เชื่อมั้ยว่า “มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า” ไม่ใช่เรื่องใหม่ล่าสุด เพราะเจ้ารถจักรยานยนต์ไฟฟ้ามีการประดิษฐ์คิดค้นมาตั้งแต่มีความต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงรถจักรยานให้สามารถขับเคลื่อนไปได้โดยไม่ต้องปั่น จึงมีการติดตั้งเครื่องยนต์เข้าไปในจักรยานให้เป็นรถจักรยานไฟฟ้า นวัตกรรมเช่นนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วกับแบรนด์มอเตอร์ไซค์ระดับโลกอย่างฮาร์เลย์ เดวิดสัน ที่เคยทำรถมอเตอร์ไซค์ที่ผสมผสานระหว่างจักรยานและจักรยานยนต์มาแล้ว กระทั่งนวัตกรรมมอเตอร์ไซค์พลังงานไฟฟ้าเริ่มมาได้รับความนิยมในประเทศญี่ปุ่นและประเทศจีน มีการผลิตรถจักรยานยนต์พลังงานไฟฟ้าออกมาจำหน่ายเป็นจำนวนมาก แต่การได้รับการยอมรับในระดับสากลยังมีไม่มาก ทำให้การเกิดมาของมอเตอร์ไซค์พลังงานไฟฟ้ายังคงเป็นหมันอยู่
จนกระทั่งกระแสความสนใจในการรักษาสิ่งแวดล้อม พลังงานสะอาดและพลังงานทดแทนเพื่อลดการพึ่งพาพลังงานน้ำมันมีมากขึ้น จึงทำให้มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเริ่มมีที่ยืนในโลกของยนตรกรรม ยิ่งในรถพลังงานไฟฟ้าจากประเทศจีนที่ใช้กันมาก่อนเป็นเวลาเนิ่นนาน ได้เข้ามาประกาศศักดาความยิ่งใหญ่ของรถพลังงานไฟฟ้าแบบสองล้อให้ทุกคนได้รู้จัก เรียกว่า “ลงสนามมาที ทำเอาคู่แข่งตามไม่ทันกันเลย”
ในปี 2023 เป็นปีแห่งการขับเคลื่อนของตลาดรถพลังงานไฟฟ้า ไม่เว้นแม้แต่รถจักรยานยนต์ที่ในความเป็นจริงมีการผลิตรถเหล่านี้มาใช้งานนานมากแล้ว แต่เพิ่งมาได้รับการยอมรับว่ามีความปลอดภัยและขับขี่บนท้องถนน จึงทำให้แบรนด์ต่าง ๆ ได้ส่งจักรยานยนต์ไฟฟ้าเข้าสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก รู้ใจจึงขอแนะนำแบรนด์เด่น ๆ รุ่นดัง ๆ ที่เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางมาให้พิจารณาไปด้วยกัน ดังนี้
1. Saber Tiger AJ EV BIKE
รถมอเตอร์ไซค์พลังงานไฟฟ้ารุ่นแรกที่ภูมิใจนำเสนอไม่ใช่ของใครที่ไหน เป็นจักรยานยนต์ไฟฟ้าสายพันธุ์ไทยนั่นเอง กับรุ่น Saber Tiger AJ EV BIKE ภายใต้การผลิตของ AJ EV BIKE ที่เป็นผู้คร่ำหวอดในวงการอุปกรณ์ไฟฟ้ามาอย่างยาวนาน การปรับแต่งรูปแบบสำหรับการออกแบบรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าจึงสามารถทำได้อย่างรวดเร็ว และรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าสุดโดดเด่นนี้เข้าสู่ตลาดให้ทุกคนได้รู้จัก
สำหรับความพิเศษของเจ้า Saber Tiger AJ EV BIKE มีขนาดเบา อีกทั้งยังทำความเร็วได้ในระดับสูงสุดถึง 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และวิ่งต่อเนื่องได้ไกลถึง 150 กิโลเมตร นั่นจึงทำให้เจ้าเสือเขี้ยวดาบตัวนี้เป็นจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่เหมาะกับการใช้งานในเมืองใหญ่มาก ๆ ทั้งยังเป็นการประหยัดพลังงานอย่างยอดเยี่ยม และรักษาสิ่งแวดล้อมได้เป็นอย่างดีอีกด้วย สนนราคาค่าตัวระดับ 7 หมื่นปลาย ๆ เท่านั้น
2. HANNAH Deco Green Energy
