Roojai

ระวัง! โรคช็อกโกแลตซีสต์ ผู้หญิงปวดท้องประจำเดือนห้ามมองข้าม

ช็อกโกแลตซีสต์ | ปวดท้องประจำเดือน | ประกันโรคร้ายแรง | รู้ใจ

ผู้หญิงทุกคนคงเคยผ่านประสบการณ์ปวดท้องประจำเดือนกันมาไม่มากก็น้อย บางคนปวดก่อนมีประจำเดือน 2-3 วัน บางคนปวดทั้งก่อนและขณะมีประจำเดือน บางคนไม่ค่อยปวดท้องเท่าไหร่ระหว่างมีประจำเดือน และบางคนปวดท้องรุนแรงทุกครั้งที่มีประจำเดือน อาการปวดท้องประจำเดือนนี้ อาจฟังดูแล้วก็เป็นเรื่องปกติของผู้หญิง แต่ในเรื่องปกติเช่นนี้มันแฝงความผิดปกติมาด้วยน่ะสิ แล้วปวดท้องประจำเดือนแบบไหนถึงเรียกว่าผิดปกติ ช็อกโกแลตซีส อันตรายไหม ผู้หญิงดูแลตัวเองยังไงดี ต้องสังเกตอาการยังไง ก่อนที่เราจะลงลึกในเรื่องนี้ เราไปทำความรู้จักกันก่อนว่า ช็อกโกแลตซีสต์คืออะไร?

ช็อกโกแลตซีสต์คืออะไร?

ช็อกโกแลตซีสต์ เป็นโรคในผู้หญิงหรือเรียกอีกอย่างว่า โรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญเติบโตผิดที่ (Endometriosis) ช็อกโกแลตซีส เกิดจากเยื่อบุโพรงมดลูกที่หลุดออกมาเมื่อถึงรอบประจำเดือนแล้วไปเจริญนอกโพรงมดลูก ซึ่งทางการแพทย์อธิบายการเกิดได้หลายสาเหตุ หนึ่งในสาเหตุการเกิดช็อกโกแลตซีสต์ก็คือ การที่เลือดประจำเดือนไหลย้อนกลับเข้าไปในอุ้งเชิงกราน ผ่านท่อนำไข่แล้วฝังตัวที่รังไข่จนเกิดเป็นถุงน้ำ ซึ่งขนาดของถุงน้ำจะใหญ่ขึ้นในแต่ละเดือน 

ใครบ้างที่มีความเสี่ยงต่อช็อกโกแลตซีสต์?

สำหรับกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคช็อกโกแลตซีสต์ คือ ผู้หญิงในวัยเจริญพันธุ์ทุกคน นับตั้งแต่วัยเริ่มมีประจำเดือนไปจนถึงวัยก่อนหมดประจำเดือน เนื่องจากโรคช็อกโกเเลตซีสต์หรือโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญเติบโตผิดที่จะมีความสัมพันธ์กับฮอร์โมนเอสโตรเจน ซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศหญิง 

  • ในผู้หญิงที่มีประจำเดือนตั้งแต่อายุน้อย ๆ 
  • มีรอบประจำเดือนสั้นหรือรอบห่างของประจำเดือนน้อยกว่า 27 วัน
  • ในผู้ที่ประจำเดือนมาครั้งละมาก ๆ หรือนานกว่า 7 วัน
  • มีประวัติสมาชิกในครอบครัวเคยเป็นโรคนี้ 
  • ผู้ที่มีความผิดปกติเกี่ยวกับทางออกของประจำเดือน หรือผู้ป่วยที่มีเยื่อพรหมจารีปิด หรือมีความผิดปกติที่ปากมดลูก

อาการปวดท้องประจำเดือนเกิดจากอะไร?

