Roojai

ฉีดวัคซีนHPV ฟรี! ใครมีสิทธิ์บ้าง ข้อควรรู้ก่อนฉีดวัคซีนมะเร็งปากมดลูก

ฉีดวัคซีนHPV ฟรี! ใครมีสิทธิ์บ้าง | ประกันมะเร็ง | รู้ใจ

รู้มั้ย? มะเร็งปากมดลูกเป็นมะเร็งที่พบมากที่สุดในเพศหญิงรองลงมาจากมะเร็งเต้านม จากข้อมูลสถิติของกระทรวงสาธารณสุขปี 2565 พบว่า มีหญิงไทยเป็นมะเร็งปากมดลูกสูงถึง 12,956 คน และมีอัตราการเสียชีวิตสูง และนี่เป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมเด็กหญิงก่อนวัยเจริญพันธุ์ถึงควรฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก

มะเร็งปากมดลูก คือ มะเร็งไม่กี่ชนิดที่เรารู้สาเหตุของการเกิดโรค โดยจะเกิดจากเชื้อไวรัส HPV ซึ่งติดต่อทางเพศสัมพันธ์ อาจได้รับเชื้อมาจากทั้งทาง ปาก ช่องคลอด หรือทวารหนัก หากเป็นแล้วแรก ๆ จะยังไม่มีอาการ จะสามารถตรวจได้จากการคัดกรองมะเร็งปากมดลูก ซึ่งหากเราละเลย กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็อาจสายเกินแก้ แต่โรคนี้เราสามารถป้องกันก่อนรับเชื้อได้ด้วยวัคซีน HPV ซึ่งเป็นวิธีป้องกันมะเร็งปากมดลูกที่ดีและมีประสิทธิภาพมากที่สุด

วัคซีนมะเร็งปากมดลูก คืออะไร?

วัคซีนมะเร็งปากมดลูก หรือวัคซีน HPV คือ วัคซีนที่ป้องกันการติดเชื้อไวรัส HPV (Human Papilloma Virus) ที่เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดมะเร็งปากมดลูก เนื่องจากการติดเชื้อไวรัส HPV จะไปทำให้เซลล์ปากมดลูกเกิดการอักเสบแบบเรื้อรัง และเปลี่ยนแปลงไปเป็นเซลล์มะเร็งได้ในลำดับต่อไป การฉีดวัคซีนมะเร็งปากมดลูกเป็นวิธีป้องกันมะเร็งปากมดลูกที่ดีและมีประสิทธิภาพมากที่สุด

ไวรัส HPV มีกี่สายพันธุ์?

ไวรัส HPV มีมากกว่า 40 สายพันธุ์ แต่จะมีอยู่เพียง 2 สายพันธุ์ที่ตรวจพบได้บ่อย และเป็นปัจจัยให้เกิดมะเร็งปากมดลูก คือสายพันธุ์ 16 และ 18

  • วัคซีน HPV ที่ชื่อว่า Cervarix สามารถป้องกันไวรัส 2 สายพันธุ์นี้ และมันมีประสิทธิภาพในการป้องกันมะเร็งปากมดลูกได้ถึง 70% และยังสามารถป้องกันโรคหูดที่อวัยวะเพศได้อีกด้วย
  • วัคซีน HPV ที่ชื่อว่า Gardasil ซึ่งเป็นวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกเช่นกัน ตัวนี้จะสามารถป้องกันไวรัสสายพันธุ์ 6 และ 11 ได้ถึง 95% ซึ่งการเลือกว่าจะต้องฉีดวัคซีนตัวไหนนั้น ต้องให้แพทย์เป็นคนพิจารณา

ติดเชื้อไวรัส HPV หายได้ไหม?

การติดไวรัส HPV หากไม่มีอาการใด ๆ สามารถหายเองได้ โดยระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายจะกำจัดเชื้อออกไป ทำให้เชื้อหายจากร่างกายได้ใน 1-2 ปี และสำหรับคนที่ติดเชื้อที่ทำให้เกิดหูดหงอนไก่ ต้องรักษาโดยการจี้ยา ทายา ไม่ให้กลับมาเป็นซ้ำ แต่หากกลายเป็นโรคมะเร็งขึ้นมา ต้องรักษาตามกระบวนการการรักษาโรคมะเร็งโดยขึ้นอยู่กับระยะที่เป็นและแผนการรักษาของแพทย์ เช่น การฉายแสง ผ่าตัด เคมีบำบัด

วัคซีนมะเร็งปากมดลูกแบบไหนดีที่สุด

สำหรับประสิทธิภาพการฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก หากฉีดตั้งแต่เด็กก่อนวัยเจริญพันธุ์หรือก่อนการมีเพศสัมพันธ์ วัคซีนจะมีประสิทธิภาพมากที่สุด เพราะเป็นช่วงที่ร่างกายยังสร้างภูมิคุ้มกันได้ดี ซึ่งร่างกายจะสร้างภูมิคุ้มกันได้ดีในช่วง 9-15 ปี และฉีดแค่เพียง 2 ครั้ง แต่ได้ประสิทธิภาพเทียบเท่าการฉีด 3 ครั้ง 

