Roojai

กินเป็นผิวสวย! เคล็ดลับดูแลผิวทำง่าย ฟรี ผิวดีแบบยั่งยืน

วิธีดูแลผิวหน้า | ผิวสวย | ประกันโรคร้ายแรง | รู้ใจ

สาวที่อยากผิวสวย ออร่าวิ้งค์ ในสมัยนี้แค่โทรไปนัดหมอทำเลเซอร์หน้า ฉีดรีจูรัน หรือทำทรีตเมนต์ แป๊บเดียวผิว ก็เด้ง ฉ่ำวาวแล้ว แต่ประเด็นที่หลายคนกังวลคือต้องทำกี่ครั้งถึงจะเห็นผล? และถ้าหยุดทำผิวจะสวยเด้งเหมือนเดิมหรือเปล่า? รวมถึงอาจต้องเสียเงินอีกไม่รู้ตั้งเท่าไหร่ วันนี้รู้ใจจะพาไปเรียนรู้เทคนิคผิวใส ผิวดี ฉ่ำวาว ออร่าวิ้งค์ สุขภาพผิวดีแบบยั่งยืน ด้วยการเลือกกินอาหารที่เหมาะสม อะไรที่กินแล้วผิวสวย แถมสุขภาพดีตามผิวไปด้วยมาดูกัน

อาหารเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับสุขภาพร่างกาย การเลือกรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ จะสามารถปรับสมดุลให้กับร่างกายและระบบต่าง ๆ ให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ อาหารบางชนิดยังสามารถช่วยปกป้องและให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวของเราได้ดีอีกด้วย แต่ก็จะมีอาหารบางชนิดที่เป็นศัตรูกับผิวของเรา ในบทความนี้ขอพูดถึงอาหารที่ช่วยดูแลผิวของเรา และอาหารอะไรบ้างที่ควรหลีกเลี่ยง

ทำไมต้องกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ?

ผิวหนังจัดว่าเป็นอวัยวะที่ใหญ่ที่สุดในร่างกาย และมีความสำคัญในเรื่องการปกป้องเชื้อโรค แบคทีเรีย สารออกซิแดนต์และรังสียูวีจากแสงแดด อาหารที่เรากินเข้าไปจะไปทำหน้าที่ในการปกป้องและดูแลผิวหนังของเรา สารอาหารจึงมีความสำคัญในการดูแลผิว

ในทางกลับกันอาหารขยะและอาหารที่ไม่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ สามารถทำลายระบบเผาผลาญในร่างกายของเราได้เช่นกัน เมื่อระบบเผาผลาญถูกทำลายมันจะส่งผลให้เรามีไขมันส่วนเกิน น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น และอาหารเหล่านี้อาจส่งผลต่อการทำงานของอวัยวะอื่น ๆ ในร่างกาย รวมถึงความเสี่ยงต่อโรคร้าย เช่น อาหารไขมันสูงส่งผลต่อหัวใจ อาหารรสจัดส่งผลต่อการทำงานของไต เป็นต้น 

กินเป็นผิวสวย ต้องกินอะไรบ้าง?

1. ปลา

ปลาที่มีไขมันดี เช่น ปลาแซลมอน ปลาแมคเคอเรล ปลาทูน่า จัดว่าเป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพผิวของเรา เพราะอุดมไปด้วยโอเมก้า 3ที่มีส่วนสำคัญต่อสุขภาพผิวของเรา ช่วยลดอาการอักเสบตามผิวหนัง เช่น รอยแดงจากสิว โรคสะเก็ดเงิน และโอเมก้า 3 ยังช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวีอีกด้วย นอกจากนี้ ปลาที่มีไขมันดี ยังอุดมไปด้วยโปรตีน วิตามินอีและสังกะสี ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญต่อผิว

2. อะโวคาโด

อะโวคาโดเป็นผลไม้ที่มีไขมันดีที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายอยู่สูงมาก รวมทั้งยังอุดมไปด้วยวิตามินต่าง ๆ เช่น วิตามินอี วิตามินซี ที่เป็นอาหารผิวโดยตรง มันจะช่วยสร้างความแข็งแรงให้กับผิวของเรา และยังปกป้องผิวของเราจากรังสียูวี ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิว ซึ่งอะโวคาโด 100 กรัม หรือประมาณครึ่งลูกจะให้วิตามินอีประมาณ 14% และให้วิตามินซีประมาณ 11% 