อาการปวดประจำเดือนเกิดจากการที่เลือดประจำเดือนตกค้าง ในบางคนจะปวดรุนแรง ในขณะที่บางคนอาจจะปวดท้องเล็กน้อย เพราะมีเส้นประสาทใกล้เคียงทำให้ปวดมากยิ่งขึ้น และตัวเซลล์ที่แตกสลาย ทำให้เกิดอาการอักเสบ เมื่อปล่อยทิ้งไว้นานวันเข้า จะเกิดพังผืดมาติดทั้งรังไข่ มดลูก ลำไส้ ให้เชื่อมติดกัน อาการนี้เกิดขึ้นได้ถึง 10% ของผู้หญิง 

ในผู้หญิงที่มีประจำเดือนตั้งแต่อายุ 15 ปี และได้แต่งงานตอนอายุ 19 ปี คนกลุ่มนี้จะมีอาการปวดท้องประจำเดือนน้อย แต่ต้องยอมรับว่า สังคมไทยในปัจจุบัน ผู้หญิงแต่งงานช้า หรือบางคนไม่แต่งงานเลยก็มี ดังนั้นโอกาสการเกิดจึงมีมากขึ้นในปัจจุบันเพราะมีเลือดตกค้างอยู่ที่อุ้งเชิงกรานอยู่เป็นจำนวนมาก 

หากมีอาการปวดท้องประจำเดือนมากเมื่อไปพบแพทย์ แพทย์จะทำการส่องกล้องตรวจดูภายใน หากพบจุด ๆ ที่ผนังโพรงมดลูกมีสีน้ำตาล นั่นคือช็อกโกแลตซีสต์ ซึ่งเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ผู้หญิงปวดท้องประจำเดือนอย่างรุนแรง แถมยังทำให้มีลูกได้ยาก และมีความเจ็บปวดขณะมีเพศสัมพันธ์

ช็อกโกแลตซีส อาการ | ประกันโรคร้ายแรง | รู้ใจ

ช็อกโกแลตซีส อาการยังไง?

อาการของโรคช็อกโกแลตซีสต์ หากไม่ได้สังเกตตัวเองในทุก ๆ เดือน อาจจะไม่ทราบถึงความผิดปกติ แพทย์จึงมักจะให้คำแนะนำกับผู้หญิงทุกคน ให้สังเกตอาการปวดท้องของตัวเองในทุกเดือน ทั้งปริมาณของประจำเดือน และระยะห่างของรอบเดือนในแต่ละเดือน 

ในผู้หญิงที่มีอายุระหว่าง 20-40 ปี หากไม่เคยปวดท้องประจำเดือนมาก่อน แต่อยู่ ๆ กลับปวดท้องประจำเดือน และปวดมากขึ้นในทุกรอบเดือนจนไม่สามารถทำอะไรได้ต้องลาหยุด หรือต้องนอนพักกินยาถึงจะหาย ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่า อาการเช่นนี้อาจเข้าข่ายเป็นโรคช็อกโกแลตซีสต์ และควรไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยโรคอย่างถูกต้อง โดยอาการของผู้ป่วยแต่ละคนจะแตกต่างกันออกไป มากบ้าง น้อยบ้าง แต่จะมีอาการที่พบได้บ่อยและสามารถสังเกตได้ด้วยตัวเองง่าย ๆ ดังนี้ 

  1. ปวดท้องน้อยในขณะที่มีรอบเดือน และปวดมากขึ้นจนต้องกินยาแก้ปวด
  2. ปวดบริเวณอื่น ๆ ด้วย เช่น ปวดหลัง รอบเอว ปวดก้นกบ
  3. ท้องอืด หรือท้องเสีย และปวดมากเวลาถ่ายอุจจาระในช่วงมีประจำเดือน
  4. ปวดที่มดลูกหรือท้องน้อยขณะมีเพศสัมพันธ์
  5. อยู่ในภาวะมีบุตรยากและไม่สามารถตั้งครรภ์เองได้ 

ภาวะแทรกซ้อนของโรคช็อกโกแลตซีสต์หรือเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ หากเป็นมากขึ้นอาจเกิดกรณีต่อไปนี้ 

