดท้าย หรือระยะที่ 4 (Stage IV)
มะเร็งต่อมน้ำเหลืองระยะสุดท้าย เซลล์มะเร็งได้แพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่น ๆ นอกต่อมน้ำเหลือง เช่น ตับ ปอด หรือกระดูก การแพร่กระจายอาจเป็นไปอย่างกว้างขวางและครอบคลุมหลายอวัยวะ ระยะที่ 4 เป็นระยะที่รุนแรงที่สุด การรักษามักเน้นไปที่การควบคุมโรคและบรรเทาอาการมากกว่าการรักษาให้หายขาด แต่ถ้าถามว่ามะเร็งต่อมน้ำเหลืองระยะ 4 มีโอกาสหายไหม? คำตอบคือ มะเร็งต่อมน้ำเหลืองมีการตอบสนองต่อการรักษาได้ดี แม้ว่าระยะสุดท้ายก็มีโอกาสรักษาให้หายขาดได้เมื่อเทียบกับโรคมะเร็งชนิดอื่น ๆ
มะเร็งต่อมน้ำเหลือง รักษาหายไหม?
การแบ่งระยะของโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองมีความสำคัญอย่างมากในการวางแผนการรักษาและประเมินผลการรักษา การรักษามะเร็งต่อมน้ำเหลืองระยะแรก ๆ มักมีผลลัพธ์ที่ดีกว่าและมีโอกาสหายขาดสูงกว่า ขณะที่การรักษาในระยะที่ 3 หรือ 4 อาจต้องใช้การรักษาหลายรูปแบบร่วมกัน และมักมีเป้าหมายเพื่อควบคุมโรคและปรับปรุงคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย การเข้าใจระยะของโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ป่วยและครอบครัวในการตัดสินใจเกี่ยวกับการรักษาและการดูแลสุขภาพของตนเอง
วิธีการรักษาโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองมีอะไรบ้าง?
- การให้เคมีบำบัด (Chemotherapy) การใช้ยาเคมีเพื่อทำลายเซลล์มะเร็ง
- การฉายรังสี (Radiation therapy)การใช้รังสีเพื่อทำลายหรือยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง
- การปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิด (Stem cell transplant) การเปลี่ยนแปลงเซลล์เม็ดเลือดโดยใช้เซลล์ต้นกำเนิดจากตัวเองหรือผู้บริจาค
- การรักษาด้วยยามุ่งเป้า (Targeted therapy) การใช้ยาเพื่อเจาะจงทำลายเซลล์มะเร็งที่มีการกลายพันธุ์
- การรักษาด้วยภูมิคุ้มกันบำบัด (Immunotherapy) การกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้ทำลายเซลล์มะเร็ง
สมุนไพรรักษามะเร็งต่อมน้ำเหลืองได้จริงหรือไม่?
สำหรับสมุนไพรที่มีประโยชน์ต่อผู้ป่วยมะเร็ง ได้แก่ ใบบัวบก, ใบตำลึง, ใบมะยม, ใบมะกรูด, ใบมะนาว, ใบชะมวง, ใบมันปู, ใบโหระพา, ใบกระเจี๊ยบแดง, ใบเม่า, ใบเตย, มะระขี้นก และมะเขือเทศราชินี โดยพืชผักกลุ่มนี้มีแร่ธาตุ สารอาหาร วิตามินและสารต้านอนุมูลอิสระที่เป็นตัวก่อมะเร็ง แต่อย่างไรก็ตาม พืชสมุนไพรเหล่านี้ ยังไม่ได้รับการยืนยันว่าสามารถรักษาโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองได้ แต่เป็นสมุนไพรที่ดีต่อคนเป็นมะเร็งเท่านั้น
สำหรับคนที่ตามหาสมุนไพรรักษามะเร็งต่อมน้ำเหลืองโดยตรง แนะนำว่าอย่าหลงเชื่อข่าวปลอม เช่น สูตรน้ำปั่นพืชสดรักษามะเร็งต่อมน้ำเหลืองที่สถาบันมะเร็งแห่งชาติได้ออกมายืนยันถึงข่าวปลอมนี้ และการทานสมุนไพรควรปรึกษาแพทย์ผู้รักษาทุกครั้ง
ค่ารักษาโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองเท่าไหร่?
