นอกจากตอนนี้พวกเราต้องเผชิญหน้ากับการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 แล้ว ปัญหาฝุ่น PM2.5 ก็ยังไม่หมดไปจากประเทศไทย ทราบหรือไม่ว่า ฝุ่นละอองของ PM2.5 นั้นเมื่อเราสูดหายใจเข้าไปมันสามารถเดินทางเข้าไปถึงปอดของเราได้ ยิ่งถ้าเราสูดฝุ่นละออง PM2.5 เข้าไปทุกวัน จะทำให้เกิดการระคายเคือง แสบจมูก ไอเรื้อรัง มีเสมหะ หัวใจวายเฉียบพลัน หรือถึงขั้นเป็นโรคมะเร็งปอดได้เลย
มีวิธีสังเกตุอาการมะเร็งปอดได้อย่างไร?
- มีอาการไอเรื้อรัง
- ไอมีเสมหะ หรือ มีเลือดปน
- มีอาการเจ็บหน้าอก เมื่อสูดหายใจเข้าลึก ๆ หัวเราะ หรือระหว่างไอ
- เสียงแหบ
- หายใจถี่
- หายใจดังเสียงฮืด ๆ
- อ่อนเพลีย เหนื่อยล้า
- เบื่ออาหาร น้ำหนักลด
สาเหตุของโรคมะเร็งปอด มีอะไรบ้าง?
ร้อยละ 90 ของคนที่เป็นโรคมะเร็งปอด มีผลมาจากการสูบบุหรี่ จริง ๆ แล้วปอดของมนุษย์เราสามารถซ่อมแซมหรือฟื้นตัวจากความเสียหายเนื่องจากได้รับสารพิษได้ แต่ถ้าเรายังคงสูดเอาสารพิษเข้าไปในปอดทุกวัน ๆ การทำงานของปอดในการขจัดสารพิษนั้นก็จะลดลง เมื่อปอดได้รับความเสียหาย เซลล์จะเริ่มมีความผิดปกติ โอกาสในการเป็นมะเร็งปอดก็สูงขึ้น มะเร็งปอดชนิดเซลล์เล็กมักจะเกิดจากการสูบบุหรี่
การสัมผัสกับเรดอน เรดอนจัดเป็นก๊าซเฉื่อยที่ไร้รส สี และกลิ่น ซึ่งเป็นก๊าซกัมมันตภาพรังสีที่มีอยู่ตามธรรมชาติ เป็นสาเหตุสำคัญอันดับสองของการเกิดมะเร็งปอด รวมไปถึงการหายใจเอาสารอันตรายอื่น ๆ เข้าไป เช่น ควันไอเสียจากท่อรถยนต์ ฝุ่น PM2.5 อาจก่อให้เกิดโรคมะเร็งปอดได้เช่นกัน
โรคมะเร็งปอดมีกี่ชนิด?
โรคมะเร็งปอดนั้น สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ชนิด ดังนี้
- มะเร็งปอดชนิดเซลล์เล็ก (small cell lung cancer หรือ SCLC) – จะเติบโตและแพร่กระจายได้เร็วกว่ามะเร็งปอดชนิดเซลล์ไม่เล็ก และมีแนวโน้มว่าจะตอบสนองต่อการทำเคมีบำบัดได้น้อย มีโอกาสหายขาดจากมะเร็งปอดชนิดนี้ค่อนข้างน้อย
- มะเร็งปอดชนิดเซลล์ไม่เล็ก (non-small cell lung cancer หรือ NSCLC) – โรคมะเร็งปอดชนิดนี้พบได้ 85% ของมะเร็งปอดทั้งหมด โรคมะเร็งปอดชนิดนี้มักพบที่ส่วนนอกของปอด มะเร็งปอดประเภทนี้มักจะไม่รุนแรงและไม่กระจายไปเนื้อเยื่อรอบข้างและมีผลการตอบสนองต่อการรักษาค่อนข้างดี
เราได้รู้แล้วว่ามะเร็งปอดมีกี่ชนิด มาถึงตรงนี้เราจะอธิบายลึกลงไปอีกว่ามะเร็งปอดมีกี่ระยะ และมีอาการอย่างไรบ้าง
โรคมะเร็งปอดแต่ละชนิดมีกี่ระยะ?
