ระดับน้ำตาลในเลือดเท่าไร ถึงเข้าข่ายเป็น “โรคเบาหวาน”

โรคเบาหวานเป็นอีก 1 โรคร้ายที่ติดอันดับต้น ๆ ของการเสียชีวิตของคนไทย โดยมีรายงานสถานการณ์โรคเบาหวานทั่วโลกในปี 2564 ว่า มีผู้ป่วยด้วยโรคเบาหวานจำนวน 463 ล้านคน และคาดการณ์ว่าใน ปี 2588 จะมีผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวานเพิ่มขึ้นเป็น 629 ล้านคนทั่วโลก ซึ่งปัจจัยหลักเกิดจากการกินอาหาร

สำหรับประเทศไทยพบว่าแนวโน้มของโรคเบาหวานมีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้น 3 แสนคนต่อปี โดยประมาณการค่ารักษาพยาบาลเฉพาะโรคเบาหวานเพียงโรคเดียวสูงถึง 47,596 ล้านบาทต่อปี (ข้อมูลจากกรมควบคุมโรค) บทความนี้ เราจะมาเจาะลึกถึงโรคเบาหวานกันว่า โรคเบาหวานมีกี่ชนิด ระดับน้ำตาลในเลือดเท่าไรถึงเสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน และมีวิธีสังเกตุอาการเบาหวานเบื้องต้นด้วยตัวเองอย่างไร

โรคเบาหวาน คือ โรคที่เซลล์ในร่างกายมีความผิดปกติในขบวนการเปลี่ยนน้ำตาลในเลือดให้เป็นพลังงาน เมื่อมีการผิดปกติของกระบวนการเปลี่ยนน้ำตาลเป็นพลังงาน น้ำตาลที่ไม่ได้ถูกนำมาใช้จึงทำให้เกิดการสะสมและทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นกว่าระดับปกติ

อาการเบาหวานเป็นอย่างไร โรคเบาหวานมีกี่ชนิด?

โรคเบาหวานจะมีด้วยกันทั้งหมด 4 ชนิด ดังนี้

โรคเบาหวานชนิดที่ 1 – เกิดจากการขาดอินซูลิน เนื่องจากตับอ่อนที่ทำหน้าที่ผลิตอินซูลิน ไม่สามารถหลั่งอินซูลินได้ตามปกติ ซึ่งอินซูลินพวกนี้จะทำหน้าที่ช่วยนำทางน้ำตาลเข้าสู่เซลล์ของร่างกาย เพื่อเปลี่ยนให้เป็นพลังงาน เมื่อตับอ่อนผลิตอินซูลินไม่ได้ ทำให้เกิดภาวะขาดอินซูลิน มักพบมากในคนผอม ในเด็ก และผู้ที่มีอายุน้อยกว่า 40 ปี

โรคเบาหวานชนิดที่ 2 – มักพบในผู้ที่ค่อนข้างอ้วนและมีอายุมากกว่า 40 ปี ตับอ่อนยังสามารถผลิตอินซูลินได้อยู่ แต่ผลิตได้ในปริมาณที่น้อยและมีภาวะดื้อต่ออินซูลิน โรคเบาหวานชนิดนี้มักถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์ อาจรักษาได้ด้วยการควบคุมอาหารหรือทานยาเพื่อลดระดับน้ำตาลในเลือด ในผู้ป่วยบางรายที่เป็นนาน ๆ อาจต้องใช้การฉีดอินซูลินร่วมด้วย

โรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ – มักเกิดกับผู้ที่ไม่เคยมีประวัติเป็นโรคเบาหวานมาก่อน และจะเกิดขึ้นกับผู้หญิงขณะตั้งครรภ์ เมื่อคลอดแล้วส่วนใหญ่อาการเบาหวานก็จะหายไปเอง แต่คนกลุ่มนี้จะมีความเสี่ยงที่อาจจะเป็นโรคเบาหวานได้ในอนาคต จึงควรตรวจหาโรคเบาหวานเป็นประจำหลังคลอด

โรคเบาหวานชนิดอื่น ๆ – เช่น โรคเบาหวานที่เกิดจากความผิดปกติทางพันธุกรรม โรคของตับอ่อน ความผิดปกติของฮอร์โมน หรือการได้รับยาบางชนิด เช่น ยากลุ่มสเตียรอยด์ หรือสารเคมี เป็นต้น

ระดับน้ำตาลในเลือดเท่าไร ถึงเป็นโรคเบาหวาน?

การจะตรวจว่าเราเข้าข่ายเป็นผู้ป่วยโรคเบาหวานหรือไม่นั้น จำเป็นต้องให้แพทย์ทำการตรวจเลือดให้ วิธีการก็คือ แพทย์จะให้อดน้ำและอาหารเป็นเวลา 6-8 ชั่วโมง เพื่อให้ผลของค่าระดับน้ำตาลในเลือดออกมาค่อนข้างแม่นยำ โดยจะทำการเจาะเลือดในตอนเช้าหลังอดอาหารข้ามคืน หากผลระดับน้ำตาลในเลือดมีปริมาณมากกว่าหรือเท่ากับ 126 มิลลิกรัม/เดซิลิตร ก็จะเข้าข่ายเสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน ค่าระดับน้ำตาลในเลือดปกติของคนต้องน้อยกว่า 100 มิลลิกรัม/เดซิลิตร

นอกจากสามารถให้แพทย์ตรวจระดับน้ำตาลในเลือดแล้ว ยังมีวิธีสังเกตุอาการเบื้องต้นของโรคเบาหวานด้วยตัวเองง่าย ๆ ดังนี้

• ปัสสาวะบ่อย โดยเฉพาะตอนกลางคืน
• หิวบ่อย กินจุ แต่น้ำหนักลด
• ผิวแห้ง
• เป็นแผลแล้วหายยาก
• ตาพร่ามัว
• ชาบริเวณปลายมือปลายเท้า
• หย่อนสมรรถภาพทางเพศ
• ผอมลงอย่างไม่ทราบสาเหตุ
• ปวดขา ปวดเข่า
• อารมณ์แปรปรวน โมโหง่าย

หากพบว่ามีอาการต่าง ๆ เหล่านี้ ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อได้รับการตรวจรระดับน้ำตาลในเลือดเพื่อหาโรคเบาหวานอีกครั้ง

นอกจากต้องระมัดระวังเรื่องของการกินอาหารแล้ว การออกกำลังกายเป็นประจำจะช่วยให้ระบบภายในต่าง ๆ ของร่างกายเราทำงานอย่างสมบูรณ์ และเพื่อเตรียมความพร้อมให้รอบด้าน เราควรมีประกันสุขภาพดี ๆ ไว้สักเล่ม เพื่อความอุ่นใจทั้งตัวเองและคนในครอบครัว หากเกิดโรคร้ายขึ้นกับเรา จะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องของค่ารักษาพยาบาลนั่นเอง สามารถปรึกษาเรื่องประกันที่รู้ใจได้ที่ 02 582 8855 เราพร้อมยินดีให้บริการ ด้วยประกันภัยที่รู้ใจกว่า ประหยัดกว่า

ติดตามข่าวสาร สาระความรู้เกี่ยวกับสุขภาพ รถยนต์ มอเตอร์ไซค์ รวมถึงโปรโมชั่นใหม่ ๆ จากรู้ใจ ประกันออนไลน์ ได้ที่ Facebook Page: Roojai หรือ Official Line ID: @roojai

เขียนโดย

ชาริณี ทาลา

อ่านบทความอื่นเพิ่มเติม