เนื้องอกมดลูก (Uterine Fibroids) เป็นโรคที่พบได้บ่อยในผู้หญิง โดยเฉพาะในช่วงวัยทำงาน อายุ 30-50 ปีถึงแม้ว่าเนื้องอกในมดลูกส่วนใหญ่จะไม่ใช่เนื้อร้ายที่กลายเป็นมะเร็ง แต่ก็อาจสร้างความไม่สบายและเป็นปัญหาสุขภาพได้ในบางคน การทำความเข้าใจถึงสาเหตุ อาการ และเมนูอาหารสำหรับคนเป็นเนื้องอกมดลูก จะช่วยให้ผู้หญิงทุกคนเตรียมตัวป้องกันและรับมือได้อย่างเหมาะสม
สนใจอ่านแค่บางเรื่อง ก็เลือกได้เลย!
- เนื้องอกมดลูกคืออะไร?
- เนื้องอกมดลูกสาเหตุเกิดจากอะไร?
- เนื้องอกมดลูก มีอาการยังไง?
- อาหารช่วยลดความเสี่ยงเนื้องอกมดลูกยังไง?
- เป็นเนื้องอกมดลูก กินอะไรได้บ้าง และอะไรที่ควรหลีกเลี่ยง?
เนื้องอกมดลูกคืออะไร?
เนื้องอกในมดลูกคือการเจริญเติบโตผิดปกติของเซลล์กล้ามเนื้อของมดลูก ส่วนมากเป็นเนื้องอกชนิดไม่ร้ายแรง (benign tumor) หรือไม่ใช่มะเร็งนั่นเอง ซึ่งสัดส่วนของการที่จะกลายเป็นเนื้อร้ายมีน้อยมากไม่ถึง 1% โดยมักจะพบในผู้หญิงที่อายุระหว่าง 30-50 ปี ขนาดของเนื้องอกสามารถแตกต่างกันไปตั้งแต่ก้อนเล็ก ๆ ไปจนถึงก้อนใหญ่ หรืออาจมีก้อนเล็กหลายก้อนก็ได้ ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
เนื้องอกมดลูกกลายเป็นมะเร็งได้มั้ย?
ส่วนใหญ่แล้วเนื้องอกในมดลูกไม่ใช่เนื้อร้ายหรือเนื้องอกที่กลายเป็นมะเร็ง มีโอกาสน้อยมากกว่า 1% ที่จะเปลี่ยนเป็นมะเร็ง แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่มีความเสี่ยงเลย การไปหาหมอและตรวจให้แน่ใจว่าจะไม่กลายเป็นมะเร็งจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด ในทางกลับกันหากเป็นมะเร็งขึ้นมาจริง ๆ แล้วตรวจพบเร็วก็จะเพิ่มโอกาสในการรักษาและลดความเจ็บปวดทรมานจากโรคด้วย
สำหรับคนที่มีสุขภาพแข็งแรง แนะนำให้ทำประกันมะเร็งติดตัวเอาไว้ เพราะปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดมะเร็ง หลัก ๆ มาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น เครียด ไม่ออกกำลังกาย กินอาหารไขมันสูง อาหารแปรรูป ไปจนถึงสิ่งแวดล้อม ซึ่งเราไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้ทั้งหมด ดังนั้นทำประกันมะเร็งกันไว้ ดีกว่ามาแก้ในวันที่เจ็บป่วย
เนื้องอกมดลูกสาเหตุเกิดจากอะไร?
ปัจจุบันยังไม่รู้สาเหตุที่แน่ชัดของการเกิดเนื้องอกมดลูก แต่มีหลายสิ่งที่สามารถเพิ่มความเสี่ยงได้ คือ ฮอร์โมนเอสโตรเจน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่สร้างในรังไข่ พบว่าสัมพันธ์กับการที่ผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์มีความเสี่ยงสูง และเนื้องอกจะฝ่อไปเมื่อเข้าสู่ช่วงวัยหมดประจำเดือน นอกจากนั้นยังคนที่ประจำเดือนมาตั้งแต่อายุน้อย (มีการทำงานของฮอร์โมนเร็ว) กรรมพันธุ์ โรคอ้วน การใช้ยา เป็นต้น
เนื้องอกมดลูก มีอาการยังไง?