3. วอลนัท

พืชตระกูลถั่วอย่างวอลนัท จัดว่าเป็นอาหารสุดยอดที่ผิวชื่นชอบ นอกจากจะส่งผลดีต่อผิวพรรณของเราแล้ว วอลนัทยังมีสารอาหารที่สมองของเราโปรดปรานอีกด้วย เพราะในวอลนัทอุดมไปด้วยกรดไขมันที่จำเป็นต่อร่างกายที่ร่างกายของเราไม่สามารถสร้างเองได้ เช่น โอเมก้า 3 โอเมก้า 6 โปรตีน และสังกะสี ในวอลนัทยังมีวิตามินอีและซีลีเนียมที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ 

นอกจากวอลนัทจะมีประโยชน์ต่อผิวและสมองแล้ว ในการลดความอ้วนหรือคนที่ต้องการควบคุมอาหาร สามารถเลือกรับประทานวอลนัทได้ด้วย เพราะในวอลนัท 1 ออนซ์หรือ 28 กรัม จะมีไฟเบอร์อยู่ 2 กรัม สามารถทำให้อิ่มท้องได้ โดยเฉพาะในเวลาที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก สามารถกินวอลนัท 1 กำมือต่อวัน จะช่วยควบคุมแคลอรี่ของอาหารที่เรากินเข้าไปได้ดียิ่งขึ้น

4. เมล็ดทานตะวัน

โดยทั่วไปแล้วทั้งถั่วและธัญพืชต่างเป็นแหล่งสารอาหารชั้นดีสำหรับผิวที่มีทั้งวิตามินเอ วิตามินอี ซีลีเนียม สังกะสีและโปรตีน

อาหารที่มีประโยชน์ | รอยแดงจากสิว | ประกันโรคร้ายแรง | รู้ใจ

5. มันฝรั่ง

อาหารผิวอีกอย่างที่มีเบต้าแคโรทีนอยู่สูงไม่แพ้แครอท เบต้าแคโรทีนนี้ทำหน้าที่ในการป้องกันผิวจากแสงแดด และยังอุดมไปด้วยวิตามินอีกมากมายเช่น วิตามินเอ วิตามินบี 6 วิตามินซี นอกจากการกินแล้วยังสามารถนำมันฝรั่งมาฝานบาง ๆ แปะไปบริเวณตา จะช่วยลดรอยคล้ำใต้ดวงตาได้อีกด้วย เพราะในมันฝรั่งมีเอนไซม์ที่ช่วยทำให้สีผิวอ่อนและจางลงได้

6. พริกหยวกสีแดง สีเหลือง และสีเขียว

พริกหยวกก็เป็นแหล่งสารอาหารชั้นเยี่ยมให้กับผิวเช่นกัน เพราะมีเบต้าแคโรทีนที่ร่างกายของเราสามารถเปลี่ยนเป็นวิตามินเอ และยังมีวิตามินซีที่ช่วยในการสร้างคอลลาเจนให้กับผิวของเราอีกด้วย

7. บรอกโคลี

บรอกโคลีมีวิตามินและแร่ธาตุที่สำคัญต่อผิวอยู่มาก เช่น สังกะสี วิตามินเอ วิตามินซี และยังมีลูทีนซึ่งเป็นแคโรทีนอยด์ที่ทำงานคล้ายกับสารเบต้าแคโรทีน ลูทีนจะช่วยปกป้องผิวจากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ นอกจากนั้นบรอกโคลียังมีสารที่เรียกว่าซัลโฟราเฟน ที่มีผลต่อการต้านมะเร็งและมะเร็งผิวหนังบางชนิด ซัลโฟราเฟนยังช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดได้ดีอีกด้วย

8. มะเขือเทศ

จะไม่พูดถึงคงไม่ได้ มะเขือเทศเป็นแหล่งสารอาหารที่ดีเยี่ยมกับผิวของเรา มีประโยชน์ทั้งการนำมารับประทานหรือจะนำไปใช้มาสก์หน้าก็ได้เช่นกัน ในมะเขือเทศมีไลโคปีน เบต้าแคโรทีน วิตามินซี ลูทีน มีหน้าที่ในการปกป้องผิวจากการถูกทำร้ายโดยเเสงแดด ช่วยลดปัญหาริ้วรอยต่าง ๆ 