- ค่ารังสีรักษาประมาณ 200,000 บาท
- ค่าเคมีบำบัดประมาณ 50,000-100,000 บาท
- ค่ารักษามะเร็งแบบมุ่งเป้าประมาณ 300,000 บาท/เดือน
นี่เป็นเพียงค่าใช้จ่ายเบื้องต้น ยังไม่รวมค่าผ่าตัด ค่าแพทย์ ค่านอนโรงพยาบาลในการรักษาตัว หากทำประกันมะเร็งจะสามารถช่วยดูแลค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ได้ และผู้ป่วยรวมถึงคนในครอบครัวจะได้ไม่ต้องกังวลถึงเรื่องของการรักษา ซื้อประกันมะเร็งที่รู้ใจ เป็นประกันมะเร็งเจอจ่ายจบ คุ้มครองเงินก้อนสูงสุด 3 ล้านบาท คุ้มครองมะเร็งทุกระยะ ทุกชนิด และประกันมะเร็งเจอจ่ายจบยังมีข้อดีคือทำให้สามารถบริหารเงินได้เอง ไม่ใช่แค่เพียงค่ารักษา แต่ค่าบ้าน ค่ารถ ค่าเทอมลูก ก็ใช้จ่ายได้ด้วย
วิธีการป้องกันและการดูแลตัวเองเลี่ยงมะเร็งต่อมน้ำเหลือง
ถึงแม้ว่าการป้องกันโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองอาจเป็นเรื่องยาก แต่การรักษาสุขภาพทั่วไปเป็นสิ่งสำคัญ ควรดูแลตัวเองด้วยการออกกำลังกายสม่ำเสมอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หลีกเลี่ยงสารเคมีและรังสีที่เป็นอันตราย รวมถึงการตรวจสุขภาพประจำปีเพื่อเฝ้าระวังความเสี่ยงและรับการรักษาในระยะเริ่มต้นหากพบว่ามีความผิดปกติ
มะเร็งต่อมน้ำเหลืองเป็นโรคที่ซับซ้อนและมีหลายประเภท การเข้าใจความแตกต่างของแต่ละประเภทจะช่วยให้ผู้ป่วยและครอบครัวมีความรู้ความเข้าใจในการรับมือกับโรคและการรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น การรักษาและการดูแลสุขภาพที่ดีเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้ผู้ป่วยโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองสามารถมีคุณภาพชีวิตที่ดีและยาวนานขึ้น
สามารถติดตามข่าวสาร สาระความรู้เกี่ยวกับสุขภาพ รถยนต์ มอเตอร์ไซค์ รวมถึงประกันภัยออนไลน์ต่าง ๆ จากรู้ใจได้ที่ Facebook Page: Roojai หรือคลิกที่นี่เพื่อเพิ่มเราเป็นเพื่อนใน LINE ได้เลย (Official Line ID: @roojai)
คำจำกัดความ
เซลล์ต้นกำเนิด | คือเซลล์ที่มีความสามารถในการพัฒนาไปเป็นเซลล์ชนิดต่าง ๆ ตามร่างกาย เพื่อทดแทนเซลล์เก่าที่เสื่อมสภาพไป |
การปลูกถ่ายอวัยวะ | เป็นการนำเอาอวัยวะที่ไม่สามารถทำงานได้ตามปกติออกไป และนำอวัยวะปกติจากบุคคลที่บริจาคอวัยวะเข้ามาแทน ซึ่งในปัจจุบันสามารถทำได้หลายส่วน เช่น ไต หัวใจ ตับ ปอด ลำไส้ และตับอ่อน |
Reed-Sternberg | คือเซลล์ของเนื้อเยื่อที่เกี่ยวพันกันขนาดใหญ่ โดยจะมี 1-2 นิวเคลียสขนาดใหญ่ มีลักษณะของรอยโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองฮอดจ์กิน |