  • เกิดพังผืดในอุ้งเชิงกราน ทำให้มีอาการปวดท้องน้อยเรื้อรัง
  • ตัวซีสต์อักเสบมากจนกลายเป็นฝี หรือปริแตก ทำให้ปวดท้องน้อยแบบเฉียบพลัน จนต้องได้รับการผ่าตัดฉุกเฉิน
  • มีบุตรยาก เนื่องจากท่อนำไข่อุดตันและตัวอ่อนฝังตัวยากขึ้น 
  • มีพังผืดกดรัดท่อไต ทำให้ท่อไตหรือไตบวม 

ช็อกโกแลตซีส วิธีรักษายังไงบ้าง?

โรคช็อกโกแลตซีส วิธีรักษามีหลายวิธี ทั้งการผ่าตัด การใช้ยา ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับอาการของแต่ละคนที่แพทย์จะวินิจฉัยออกมา 

1. รักษาโดยการใช้ยา

ในผู้ป่วยที่มีอาการเล็กน้อย หรือตรวจดูแล้วก้อนช็อกโกแลตซีสต์เป็นก้อนไม่ใหญ่ และไม่มีภาวะแทรกซ้อน แพทย์อาจให้ยาแก้ปวดและฮอร์โมนเพื่อควบคุมอาการ

2. รักษาโดยการผ่าตัด

การผ่าตัดในปัจจุบันจะมีทั้งการผ่าตัดแบบเดิมคือ เปิดหน้าท้องและการผ่าตัดแบบส่องกล้อง บางโรงพยาบาลมีการผ่าตัดแบบส่องกล้องแบบ 3 มิติ ด้วย 

  • การผ่าตัดแบบเปิดหน้าท้อง

จะเป็นการผ่าตัดบริเวณบิกินีไลน์ แผลแบบตรงหรือแบบขวางคล้ายการผ่าตัดคลอดลูก ข้อเสียคือ แผลผ่าตัดจะใหญ่และผู้ป่วยจะเจ็บแผลมากหลังจากผ่าตัด ใช้เวลาพักฟื้นนาน และมีโอกาสเกิดพังผืดจากการผ่าตัดเปิดหน้าท้องได้

  • การผ่าตัดแบบส่องกล้อง

เป็นการผ่าตัดรูปแบบใหม่ แผลจะมีขนาดเล็ก 0.5-1 ซม. เท่านั้น โดยแพทย์จะผ่าตัดผ่านกล้องที่มีความละเอียดสูง สามารถผ่าตัดเลาะพังผืดและเอาซีสต์ออกได้เช่นเดียวกับการผ่าตัดแบบเปิดหน้าท้อง ข้อดีคือ แผลเล็ก เจ็บน้อย พักฟื้นไม่นาน และโอกาสในการเกิดพังผืดน้อยกว่า ในบางรายหลังผ่าตัดแบบส่องกล้องเสร็จ พักฟื้น 2-3 ชั่วโมงก็สามารถกลับบ้านได้เลยก็มี 

โรคช็อกโกแลตซีสต์เป็นโรคที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ในผู้หญิงทุกคน ดังนั้นจึงควรสังเกตอาการตัวเองเสมอ ดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง ทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ดูแลตัวเองและคนที่คุณรัก ที่สำคัญคือหากคุณเริ่มสงสัยว่าตัวเองมีอาการของโรค ควรรีบพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยและรักษาต่อไป อย่าปล่อยให้ลุกลามจนเสี่ยงต่อโรคร้ายแรงอื่น ๆ

สามารถติดตามข่าวสาร สาระความรู้เกี่ยวกับสุขภาพ รถยนต์ มอเตอร์ไซค์ รวมถึงประกันภัยออนไลน์ต่าง ๆ จากรู้ใจได้ที่ Facebook Page: Roojai หรือคลิกที่นี่เพื่อเพิ่มเราเป็นเพื่อนใน LINE ได้เลย (Official Line ID: @roojai)