  • ผู้หญิง – ฉีดวัคซีน HPV ได้ตั้งแต่ 9-26 ปี แต่แนะนำให้ฉีดช่วงอายุ 11-12 ปี 
  • ผู้ชาย – ฉีดวัคซีน HPV ได้ตั้งแต่ 9-26 ปี โดยการฉีดทั้ง 4 สายพันธุ์ จะป้องกันโรคหูดหงอนไก่และมะเร็งทวารหนัก โดยแนะนำให้ฉีดช่วงอายุ 11-12 ปี

ฉีดวัคซีนHPV ฟรี! ใครมีสิทธิ์บ้าง?

  • สำหรับเด็กผู้หญิงที่อยู่ในระดับประถมศึกษาปีที่ 5 หรืออายุระหว่าง 12-18 ปี มีหลายหน่วยงานที่จัดให้มีการฉีดวัคซีนHPV ฟรี ตามเงื่อนไขที่แต่ละหน่วยงานกำหนด เช่น กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข สภากาชาดไทย โรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อน ฯลฯ หน่วยงานเหล่านี้ จะเปิดให้ฉีดวัคซีน HPV ได้ฟรี โดยต้องลงทะเบียนจองสิทธิ์ก่อน หากสิทธิ์เต็ม ต้องรอรอบต่อไป 
  • สำหรับคนทั่วไปที่อายุเกินที่เงื่อนไขกำหนดจะไม่สามารถฉีดวัคซีนฟรีได้ แต่จะได้รับสิทธิจาก บัตรทอง ในการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกได้ฟรี ในผู้หญิงที่มีอายุ 30-59 ปี และผู้ประกันตนตามมาตรา 33 และ 39 เพศหญิงที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งเต้านมได้ฟรีเช่นกัน
ข้อควรรู้ก่อนฉีดวัคซีนมะเร็งปากมดลูก | ประกันมะเร็ง | รู้ใจ

ราคาวัคซีนมะเร็งปากมดลูก

  1. ราคาวัคซีน HPV 2 สายพันธุ์ – จำนวน 2 เข็ม อายุระหว่าง 9-14 ปี ราคาเริ่มต้น 5,500-6,499 บาท
  2. ราคาวัคซีน HPV 4 สายพันธุ์ – จำนวน 2 เข็ม อายุระหว่าง 9-14 ปี ราคาเริ่มต้น 6,000-7,399 บาท
  3. ราคาวัคซีน HPV 4 สายพันธุ์ – จำนวน 3 เข็ม สำหรับผู้ที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป ราคาเริ่มต้น 7,500-10,999 บาท 

ปัจจุบันมีหลากโรงพยาบาลที่จัดให้มีระบบผ่อนผ่านบัตรเครดิต 0% ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละโรงพยาบาล 

Q&A 9 ข้อควรรู้ก่อนฉีดวัคซีนมะเร็งปากมดลูก

Q1: ทำไมวัคซีนมะเร็งปากมดลูกถึงป้องกันมะเร็งปากมดลูกได้?

A: สาเหตุของมะเร็งปากมดลูก จะไม่เหมือนมะเร็งชนิดอื่น ๆ ที่มาจากกรรมพันธุ์ แต่เกิดการจากได้รับเชื้อไวรัส HPV ซึ่งติดต่อผ่านทางการมีเพศสัมพันธ์ การฉีด HPV จึงเป็นการป้องกันการติดเชื้อได้ 

Q2: ก่อนฉีดวัคซีนมะเร็งปากมดลูกต้องตรวจหาเชื้อก่อนมั้ย?

A: สำหรับผู้หญิงที่ทำการตรวจ Pap Smear Test อยู่เป็นประจำทุกปี และไม่ได้พบอาการผิดปกติใด ๆ ตามคำแนะนำของคณะกรรมการสร้างภูมิคุ้มกันแห่งสหรัฐอเมริกา แนะนำว่า ไม่มีความจำเป็นต้องตรวจหาเชื้อก่อนได้รับวัคซีน 

Q3: วัคซีนมะเร็งปากมดลูกมีประสิทธิภาพในการป้องกันมะเร็งปากมดลูกได้ 100% มั้ย?

A: ป้องกันได้แต่ไม่ 100% วัคซีนบางตัวจะสามารถป้องกันเชื้อไวรัสชนิดสำคัญได้ 70% ฉะนั้น จึงจะยังมีเชื้อ HPV บางส่วนที่วัคซีนไม่สามารถป้องกันได้ หากต้องการให้วัคซีนมีประสิทธิภาพมากขึ้น ควรฉีดตั้งแต่ยังเด็ก

Q4: หากเคยมีเพศสัมพันธ์แล้ว สามารถฉีดวัคซีนมะเร็งปากมดลูกได้มั้ย?