ตามปกติแล้วคนที่เป็นเนื้องอกมดลูกจะไม่มีการแสดงอาการ แต่อาจสามารถคลำพบก้อนในท้องได้หากเนื้องอกมีขนาดใหญ่ แต่ในบางคนอาจมีอาการ โดยจะแสดงอาการดังนี้
- ประจำเดือนมามากกว่าปกติ หรือมานานเกิน 1 สัปดาห์
- ปวดท้องระหว่างมีประจำเดือน
- ปวดท้องน้อย
- ปวดหลัง หรือขา
- ท้องผูก
- ปัสสาวะบ่อย หรือปัสสาวะลำบาก
- มีอาการเจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์
อาหารช่วยลดความเสี่ยงเนื้องอกมดลูกยังไง?
สำหรับคำถามนี้ นายแพทย์สันต์ ใจยอดศิลป์ ได้อธิบายถึงความสัมพันธ์ระหว่างการบริโภคพืชผักผลไม้กับความเสี่ยงในการเกิดเนื้องอกในมดลูก โดยงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Journal of Obstetrics and Gynaecology Research ได้ทำการศึกษาย้อนหลัง กลุ่มผู้หญิงซึ่งมีอายุเท่ากัน ดังนี้
- กลุ่มผู้หญิงจำนวน 600 คนที่เป็นเนื้องอกในมดลูก
- กลุ่มผู้หญิงอีก 600 คนที่ไม่เป็นเนื้องอก
ผลการศึกษาพบว่า ผู้หญิงที่ไม่ได้เป็นเนื้องอกมดลูกมีพฤติกรรมการบริโภคพืชผักผลไม้หลากหลายชนิดในปริมาณมากกว่า โดยเฉพาะผักชนิดต่าง ๆ เช่น บรอกโคลี่ กะหล่ำปลี มะเขือเทศ และผลไม้อย่างแอปเปิล เมื่อเทียบกับกลุ่มผู้หญิงที่เป็นเนื้องอกมดลูก นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยบางชิ้นที่แสดงความสัมพันธ์อย่างชัดเจนว่าผู้ที่ไม่บริโภคพืชผักผลไม้เป็นประจำมีความเสี่ยงในการเป็นเนื้องอกมดลูกมากขึ้น
นายแพทย์สันต์ยังแนะนำเพิ่มเติมว่า “หากต้องการลดความเสี่ยงในการเป็นเนื้องอกมดลูก ควรรักษาระดับวิตามินดีในร่างกายให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม ซึ่งระดับวิตามินดีที่แนะนำคือ 21-29 นาโนกรัม/มิลลิลิตร หากพบว่าระดับวิตามินดีต่ำกว่า 20 นาโนกรัม/มิลลิลิตร จะถือว่ามีภาวะขาดวิตามินดี อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่มีระดับวิตามินดีสูงกว่า 30 นาโนกรัม/มิลลิลิตร ก็ไม่มีอันตรายต่อร่างกายแต่อย่างใด”
เป็นเนื้องอกมดลูก กินอะไรได้บ้าง และอะไรที่ควรหลีกเลี่ยง?