โรคมะเร็งปอดชนิดเซลล์เล็ก (SCLC) มี 2 ระยะ ได้แก่
- ระยะจำกัด จะพบมะเร็งที่ปอดข้างใดช้างหนึ่ง และในต่อมน้ำเหลืองข้างเคียงเท่านั้น
- ระยะลุกลาม เป็นระยะที่มะเร็งแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่น ๆ ในร่างกาย
โรคมะเร็งปอดชนิดเซลล์ไม่เล็ก (NSCLC) มี 4 ระยะ ได้แก่
- ระยะที่ 1 พบมะเร็งในปอดแต่ยังไม่แพร่กระจายออกนอกปอด
- ระยะที่ 2 พบมะเร็งในปอดและบริเวณต่อมน้ำเหลืองใกล้เคียง
- ระยะที่ 3 พบมะเร็งอยู่ในปอดและต่อมน้ำเหลืองตรงกลางหน้าอก
- ระยะที่ 3A พบมะเร็งในต่อมน้ำเหลือง แต่จะอยู่ด้านเดียวกันของหน้าอกที่เป็นมะเร็ง และจะเริ่มเติบโตในครั้งแรกเท่านั้น
- ระยะที่ 3B มะเร็งแพร่กระจายไปยังต่อมน้ำเหลืองที่อยู่ฝั่งตรงข้ามของหน้าอก หรือไปยังต่อมน้ำเหลืองเหนือกระดูกไหปลาร้า
- ระยะที่ 4 มะเร็งแพร่กระจายไปยังปอดทั้งสองข้าง สู่บริเวณรอบปอด หรือไปยังอวัยวะที่อยู่ห่างไกล
โอกาสทางการรักษาของโรคมะเร็งปอดให้หายขาดจะอยู่ที่ระยะแรกก่อนการแพร่กระจาย เนื่องจากอาการเริ่มแรกของมะเร็งปอดไม่ได้มีการแสดงออกที่ชัดเจนมากนัก ทำให้ยากต่อการวินิจฉัยและส่วนใหญ่มักจะตรวจพบมะเร็งปอดหลังจากที่มันแพร่กระจายไปแล้ว ทีนี้ เรามาดูกันต่อว่าจะมีวิธีป้องกันตัวเองได้อย่างไรให้ร่างกายห่างจากอาการมะเร็งปอด
สามารถป้องกันตัวเอง ให้ห่างไกลจากโรคมะเร็งปอดได้อย่างไร?
