เชื่อมั้ย? เบาหวาน ไตวายและความดันโลหิตสูง มีความเกี่ยวข้องกัน หากเราเป็นโรคใดโรคหนึ่งยิ่งจะเพิ่มความเสี่ยงของโรคร้ายอื่น แพ็กเกจ 3 โรคฮิต เบาหวาน ไตวาย และความดันสูง หากใครได้เป็นทั้ง 3 โรคนี้แล้ว อาจเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจอีกด้วย เรียกว่า เป็นแพ็กเกจเพชฌฆาตที่ใคร ๆ ก็ไม่อยากได้ แล้วเราจะรับมือและหาวิธีป้องกันโรคร้ายทั้ง 3 โรคนี้ได้ยังไง วันนี้รู้ใจมีคำตอบและวิธีป้องกันมาฝาก ตามอ่านได้ในบทความนี้เลย
โรคเบาหวานคืออะไร?
โรคเบาหวาน คือ ภาวะที่ระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ ส่งผลให้การไหลเวียนในเลือดผิดปกติทั่วร่างกาย เมื่อเกิดขึ้นต่อเนื่องก็จะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของหลอดเลือดที่ไตและเนื้อเยื่อที่ไต ทำให้การทำงานของไตลดลง และนำไปสู่ภาวะไตวายจากเบาหวาน หรือที่เรียกว่าเบาหวานลงไต
โรคไตคืออะไร?
โรคไตคือ ภาวะที่ไตถูกทำลาย มีผลทำให้ความสามารถในการทำงานของไตลดลง เช่น การรักษาสมดุลของเหลวในร่างกาย การควบคุมน้ำและแร่ธาตุต่าง ๆ ในเลือด การกำจัดของเสียออกจากเลือด การกำจัดยาและพิษออกจากร่างกาย เป็นต้น สาเหตุที่ทำให้เกิดโรคไตเรื้อรังก็คือ เบาหวานและโรคอ้วน
โรคความดันโลหิตสูงคืออะไร?
โรคความดันโลหิตสูง คือ ภาวะที่ตรวจพบว่าโลหิตมีความดันสูงอยู่ในระดับที่สูงผิดปกติ คือ มากกว่าหรือเท่ากับ 140/90 มิลลิเมตรปรอท ซึ่งอาจไม่แสดงอาการ แต่จะเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง เส้นเลือดแดงใหญ่โป่งพอง และไตวายเป็นต้น
จะเห็นได้ว่าทั้ง 3 โรคนี้มีความสัมพันธ์กัน นอกจากเบาหวานจะส่งผลกระทบมาที่ไตแล้ว เมื่อไตมีปัญหาก็จะส่งผลถึงความดันโลหิตในร่างกาย และการรักษาภาวะเบาหวานลงไตจะได้ผลก็ต่อเมื่อตรวจเจอในระยะเเรก ๆ เท่านั้น
ความเกี่ยวข้องระหว่างโรคเบาหวานกับโรคไต
หลาย ๆ คนคงแปลกใจอยู่ไม่ใช่น้อย เพราะตามความเชื่อแล้ว คนที่มีอาการของโรคเบาหวานห้ามกินของหวาน ผู้ป่วยเบาหวานส่วนใหญ่จึงหันไปรับประทานอาหารรสชาติเค็มแทน ซึ่งเป็นความเชื่อที่ไม่ถูกต้อง เพราะจริง ๆ แล้ว ผู้ป่วยโรคเบาหวานต้องเลี่ยงอาหารรสจัดทุกชนิด ไม่ว่าจะหวานจัด เค็มจัด มันจัด ต้องเลี่ยงทั้งหมด เนื่องจากผู้ป่วยเบาหวานมีความเสี่ยงต่อโรคไตเสื่อม จาก 2 สาเหตุดังนี้
- ในผู้ป่วยเบาหวาน เซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายรวมถึงเซลล์ของไตขาดพลังงานอยู่ตลอดเวลา จึงทำให้เซลล์เสื่อมสภาพ ทำให้การทำงานต่าง ๆ ทำได้ไม่ดีเหมือนเดิม เป็นสาเหตุให้กลไกของไตเสื่อมไปด้วย
- การที่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูงอยู่ตลอดเวลา ทำให้ไตทำงานหนักจนเกิดการเสื่อมสภาพ เพราะไตมีหน้าที่ในการกรองสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายให้คงไว้ในร่างกายให้ได้มากที่สุด และน้ำตาลก็เป็นสารอาหารที่ดี ดังนั้นไตจึงต้องทำงานหนักตลอดเวลา หากน้ำตาลในเลือดสูง ส่งผลให้เกิดภาวะไตเสื่อม
ความเกี่ยวข้องระหว่างไตกับความดันโลหิตสูง