รู้มั้ยว่า อาหารบางชนิดช่วยลดความเสี่ยงการเกิดมะเร็ง เนื้องอกมดลูก หรือแม้กระทั่งบรรเทาอาการที่ไม่สุขสบายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น เช่น ความเจ็บปวด และการตกเลือด แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องย้ำเตือนคือ อาหารไม่สามารถรักษาหรือป้องกันโรคได้ทั้งหมด แต่สารอาหารช่วยให้ร่างกายแข็งแรงและลดความเสี่ยงของโรคได้หากกินอย่างเหมาะสม
สำหรับคนที่เป็นเนื้องอกมดลูกแนะนำให้ทำอาหารทานเองจะได้รับสารอาหารที่ต้องการครบถ้วนที่สุด หรือหากจำเป็นต้องออกไปทานอาหารนอกบ้านก็ควรหลีกเลี่ยงของหวาน อาหารแปรรูป หรือฟาสต์ฟู้ดต่าง ๆ แล้วอาหารที่เหมาะกับคนเป็นเนื้องอกมดลูกมีอะไรบ้าง ไปดูกัน
1. ผักและผลไม้
สุดยอดจุดรวมแห่งสารอาหารเพื่อสุขภาพ การเพิ่มปริมาณการรับประทานผักและผลไม้ในแต่ละวัน ไม่เพียงแค่ช่วยลดความเสี่ยงของเนื้องอกมดลูก แต่ยังเป็นอาหารเพื่อสุขภาพที่ดีในการป้องกันโรคหัวใจและมะเร็งบางชนิดอีกด้วย โดยเฉพาะผักและผลไม้บางชนิด เช่น แอปเปิล บรอกโคลี ผักกาด ส้ม มะนาว เกรปฟรุต และมะเขือเทศ ที่พบว่าช่วยต้านเนื้องอกมดลูกได้เป็นอย่างดี
ทำไมการกินผักผลไม้ถึงช่วยได้? เหตุผลก็คือ ผักและผลไม้เหล่านี้มีใยอาหารสูง ซึ่งช่วยให้ร่างกายสามารถขับเอสโตรเจนส่วนเกินออกมาได้ง่ายขึ้นผ่านการขับถ่าย นอกจากนี้ยังช่วยให้ค่า BMI หรือดัชนีมวลกายอยู่ในระดับที่เหมาะสม เนื่องจากเป็นอาหารที่ให้พลังงานต่ำ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการลดความเสี่ยงของเนื้องอกมดลูก
2. ผลิตภัณฑ์จากนมไขมันต่ำ + โพรไบโอติกส์
ผลิตภัณฑ์จากนมที่มีแคลเซียมสูง อาจช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดเนื้องอกมดลูกได้ ดังนั้น การเลือกรับประทานผลิตภัณฑ์จากนมแบบไขมันต่ำ และมีโพรไบโอติกส์ เช่น โยเกิร์ต ที่มีแบคทีเรียที่ดีต่อระบบทางเดินอาหาร จึงเป็นทางเลือกที่ดี ถึงแม้ว่าการรับประทานอาหารเหล่านี้จะไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะป้องกันการเกิดเนื้องอกมดลูกได้อย่างเต็มร้อย แต่ก็ถือเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยลดความเสี่ยงลงได้ ซึ่งหากคุณแพ้แล็กโทส ก็สามารถเลือกดื่มนมจากพืชที่มีแคลเซียมและโพรไบโอติกส์แทนได้
3. อาหารที่อุดมด้วยวิตามินดี
วิตามินดีเป็นสารอาหารที่มีความสำคัญต่อสุขภาพกระดูก ระบบภูมิคุ้มกัน และระบบประสาท โดยมีการศึกษาวิจัยบางชิ้นที่แนะนำให้เพิ่มการรับประทานวิตามินดีเพื่อลดความเสี่ยงของเนื้องอกมดลูก ซึ่งอาหารที่อุดมด้วยวิตามินดี ได้แก่ ผลิตภัณฑ์จากนม ปลาทะเล เช่น ปลาทูน่า ปลาเทราต์ ปลาแซลมอน รวมถึงอัลมอนด์และข้าวโอ๊ต
4. เลี่ยงเนื้อแดงและผลิตภัณฑ์แปรรูป
