อุบัติเหตุที่เกี่ยวกับมอเตอร์ไซค์มีหลาย ๆ สาเหตุด้วยกัน หนึ่งในนั้นคือการขี่บนเส้นทางที่มีความเสี่ยง ไม่ว่าจะเป็นการขับขึ้นสะพานข้ามแยก หรือลอดอุโมงค์ โดยศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน (ศวปถ.) อธิบายว่า การห้ามไม่ให้รถมอเตอร์ไซค์ขึ้นสะพานข้ามแยกเป็นเหตุผลด้านความปลอดภัย เนื่องจากความเร็วของรถยนต์ต่างจากรถมอเตอร์ไซค์ รถยนต์เวลาขับเร็วแล้วเกิดอุบัติเหตุจะมีระบบป้องกันที่ดีกว่าทั้งเข็มขัดนิรภัย ถุงลมนิรภัย ต่างจากรถมอเตอร์ไซค์ที่แทบไม่มีอะไรป้องกันเลย ยิ่งถ้าสะพานข้ามแยกมีระยะยาว ปล่อยให้รถมอเตอร์ไซค์วิ่งปนกับรถยนต์จะอันตราย เพราะเมื่อถนนโล่ง รถจะวิ่งเร็วมาก
ส่วนเรื่องอุโมงค์ตามหลักวิชาการด้านความปลอดภัยบนท้องถนนระบุว่า เวลากลางวันขณะที่เราขับรถ ม่านตาจะหรี่ลงเพื่อไม่ให้มีแสงเข้ามามากเกินไป พอลงอุโมงค์ ม่านตาจะต้องมีการปรับตัวขยายขึ้นทันที ทำให้สายตาของคนขับรถช่วงนั้นจะเบลอไปประมาณครึ่งวินาที ไม่สามารถโฟกัสวัตถุข้างหน้าได้ ประกอบกับมอเตอร์ไซค์เป็นวัตถุขนาดเล็กไม่เหมือนรถยนต์ที่มีวัตถุขนาดใหญ่ ทำให้มองเห็นไม่ชัด อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้
ข้อมูลราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ในเล่ม 133 ตอนพิเศษ 162 ง ราชกิจจานุเบกษา วันที่ 22 กรกฎาคม 2559 “ข้อบังคับเจ้าพนักงานจราจรในเขตกรุงเทพมหานคร ว่าด้วยการห้ามรถบางชนิดและล้อเลื่อนลากเข็น เดินบนสะพานข้ามทางร่วมทางแยก สะพานยกระดับ สะพานข้ามแม่น้ำ และในอุโมงค์ลอดทางร่วมทางแยก พ.ศ. 2559”
ด้วยสะพานข้ามทางร่วมทางแยก สะพานยกระดับ สะพานข้ามแม่น้ำ และอุโมงค์ลอด ทางร่วมทางแยก สร้างขึ้นเพื่อใช้สําหรับแก้ปัญหาการจราจรบริเวณทางร่วมทางแยกและบนถนน ที่มีการจราจรคับคั่ง โดยลักษณะทางกายภาพของสะพานข้ามและอุโมงค์ทางลอดต่าง ๆ ไม่ได้จัดช่องทางจราจรไว้สําหรับรถขนาดเล็กที่มีความเร็วต่ำ เช่น รถจักรยานยนต์ รถจักรยาน รถยนต์สามล้อ และล้อเลื่อนลากเข็น หากรถประเภทดังกล่าวเดินบนสะพานข้ามทางร่วมทางแยก สะพานยกระดับ สะพานข้ามแม่น้ำ และในอุโมงค์ลอดทางร่วมทางแยก ทําให้เกิดความไม่เป็นระเบียบเรียบร้อย ส่งผลกระทบต่อปัญหาจราจรและเป็นสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุ ทําให้ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนได้รับความเดือดร้อน ประกอบกับได้มีการทดลองห้ามรถประเภทดังกล่าวมาเป็นระยะเวลาพอสมควร ซึ่งสามารถลดปัญหาการจราจรได้และประชาชนส่วนใหญ่พึงพอใจ ดังนั้น เพื่อเป็นการปลอดภัย และสะดวกในการจราจร จึงจําเป็นต้องออกประกาศข้อบังคับเจ้าพนักงานจราจรในเขตกรุงเทพมหานคร เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพถนนและการจราจรในปัจจุบัน
ฉะนั้น อาศัยอํานาจตามความในมาตรา139 (4) แห่งพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 และคําสั่งกระทรวงมหาดไทย ที่ 529/2555 ลงวันที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2555 แต่งตั้งผู้บัญชาการตํารวจนครบาล เป็นเจ้าพนักงานจราจรในเขตกรุงเทพมหานคร ประกอบกับคําสั่งกองบัญชาการตํารวจนครบาล ที่ 402/2558 ลงวันที่ 30 ตุลาคม2558 เรื่อง การกําหนดลักษณะงานและการมอบหมายอํานาจหน้าที่รับผิดชอบให้รองผู้บัญชาการตํารวจนครบาล โดยมอบอํานาจให้รองผู้บัญชาการตํารวจนครบาล (งานจราจร) กํากับการบริหารราชการสั่งและปฏิบัติราชการแทนผู้บัญชาการตํารวจนครบาล จึงได้ออกข้อบังคับไว้ ดังนี้
ข้อ 1. ข้อบังคับนี้เรียกว่า “ข้อบังคับเจ้าพนักงานจราจรในเขตกรุงเทพมหานคร ว่าด้วยการห้ามรถบางชนิดและล้อเลื่อนลากเข็นเดินบนสะพานข้ามทางร่วมทางแยก สะพานยกระดับ สะพานข้ามแม่น้ำ และในอุโมงค์ลอดทางร่วมทางแยก พ.ศ. 2559”
ข้อ 2. ข้อบังคับนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา(ประกาศ ณ 22 กรกฎาคม 2559 จึงมีผล 23กรกฎาคม 2559)
อย่างไรก็ดีปัจจุบันยังมีผู้ใช้มอเตอร์บางส่วนมองว่าการห้ามมอเตอร์ไซค์ขึ้นสะพานหรือลอดอุโมงค์นั้นไม่เป็นธรรมกับพวกเค้าเท่าไหร่นัก เนื่องจากบางจุดเมื่อใช้สะพานก็ไปได้รวดเร็วขึ้น ไม่ต้องเสียเวลาติดไฟแดง หรืออย่างกรณีสะพานภูมิพลที่ห้ามมอเตอร์ไซค์ขึ้น ทำให้ผู้ขับขี่ต้องเสียเวลาใช้เรือข้ามฟากแทน และมีคำถามเกิดขึ้นตามมาว่าการนำมอเตอร์ไซค์ข้ามเรือนั้นปลอดภัยอย่างที่กล่าวอ้างจริงหรือไม่ ทั้งความแออัดเบียดในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน รวมทั้งมีอุปกรณ์ป้องกันใดที่การันตี บางส่วนเกิดคำถามว่าทั้งที่เป็นประชาชนคนไทยเสียภาษีเหมือนกันแต่ทำไมถึงใช้สะพานไม่ได้ อีกทั้งยังมีข้อเรียกร้องเรื่องให้สร้างช่องทางสำหรับมอเตอร์ไซค์บนสะพานอีกด้วย
เมื่อยังแก้ปัญหาไม่ได้แบบ 100% ทำให้เราต้องใช้ถนนร่วมกันอย่างระมัดระวัง โดยเฉพาะสำหรับคนที่ต้องขับรถยนต์ เช่น เมื่อขับอยู่ด้านหน้ามอเตอร์ไซค์ ไม่ควรเปลี่ยนเลนหรือช่องทางแบบกะทันหัน ที่สำคัญใช้สัญญาณไฟเลี้ยวทุกทั้งครั้งเมื่อต้องเปลี่ยนเลน หากขับตามหรือแซงไปไม่ได้ควรเว้นระยะห่างอย่าขับไปจี้ติดจนเกินไป ใช้สัญญาณแตรบ้างเมื่อเห็นพี่ ๆ สองล้อวิ่งขวาหรือกินเลนมาในช่องทางของเรา (แนะนำกดแตรสั้น ๆ เพราะหากกดแช่ลากยาวไปเราอาจจะกลายเป็นมีเรื่องมีราวกันได้)
และอย่าลืมมองกระจกข้างบ่อย ๆ และควรขับรถให้ตรงไม่ส่ายไปมา เพราะอาจพบว่ามีมอเตอร์ไซค์ขับอยู่ข้าง ๆ รถของเราได้