สาเหตุของการเกิดโรคความดันโลหิตสูง แบ่งออกได้เป็น 2 ชนิด คือ
- ชนิดที่ไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด – พบมากในผู้สูงอายุ และผู้ป่วยที่คนในครอบครัวมีประวัติการเป็นโรคความดันโลหิตสูง
- ชนิดที่ทราบสาเหตุ – สาเหตุหลักมาจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น โรคทางต่อมไร้ท่อ โรคต่อมหมวกไต โรคไตอักเสบที่พัฒนามาเป็นโรคไตเรื้อรัง อาการครรภ์เป็นพิษ หรือผลกระทบจากการทานยาบางตัวเป็นเวลานาน
ความเกี่ยวข้องระหว่างโรคไตและความดันโลหิตสูง เกิดจากการที่ภายในร่างกายมีความดันในเลือดสูงมาก ซึ่งอาจส่งผลให้เส้นเลือดทั่วร่างกายถูกทำลายและสร้างความเสียหายต่อการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ เช่น เกิดภาวะหัวใจขาดเลือด เส้นเลือดสมองตีบหรือแตก ตลอดไปจนถึงการทำงานของไตเสื่อมสภาพลง จนก่อให้เกิดอาการโรคไตวายเรื้อรังได้ในที่สุด
8 วิธีลดความเสี่ยงไตวาย เบาหวาน และความดันโลหิตสูง
- ลดการรับประทานอาหารรสจัด เค็มจัด หวานจัด มันจัด และงดการใช้ผงชูรสในการปรุงอาหาร เลี่ยงการรับประทานอาหารหมักดอง อาหารสำเร็จรูป ผลไม้แช่อิ่ม อาหารแปรรูป เพราะอาหารเหล่านี้มีปริมาณโซเดียมสูงมาก
- งดการสูบบุหรี่ และงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- หลีกเลี่ยงการซื้อยาชุดมารับประทานเอง เช่น ยาแก้ปวด
- ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 6-8 แก้ว
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ วันละ 30 นาที 3 วัน/สัปดาห์
- งดอาหารที่มีไขมันหรือคอเลสเตอรอลสูง เช่น ไขมันจากสัตว์ เครื่องใน ไข่แดง ครีม
- ตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปีในผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป ควรตรวจสุขภาพใหญ่ที่มากกว่าการตรวจเลือด
- ในผู้ป่วยที่มีอาการเรื้อรัง ควรควบคุมความดันโลหิตให้อยู่ที่ 130/80 มม.ปรอท ระดับน้ำตาลในเลือดให้น้อยกว่า 130 มก./ดล. ระดับไขมันในเลือด LDL ให้น้อยกว่า 100 มก./ดล. ระดับคอเลสเตอรอลต่ำกว่า 200 มก./ดล.
จะเห็นได้เลยว่าโรคเบาหวาน โรคไตวาย และโรคความดันโลหิตสูงต่างเชื่อมโยงกัน เมื่อเราป่วยเป็นโรคใดโรคหนึ่ง ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงของโรคร้ายอื่น ๆ การเริ่มต้นดูแลตัวเองตั้งแต่วันนี้ ออกกำลังกาย ทานอาหารที่ดี ลดความเครียด เพิ่มความสุข รวมไปถึงเคล็ดลับที่แนะนำข้างต้น จะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคร้ายลงได้ แต่ถึงอย่างไรโรคร้ายแรงก็อาจเกิดขึ้นอยู่ดี ถึงแม้ว่าเราจะดูแลตัวเองดีแค่ไหน การทำประกันโรคร้ายแรงจะช่วยคุณลดความเสี่ยงทางการเงิน ไม่ต้องเครียดกับค่ารักษาพยาบาล มีทางเลือกการรักษาพยาบาลที่ตนเองเลือกได้ และสามารถวางใจรักษาตัวจนหายดี ก็ยังมีเงินเก็บใช้ชีวิตต่อได้ไม่มีสะดุด
สามารถติดตามข่าวสาร สาระความรู้เกี่ยวกับสุขภาพ รถยนต์ มอเตอร์ไซค์ รวมถึงประกันภัยออนไลน์ต่าง ๆ จากรู้ใจได้ที่ Facebook Page: Roojai หรือคลิกที่นี่เพื่อเพิ่มเราเป็นเพื่อนใน LINE ได้เลย (Official Line ID: @roojai)
