ความลับนางฟ้า! ทริคดื่มน้ำแบบถูกวิธี ผิวดี ลดน้ำหนัก ชะลอวัย

การดื่มน้ำที่ถูกต้องนอกจากจะช่วยทำให้ระบบต่าง ๆ ภายในร่างกายทำงานอย่างสมบูรณ์แล้ว น้ำยังช่วยขับสารพิษออกจากร่างกาย มีประโยชน์ต่อผิวพรรณ และยังสามารถช่วยลดน้ำหนักได้อีกด้วย เป็นหนึ่งในวิธีดูแลตัวเองง่าย ๆ ที่ใกล้ตัวทุกคน วันนี้รู้ใจเลยจะมาบอกเทคนิคการดื่มน้ำให้ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพ ทั้งต่อผิวและต่อระบบต่าง ๆ ในร่างกาย รวมไปถึงประโยชน์ของการดื่มน้ำ หากดื่มน้ำไม่เพียงพอร่างกายจะแสดงอาการขาดน้ำยังไง ดื่มน้ำมากเกินไปได้มั้ย ต้องดื่มน้ำกี่ลิตรต่อวัน รู้ใจตอบทุกคำถามด้านล่างนี้เลย

ทำไมต้องดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว?

เราคงจะเคยได้ยินกันมาว่า “ต้องดื่มน้ำให้ได้วันละ 8 แก้ว” กันมาพอสมควร เหตุผลที่ทำไมต้องดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว โดยแก้วต้องมีความจุ 8 ออนซ์หรือประมาณ 1.5 ลิตรในแต่ละวัน ก็เพราะว่าน้ำเป็นสิ่งสำคัญที่สุดอย่างหนึ่งของร่างกาย น้ำจะทำหน้าที่เป็นตัวทำละลายหลักในกระบวนการย่อยอาหารในกระเพาะ และช่วยขับสารพิษต่าง ๆ ออกจากร่างกาย 

ในความเป็นจริงไม่ได้มีกฎตายตัวว่าทุกคนต้องดื่ม 8 แก้วต่อวัน อาจจะมากกว่านั้นก็ได้ เพราะร่างกายของคนเราแต่ละคนแตกต่างกัน รวมถึงทำกิจกรรมต่างกัน ฉะนั้นปริมาณน้ำที่ควรดื่มของแต่ละคนมันเลยจะไม่เท่ากัน แต่ให้คิดว่าโดยทั่วไปแล้วควรดื่มน้ำให้ได้วันละ 8 แก้ว ซึ่งน้ำสะอาดที่เราดื่มจะไปช่วยให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายของเราทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

ประโยชน์ของน้ำต่อร่างกาย

ในร่างกายของคนเรามีน้ำเป็นส่วนประกอบถึง 4/5 ส่วนของน้ำหนัก ในแต่ละอวัยวะสำคัญจะมีส่วนประกอบของน้ำดังนี้

• สมองและหัวใจ มีน้ำอยู่ 73% 
• ปอด มีน้ำอยู่ 83% 
• ผิวหนัง มีน้ำอยู่ 64% 
• กล้ามเนื้อและไต มีน้ำอยู่ 79% 
• กระดูก มีน้ำอยู่ 31% 

แน่นอนว่าหากร่างกายขาดน้ำ การดื่มน้ำไม่เพียงพอจะส่งผลต่อระบบไหลเวียนของเหลวในร่างกายและการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ ก็จะด้อยลง ภาวะขาดน้ำในเบื้องต้นอาจกระหายน้ำ ตาแห้ง ปากแห้ง ผิวแห้ง เหงื่อออกน้อย ปัสสาวะน้อยกว่าปกติ ท้องผูก ปวดศีรษะ มึนงง อ่อนเพลีย จนไปถึงภาวะรุนแรงที่อาจช็อก หมดสติได้เลย

ทริคดื่มน้ำยังไงให้เพียงพอ?