A: สามารถฉีดได้ แต่ประสิทธิภาพของวัคซีนอาจจะไม่เท่าคนที่ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ วัคซีนจะสามารถป้องกันการติดเชื้อ HPV ได้หลายสายพันธุ์ แม้ว่าจะมีโอกาสเสี่ยงต่อการติดเชื้อ HPV ไปแล้วก็ตาม แต่วัคซีนยังสามารถป้องกันเชื้อบางตัวได้

Q5: วัคซีนมะเร็งปากมดลูกฉีดแล้วปลอดภัยมั้ย?

A: สำหรับวัคซีน HPV จะมีความปลอดภัยสูง เพราะเป็นวัคซีนที่สังเคราะห์แบบโครงสร้างของเชื้อ HPV โดยที่ไม่ได้นำส่วนประกอบส่วนใดส่วนหนึ่งของสายพันธุกรรมของเชื้อไวรัสมาใช้ผลิตวัคซีน เมื่อร่างกายได้รับจะสามารถสร้างภูมิคุ้มกัน HPV ได้ และพบว่ามีผลข้างเคียงรุนแรงน้อยมาก 

Q6: อายุมากกว่า 26 ปี สามารถฉีดวัคซีนมะเร็งปากมดลูกได้มั้ย?

A: ฉีดมะเร็งปากมดลูก อายุเกิน 26 ปี และในบางคนที่เคยเป็นได้รับเชื้อ HPV มาแล้ว สามารถฉีดได้แล้วแต่วิจารณญาณแต่ละคนในเรื่องของความคุ้มค่า และประสิทธิภาพของวัคซีนอาจจะลดลง หรือไม่สามารถป้องกันเชื้อไวรัสที่ได้รับมาแล้ว แต่จะสามารถป้องกันไม่ให้ได้รับไวรัสสายพันธุ์อื่น ๆ เพิ่มได้ ทั้งนี้ หากผู้ที่เคยได้รับเชื้อมาแล้ว สามารถปรึกษาสูตินรีแพทย์ได้ตามความเหมาะสม 

Q7: ในหญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรสามารถฉีดได้มั้ย?

A: ไม่แนะนำให้ฉีดวัคซีน HPV ในหญิงตั้งครรภ์ และหากมีการตั้งครรภ์ระหว่างที่รอฉีดเข็มที่ 2 และ 3 ควรหยุดฉีดก่อน และค่อยกลับมาฉีดอีกทีหลังจากคลอดบุตรแล้ว ส่วนหากอยู่ในระยะให้นมบุตร สามารถฉีดได้ 

Q8: ฉีดมะเร็งปากมดลูก ฉีดตรงไหน?

A: บริเวณที่จะฉีดวัคซีน HPV คือ บริเวณกล้ามเนื้อต้นแขน หลังได้รับวัคซีน บางรายอาจมีไข้ต่ำ ๆ หรือปวดบริเวณที่ฉีดเล็กน้อย

Q9: ใครบ้างที่ห้ามฉีดวัคซีนมะเร็งปากมดลูก?

A: สำหรับผู้ที่ห้ามฉีดวัคซีน HPV นั้น คือ ผู้ที่อยู่ในภาวะภูมิไวเกิน หรือ Hypersensitivity ต่อสารประกอบในวัคซีน

สภาพแวดล้อมและไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนแปลงไปทุกวันนี้ ยิ่งทำให้ความเจ็บป่วยอยู่รอบตัวเรามากขึ้น และอาจทำให้เราป่วยเป็นโรคมะเร็งโดยไม่ทันตั้งตัว แต่การวางแผนการเงินเพื่อรับมืออนาคตเป็นสิ่งสำคัญ เพราะโรคภัยไข้เจ็บเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิด ก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้อยู่ดี ดังนั้นการทำประกันภัยจึงเป็นสิ่งจำเป็นและไม่ควรมองข้าม ที่รู้ใจ มีประกันมะเร็งที่คุ้มครองมะเร็งทุกระยะ ทุกชนิด ซึ่งรวมถึงมะเร็งปากมดลูกด้วย ค่าเบี้ยไม่แพง เจอ จ่าย จบ คุ้มครองสูงสุด 3 ล้านบาท เช็คราคาประกันมะเร็งจากรู้ใจได้เลย เช็คราคาฟรี ไม่ต้องใส่ข้อมูลติดต่อ

สามารถติดตามข่าวสาร สาระความรู้เกี่ยวกับสุขภาพ รถยนต์ มอเตอร์ไซค์ รวมถึงประกันภัยออนไลน์ต่าง ๆ จากรู้ใจได้ที่ Facebook Page: Roojai หรือคลิกที่นี่เพื่อเพิ่มเราเป็นเพื่อนใน LINE ได้เลย (Official Line ID: @roojai)