เนื้อแดงและเนื้อแปรรูป เช่น ไส้กรอก แฮม มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดโรคหัวใจและมะเร็ง รวมไปถึงเนื้องอกมดลูกอีกด้วย แม้ว่ายังต้องการการศึกษาเพิ่มเติมในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างการบริโภคเนื้อแดงและเนื้องอกมดลูก แต่ก็เป็นที่ชัดเจนว่า การจำกัดปริมาณเนื้อแดงและเนื้อแปรรูปลง จะช่วยลดความเสี่ยงโรคร้ายแรงได้ รวมไปถึงการเลี่ยงอาหารแปรรูป อาหารทอด อาหารมัน และอาหารรสจัด ที่สารอาหารน้อยด้วย
5. เลี่ยงการซื้ออาหารเสริมกินเอง
สำหรับคนที่ซื้ออาหารเสริมทานเองหรือซื้อยาตามโฆษณาชวนเชื่อในอินเทอร์เน็ต แนะนำให้ปรึกษาคุณหมอก่อนทานทุกครั้ง หรือถ้าอยากทานอาหารเสริมให้คุณหมอจัดให้ดีที่สุด และยารักษาเนื้องอกมดลูกควรออกมาจากแพทย์เจ้าของไข้เท่านั้น ไม่แนะนำให้ซื้อทานเองหรือซื้อตามโลกออนไลน์
6. เลี่ยงการกินน้ำหวาน-ของหวาน
อาหารที่มีน้ำตาลและคาร์โบไฮเดรตสูง เช่น น้ำหวานต่าง ๆ น้ำอัดลม ลูกอม เป็นต้น อาจทำให้อาการเนื้องอกมดลูกแย่ลง เพราะอาหารพวกนี้ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งสูง แล้วส่งผลต่อการเติบโตของเนื้องอก
7. เลี่ยงดื่มแอลกอฮอล์
การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป อาจทำให้ระดับฮอร์โมนในร่างกายเปลี่ยนแปลง ซึ่งอาจเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดเนื้องอกมดลูก ดังนั้นควรดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณที่เหมาะสม ไม่เกิน 2 แก้วต่อวันสำหรับผู้ชาย และ 1 แก้วต่อวันสำหรับผู้หญิง
เมนูอาหารสำหรับคนเป็นเนื้องอกมดลูก และการกินอะไรหรือห้ามกินอะไร ควรปรึกษาแพทย์เจ้าของไข้อย่างใกล้ชิด เพราะคุณอาจมีโรคประจำตัว หรือทานยาบางชนิดที่อาจต้องงดอาหารบางประเภท ดังนั้นหากคุณมีอาการของเนื้องอกมดลูกหรือคลำเจอก้อนในท้อง แนะนำให้รีบไปหาหมอเพื่อวินิจฉัยและวางแผนการรักษาอย่างเหมาะสม
สามารถติดตามข่าวสาร สาระความรู้เกี่ยวกับสุขภาพ รถยนต์ มอเตอร์ไซค์ รวมถึงประกันภัยออนไลน์ต่าง ๆ จากรู้ใจได้ที่ Facebook Page: Roojai หรือคลิกที่นี่เพื่อเพิ่มเราเป็นเพื่อนใน LINE ได้เลย (Official Line ID: @roojai)
คำจำกัดความ
ฮอร์โมนเอสโตรเจน | เป็นฮอร์โมนเพศหญิงที่ร่างกายสามารถผลิตขึ้นเองได้ตามธรรมชาติ ทำหน้าที่ควบคุมระบบสืบพันธ์ุของเพศหญิง เมื่อย่างเข้าวัยรุ่นฮอร์โมนตัวนี้จะถูกผลิตออกมาเพื่อเปลี่ยนจากเด็กให้ไปเป็นผู้ใหญ่ และฮอร์โมนเอสโตรเจนจะค่อย ๆ ลดลงตามอายุที่มากขึ้น |
อาหารเพื่อสุขภาพ | อาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายและช่วยส่งเสริมสุขภาพที่ดี |
สารอาหาร | สารเคมีในอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย โดยร่างกายต้องได้รับเพื่อการเจริญเติบโต การซ่อมแซมเนื้อเยื่อ และการทำงานของระบบต่าง ๆ ในร่างกายอย่างมีประสิทธิภาพ |