- ลดและเลิกสูบบุหรี่ – จริง ๆ แล้วข้อนี้ทุกคนทราบกันดีอยู่แล้วแทบจะไม่ต้องบอก การสูบบุหรี่ไม่ต่างอะไรกับการวางยาพิษให้ตัวเอง เราสูบทุกวันสะสมสารพิษเข้าไปในปอดทุกวัน นานเข้าสารพิษที่เราสูบเข้าไปนั้น มันก็จะไปทำลายปอดจนทำให้เกิดมะเร็งปอดนั่นเอง
- เลี่ยงการอยู่ในพื้นที่ที่มีมลพิษทางอากาศ – ด้วยสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ในทุกวันนี้ ทำให้การหลีกเลี่ยงที่จะไม่สูดอากาศที่มีละอองฝุ่น PM2.5 นี้เข้าไปคงยาก ไม่ว่าจะเก็บตัวอยู่แต่ในบ้านก็ตาม เจ้าฝุ่นพวกนี้มันเล็ดลอดเข้ามาได้ สิ่งที่ทำได้คือ การใส่หน้ากากอนามัยป้องกันฝุ่น PM2.5 หรือใช้เครื่องฟอกอากาศช่วย
- พยายามอยู่ในที่ที่มีอากาศบริสุทธิ์ – วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ อาจจะให้รางวัลกับตัวเองด้วยการขับรถไปต่างจังหวัดเพื่อไปรับอากาศที่บริสุทธิ์ดูบ้าง นอกจากได้พักผ่อนคลายเครียดแล้ว ยังเหมือนกับการให้รางวัลตัวเองด้วยอากาศที่บริสุทธิ์กับปอดของเราด้วย
- ตรวจร่างกายเป็นประจำทุกปี – สำหรับผู้ที่อายุมากกว่า 35 ปีขึ้นไป แนะนำว่าการตรวจร่างกายประจำปีแบบธรรมดาอาจจะเอาไม่อยู่ แพคเกจตรวจร่างกายทุกปีที่บริษัทจัดเป็นสวัสดิการให้พนักงานนั้นเป็นการตรวจเลือด ตรวจปัสสาวะในเบื้องต้นเท่านั้น คนที่มีอายุมากกว่า 35 ปีควรได้รับการตรวจแบบส่องกล้อง ตรวจหาโรคมะเร็งทั่วร่างกายด้วย ยิ่งในผู้หญิงที่มีอายุ 30 ปีขึ้นจำเป็นที่ต้องตรวจภายในทุก ๆ ปีด้วยเช่นกัน
- ออกกำลังกายและเลือกรับประทานอาหาร – เอาจริง ๆ ต้องเลิกหรือต้องหยุดใช้คำว่า “ไม่มีเวลา” กันได้แล้ว ทุกคนมีเวลาเท่ากันคือ 24 ชั่วโมง เราคงไม่อยากใช้ร่างกายเราให้หมดไปกับการทำงานหนัก เพื่อแลกกับเงินเดือนที่สุดท้ายไปจบตรงที่เอาไปเป็นค่ารักษาพยาบาล การออกกำลังกายนอกจากจะช่วยให้เรามีร่างกายที่เเข็งแรงแล้ว ภาวะเครียดจากการทำงานมาทั้งอาทิตย์ก็จะถูกอะดรีนาลีนในร่างกายเรากำจัดออกไปด้วย
ได้ทราบถึงวิธีป้องกันโรคมะเร็งทางร่างกายแล้ว รู้ใจชวนมาป้องกันโรคมะเร็งทางด้านการเงินกัน เป็นที่ทราบกันดีว่า การผ่าตัดและรักษาโรคมะเร็งนั้น ค่าใช้จ่ายสูงมาก แผนประกันมะเร็งที่รู้ใจ เราครอบคลุมมะเร็งทุกชนิด ทุกระยะ ไม่ต้องกังวลเรื่องค่ารักษาพยาบาล แถมยังช่วยเปิดโอกาสหรือเพิ่มทางเลือกให้กับการรักษาได้กว้างขึ้นด้วย ทำให้โอกาสที่จะหายขาดนั้นมีสูงโดยที่เราไม่ต้องควักเงินเก็บในกระเป๋า และเบี้ยประกันยังสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย
หากสนใจอยากทราบรายละเอียด ผลประโยชน์ ราคา สามารถเข้าไปดูแผนประกันมะเร็ง ซื้อง่าย จ่ายเบา ได้บนเว็บไซต์ หรือโทรสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 02 582 8855 ได้เลย
สามารถติดตามข่าวสาร สาระความรู้เกี่ยวกับรถยนต์ มอเตอร์ไซค์ และสุขภาพ รวมถึงโปรโมชั่นใหม่ ๆ จากรู้ใจ ประกันออนไลน์ ได้ที่ Facebook Page: Roojai หรือ Official Line ID: @roojai