9. ตับ

ตับวัว ตับหมู ตับไก่ เป็นแหล่งรวมวิตามินเอ ซึ่งวิตามินเอสามารถช่วยซ่อมแซมผิวที่ถูกทำลายจากรังสียูวีและสามารถช่วยลดอาการของโรคสะเก็ดเงิน

10. นมถั่วเหลือง อัลมอนด์และข้าวโอ๊ต

นมถั่วเหลือง อัลมอนด์และข้าวโอ๊ต หรือ Plant Milk หรือน้ำนมที่ผลิตจากถั่ว ธัญพืชและผลไม้ ที่เรียกกันว่า นมแห่งอนาคตนมนี้มีประโยชน์ต่อสุขภาพผิวและยังรักษ์โลก ซึ่งใน Plant Milk เป็นแหล่งที่ดีสำหรับผิว ในเรื่องของวิตามินต่าง ๆ เช่น วิตามินดีที่ช่วยต่อต้านการอักเสบของผิวให้ความชุ่มชื้นกับผิวของเรา 

11. หอยนางรม

ในหอยนางรมจะมีสังกะสีสูงมาก สังกะสีเป็นสารอาหารที่จำเป็นในการปกป้องผิวจากการถูกทำลายจากรังสียูวี โดยมันจะช่วยลดปริมาณของรังสียูวีที่แทรกซึมเข้าสู่ผิวหนังของเรา ปกป้องไม่ให้ผิวเราแห้ง วิตามินซีในหอยนางรมยังช่วยลดการเกิดสิวได้ดีอีกด้วย 

12. ถั่ว

ถั่วอบต่าง ๆ เป็นแหล่งรวมของสังกะสี สามารถช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย เพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาผิวหนังอักเสบ รักษาแผล และยังช่วยลดอาการท้องร่วง 

13. ชาเขียว

ชาเขียวช่วยเรื่องริ้วรอยจากแสงแดด ที่อาจนำไปสู่การเกิดรอยดำ ผิวแห้ง ผิวขาดความยืดหยุ่น ที่เกิดจากความเสียหายจากรังสียูวี ชาเขียวยังสามารถช่วยเพิ่มปริมาณคอลลาเจนและเส้นใยอีลาสตินใต้ผิวหนัง ช่วยลดปฏิกิริยาออกซิเดชัน ทำให้ผิวเรียบเนียนและชุ่มชื่นขึ้น

14. ขมิ้น

ขมิ้นเป็นสมุนไพรที่ช่วยต่อสู้กับปัญหาผิวแห้งได้ ในขมิ้นจะมีเคอร์คูมินที่เป็นสารสำคัญมักพบได้ในพืชตระกูลขิง เช่น ขมิ้นชัน ว่านนางคำ มีสีเหลืองเป็นเอกลักษณ์ สารเคอร์คูมินยังนิยมนำไปสกัดทำเป็นเครื่องสำอาง อาหารเสริม และยา นอกจากนั้นเคอร์คูมินช่วยต้านโรคสะเก็ดเงินและการอักเสบของผิวหนัง 

อาหารที่ควรเลี่ยงถ้าไม่อยากผิวพัง

1. อาหารแปรรูปทั้งหลาย

เช่น ไส้กรอก แฮม ผลไม้กระป๋อง ขนมถุง อาหารเหล่านี้มีปริมาณโซเดียมสูง บวกกับน้ำตาลและวัตถุกันเสีย เมื่อร่างกายรับประทานอาหารเหล่านี้เข้าไปจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อผิวของเรา เช่น ทำให้เกิดสิว ริ้วรอยก่อนวัย หน้าบวม และอาจเป็นสาเหตุให้เกิดโรคมะเร็งได้อีกด้วย 