อายุที่เพิ่มขึ้นทำให้กล้ามเนื้อกักเก็บปริมาณน้ำในร่างกายลดลง และหากเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบดื่มน้ำด้วยแล้ว อาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพด้านผิวพรรณ เช่น ผิวแห้งตึง เป็นขุย มีรอยเหี่ยวย่น ตีนกา ฯลฯ จากการศึกษาพบว่า การดื่มน้ำวันละ 2 ลิตรต่อวัน มีส่วนช่วยในเรื่องการเพิ่มความชุ่มชื้นของผิวหนังชั้นลึก ช่วยลดอาการผิวแห้ง ผิวหยาบกร้าน และหากดื่มน้ำได้วันละ 3 ลิตรต่อวันจะช่วยเรื่องความกระชับ ความเฟิร์มของผิว น้ำยังช่วยขับสารพิษออกจากร่างกาย ทำให้ผิวของเราดูใส เปล่งปลั่งขึ้นนั่นเอง 

สำหรับเพื่อน ๆ ที่ไม่รู้ว่าน้ำ 1.5 ลิตรหรือ 8 แก้วต่อวัน ควรดื่มยังไง เวลาไหน เรามีเทคนิคง่าย ๆ ในการดื่มน้ำให้ครบ 8 แก้วต่อวัน มาแนะนำกัน

1. ดื่มน้ำอุณหภูมิห้อง 1 แก้วหลังตื่นนอน

การดื่มน้ำหลังตื่นนอนเหมือนการปลุกร่างกายให้ตื่น นอกจากช่วยเรื่องผิวยังช่วยให้เรารู้สึกกระฉับกระเฉง สดชื่น พร้อมเริ่มวันใหม่ และการดื่มน้ำหลังตื่นนอนยังไปช่วยกระตุ้นเรื่องการขับถ่ายในตอนเช้าให้เราอีกด้วย

2. ดื่มน้ำ 1 แก้วก่อนมื้ออาหาร

สำหรับใครที่ต้องการลดน้ำหนัก การดื่มน้ำก่อนมื้ออาหารจะช่วยลดพลังงานที่ได้รับจากอาหารแต่ละมื้อ ควรดื่มก่อนอย่างน้อย 30 นาที

3. ดื่มน้ำ 1 แก้วหลังมื้ออาหาร

หลังรับประทานอาหารทุกมื้อ น้ำ 1 แก้วจะไปช่วยเรื่องการย่อย การดูดซึมสารอาหารต่าง ๆ และยังช่วยเรื่องการทำงานของระบบทางเดินอาหารและช่วยลดอาการท้องผูกลงได้

4. ดื่มน้ำ 1 แก้วก่อนนอน

ในระหว่างที่เราหลับ เป็นเวลาที่ร่างกายและอวัยวะภายในร่างกายของเราได้พักจากการหนัก ๆ มาทั้งวัน การดื่มน้ำก่อนนอนจะช่วยป้องกันภาวะร่างกายขาดน้ำขณะนอนหลับ สังเกตสิว่า เมื่อเราตื่นนอนเรามักจะกระหายน้ำ นั่นเป็นภาวะที่ร่างกายขาดน้ำนั่นเอง แต่ไม่ควรดื่มน้ำมากกว่า 1 แก้วก่อนนอนหรือดื่มก่อนซัก 30 – 45 นาทีก่อนเข้านอน จะได้ไม่ตื่นกลางดึกเพื่อมาเข้าห้องน้ำ 

การดื่มน้ำดีต่อผิวยังไง?

1. ดื่มน้ำทำให้ริ้วรอยน้อยลง

ยิ่งผิวของเรามีความชุ่มชื้นจากน้ำมากเท่าไหร่ ริ้วรอยและร่องลึกต่าง ๆ ก็จะยิ่งน้อยลงเท่านั้น เพราะน้ำจะช่วยรักษาความชุ่มชื้นของผิว ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น ยิ่งผิวมีความยืดหยุ่นมากเท่าไหร่ ริ้วรอยก็จะน้อยลงเท่านั้น 

2. ดื่มน้ำทำให้สุขภาพผิวดีขึ้น

หากเราดื่มน้ำได้เพียงพอในแต่ละวัน นอกจากสุขภาพผิวเราจะดีขึ้นแล้ว น้ำเปล่ายังสามารถช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคทางผิวหนัง เช่น โรคสะเก็ดเงินและโรคเรื้อนกวาง เพราะน้ำจะไปเป็นตัวช่วยทำให้ระบบย่อยอาหารของเราขับสารพิษต่าง ๆ ออกจากร่างกาย เมื่อร่างกายเราไม่มีของเสียจึงส่งผลให้สุขภาพดี ผิวพรรณเปล่งปลั่ง

3. ดื่มน้ำช่วยลดอาการตัวบวม

เคยสังเกตกันบ้างหรือไม่ ว่าทำไมตัวบวม ทั้งที่ไม่ได้กินของที่มีโซเดียมเยอะ อาการตัวบวมไม่ได้เกิดเฉพาะเวลาที่เรากินโซเดียมเยอะเท่านั้น การดื่มน้ำเปล่าไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย สามารถส่งผลให้เกิดอาการตัวบวมได้ เนื่องจากร่างกายของเรากำลังขาดน้ำมันจึงพยายามเก็บกักน้ำเอาไว้ นี่เป็นกระบวนการตามธรรมชาติของร่างกายมนุษย์ที่มีกลไกในการป้องกันตัวเอง วิธีลดอาการบวมนี้ คือต้องดื่มน้ำให้เพียงพอตามที่ร่างกายต้องการ 

4. ดื่มน้ำช่วยรักษาผิวจากการโดนแดด

เชื่อว่าเพื่อน ๆ ทุกคนน่าจะเคยผิวไหม้กันมาบ้าง ไม่ว่าจะจากทริปทะเลล่าสุดหรือทำงานกลางเเดดจนผิวไหม้ นอกจากใช้เจลว่านหางจระเข้แล้วการดื่มน้ำให้มากกว่าปกติที่เราเคยดื่มในช่วงฟื้นฟูผิวจากการโดนแดดเผา จะยิ่งช่วยให้ผิวฟื้นฟูได้เร็วขึ้นอีกด้วย

5. ดื่มน้ำช่วยลดสิว

น้ำที่เราดื่มเข้าไปอย่างเพียงพอ นอกจากจะขับสารพิษ ของเสียออกจากร่างกายแล้ว น้ำยังช่วยล้างสารพิษตามรูขุมขนและสิ่งสกปรกที่อุดตันตามรูขุมขน ทำให้ช่วยลดสิว

6. ดื่มน้ำช่วยชะลอวัย

ใช่แล้ว การดื่มน้ำอย่างเพียงพอช่วยชะลอวัยได้ เพราะเมื่อผิวของเราชุ่มชื้น ไม่ขาดน้ำ ผิวจะดูเต่งตึงไม่เหี่ยวย่น ทำให้ดูอ่อนกว่าวัยนั่นเอง 

ดื่มน้ำมากเกินไปก็ไม่ดี!

เหรียญมีสองด้านเสมอ นั่นหมายความว่าหากเราดื่มน้ำมากเกินไปหรือดื่มน้ำไม่ถูกวิธีก็สามารถส่งผลเสียต่อร่างกายได้เช่นกัน การที่ร่างกายได้รับน้ำในปริมาณที่มากเกินไปในเวลาอันรวดเร็ว จะทำให้เกิดภาวะน้ำเป็นพิษ (Water Intoxication) ส่งผลให้ปวดหัว เป็นตะคริว ชัก หรือมีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง คลื่นไส้ อยากอาเจียน และส่งผลกระทบต่อเซลล์สมอง อาจถึงข้้นเสียชีวิตได้ 

ฉะนั้น หากรู้สึกว่ามีอาการปวดหัวหลังดื่มน้ำ ให้หยุดการดื่มน้ำ 1 ชั่วโมงหรือจนกว่าอาการปวดหัวจะหายไป และให้ค่อย ๆ เริ่มดื่มใหม่ โดยให้ดื่มทีละน้อย จิบไปตลอดทั้งวัน ไม่ควรดื่มรวดเดียวหมด 

เราควรดื่มน้ำวันละกี่ลิตร?

ในส่วนท้ายของบทความรู้ใจมีวิธีคำนวณการดื่มน้ำง่าย ๆ ที่เหมาะกับแต่ละคนมาฝากทิ้งท้ายกัน โดยการใช้สูตร

น้ำหนัก x 2.2 x 30 ÷ 2 = ปริมาณน้ำที่ร่างกายต้องการต่อวัน (มิลลิลิตร)

ตัวอย่างเช่นหากมีน้ำหนักตัว 45 กิโลกรัม จะมีวิธีคำนวณดังนี้

45 x 2.2 x 30 ÷ 2 = 1,485 มิลลิลิตร หรือประมาณ 1.5 ลิตรต่อวัน

สำหรับคนที่ออกกำลังกายเป็นประจำ อาจเพิ่มปริมาณในการดื่มน้ำแต่ละวันตามกิจกรรมที่ทำ เพื่อป้องกันร่างกายจากการขาดน้ำ 

สามารถติดตามข่าวสาร สาระความรู้เกี่ยวกับสุขภาพ รถยนต์ มอเตอร์ไซค์ รวมถึงประกันภัยออนไลน์ต่าง ๆ จากรู้ใจได้ที่ Facebook Page: Roojai หรือคลิกที่นี่เพื่อเพิ่มเราเป็นเพื่อนใน LINE ได้เลย (Official Line ID: @roojai)