ผิวหนังอักเสบ | ภูมิแพ้ผิวหนัง | ประกันโรคร้ายแรง | รู้ใจ

2. ผลิตภัณฑ์จากนม

นมวัวที่ขายตามร้านสะดวกซื้อหรือซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำต่างๆ แม่วัวที่ผลิตน้ำนมออกมานั้น ส่วนใหญ่แล้วจะโดนฉีดฮอร์โมนเพื่อกระตุ้นการสร้างนม เมื่อเราซื้อผลิตภัณฑ์เหล่านี้มากินเท่ากับว่า สารเคมีเหล่านั้นมันได้เข้าสู่ร่างกายของเราด้วย ไม่ว่าจะเป็นโยเกิร์ต ไอศกรีม ชีส เนย ซึ่งฮอร์โมนที่พบได้ในนมวัวนั้นเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดสิว หากใครมีปัญหาเรื่องสิว ลองหยุดกินนมวัวสักพัก และลองหันไปกิน Plant Milk แทน

3. กาแฟและแอลกอฮอล์

ทั้งกาแฟและแอลกอฮอล์เป็นตัวการพรากน้ำไปจากผิวของเรา ทำให้ผิวขาดน้ำ เหี่ยวแห้ง ไม่สดใส แต่ไม่ใช่ว่าจะดื่มไม่ได้ เช่น กาแฟไม่ควรดื่มเกินวันละ 2 แก้วซึ่งอยู่ในปริมาณที่ร่างกายพอรับได้ สำหรับแอลกอฮอล์นั้น นอกจากจะทำลายสุขภาพผิวแล้ว ยังทำลายสุขภาพร่างกายอื่น ๆ ของเราอีกด้วย แม้จะมีงานวิจัยบอกว่าการดื่มไวน์วันละแก้วก่อนนอนดีต่อผิว แต่เชื่อว่าเรายังสามารถหาวิธีดูแลผิวอื่น ๆ ได้ดีกว่าการดื่มแอลกอฮอลล์ 

4. น้ำอัดลม

ตระกูลน้ำอัดลมทั้งแบบปกติและแบบน้ำตาล 0% ล้วนแล้วแต่เป็นสาเหตุให้เกิดสิวและริ้วรอยก่อนวัย เพราะในน้ำอัดลมที่ใช้สารให้ความหวานแทนน้ำตาลยิ่งแล้วใหญ่ นอกจากน้ำเหล่านี้จะมีปริมาณโซเดียมอยู่สูงแล้ว สารให้ความหวานก็ส่งผลเสียต่อผิวเราเช่นกัน ทำให้เกิดอาการแพ้ ผดผื่นคัน และสิ่งที่ตามมาคือทำให้เราอ้วน

5. ฟาสต์ฟู้ด

อาหารฟาสต์ฟู้ด เช่น แฮมเบอร์เกอร์ เฟรนช์ฟราย ไก่ทอด พิซซ่า ฯลฯ เป็นอาหารที่มีค่าไกลซิมิค อินเด็กซ์ หรือค่า GI สูง เมื่อค่า GI สูงทำให้ปริมาณน้ำตาลในเลือดสูงตามไปด้วย และยังมีไขมันอิ่มตัวที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดสิว คอเลสเตอรอลที่มากับของพวกนี้ นอกจากผิวจะพังแล้ว ยังเสี่ยงเป็นโรคอ้วนและโรคหัวใจอีกด้วย

และทั้งหมดนี้เป็นคัมภีร์สำหรับสาว ๆ หนุ่ม ๆ ที่อยากมีผิวสวยแบบยั่งยืน ไม่ง้อเลเซอร์ของหมอ แต่หากใครสามารถหรือมีกำลังจับจ่ายจะซื้อทั้งคอร์สทำหน้าและปรับเปลี่ยนอาหารการกินไปด้วย นั่นยิ่งเป็นผลดีต่อคุณเองด้วย ให้การมีผิวสวยเป็นแรงบันดาลใจเล็ก ๆ สู่การเลือกทานอาหารที่ดี สุดท้ายเราก็จะมีผิวดีไปพร้อมสุขภาพที่ดีมากขึ้น สวย ครบ จบปิ๊ง

สามารถติดตามข่าวสาร สาระความรู้เกี่ยวกับสุขภาพ รถยนต์ มอเตอร์ไซค์ รวมถึงประกันภัยออนไลน์ต่าง ๆ จากรู้ใจได้ที่ Facebook Page: Roojai หรือคลิกที่นี่เพื่อเพิ่มเราเป็นเพื่อนใน LINE ได้เลย (Official Line ID: @roojai)