อีกหนึ่งค่ายรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่ทางกรมขนส่งทางบกของประเทศไทยรับรองให้จดทะเบียนเพื่อการใช้งานบนท้องถนนเป็นที่เรียบร้อยกับ HANNAH Deco Green Energy จากผู้ผลิตและออกแบบจักรยานไฟฟ้า ในเวลานี้หันมาจับตลาดรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าอย่างเต็มตัว เน้นไปที่ความสะดวกสบายในการใช้งาน ความประหยัดทั้งในแง่ของการเติมไฟและตัวรถที่มีราคายังไม่ถึง 5 หมื่นบาท นี่คือจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่น่าสนใจและเหมาะสำหรับการใช้งานในเมืองมาก ๆ เป็นการผลิตคิดค้นผ่านบริษัทที่ร่วมทุนกันระหว่างจีนและไทย
3. NQiGT Sport NIU
สำหรับค่าย NIU เป็นค่ายรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่ทุกคนน่าจะคุ้นเคย เพราะออกแบบรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าสำหรับการใช้งานทั่วไปที่ไม่ใช่การขับขี่บนท้องถนนมาอย่างยาวนาน ตอนนี้ได้เปิดตัว NQiGT Sport NIU รถจักรยานยนต์พลังงานไฟฟ้าที่มีดีไซน์โฉบเฉี่ยวทันสมัยแม้จะมีขนาดเล็กกะทัดรัด แต่ก็ทะมัดทะแมงได้ใจ สามารถเดินทางได้ไกลถึง 120 กิโลเมตรในการชาร์จแบตเตอรี่เพียง 1 ครั้ง แต่จุดอ่อนสำคัญของรถรุ่นนี้ คือราคาที่สูงกว่าใครเพื่อนในระดับหลักแสนต้น ๆ กันเลย
4. CIAO HSEM Motor
อีกหนึ่งจักรยานยนต์พลังงานไฟฟ้าสุดหรู ดูน่ารัก เหมาะสำหรับการนำมาใช้งานสำหรับการเดินทางในเมืองใหญ่ ต้องยกให้ CIAO HSEM Motor กับการออกแบบที่ยอดเยี่ยม สวยงาม สะดุดตา ออกแบบรูปทรงมาอย่างดีสำหรับคนที่ชอบรถมอเตอร์ไซค์แนวรถเวสป้าขนาดเล็ก แต่จุดอ่อนของรถในรุ่นนี้คือ กินไฟพอสมควรเพราะทำความเร็วสูงสุดได้ 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และวิ่งได้ระยะทางเพียง 60 กิโลเมตรเท่านั้น นั่นหมายความว่าต้องชาร์จแบตเตอรี่กันบ่อยมาก แต่ถ้าใช้งานในเมืองไปไหนมาไหนใกล้ ๆ นับเป็นรถตัวแทนรถยนต์ขนาดจิ๋วสำหรับการเดินทางได้ดีอย่างยิ่ง
เรื่องต้องรู้! ก่อนซื้อมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า
แม้ว่ามอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ากำลังพัฒนาตัวขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังมีจุดอ่อนสำคัญบางอย่างที่มองเห็นได้ชัดและนี่จะเป็นข้อมูลสำคัญสำหรับการตัดสินใจว่าจะเลือกซื้อเอาไว้ใช้งานดีมั้ย ทั้งจากจุดเด่น จุดด้อย ต่าง ๆ ดังนี้
1. ระยะทางการเดินทาง
รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าทั้งหมดยังคงทำระยะทางได้สั้นมาก เต็มที่คือ 120 กิโลเมตรเท่านั้น และหากต้องชาร์จไฟ ต้องชาร์จแบตเตอรี่นาน 4-6 ชั่วโมง
2. การบรรจุไฟของแบตเตอรี่
แบตเตอรี่ ถือเป็นหัวใจสำคัญสำหรับการขับเคลื่อน เพราะเป็นแหล่งพลังงานที่จ่ายไฟให้มอเตอร์ไฟฟ้าสำหรับการเดินทาง แต่ถึงกระนั้นด้วยจำนวนของเซลล์มอเตอร์ไฟฟ้าที่มีขนาดบรรจุไม่มากนักไม่เหมือนวิธีการชาร์จแบตรถยนต์ไฟฟ้าที่บรรจุได้มากกว่า ทำให้การบรรจุไฟทำได้น้อย หมายถึงต้องจอดชาร์จแบตเตอรี่บ่อย ๆ จึงดูไม่ค่อยเหมาะสำหรับการขับรถทางไกลมากเท่าไหร่นัก
3. การซ่อมบำรุง
เพราะจักรยานยนต์ไฟฟ้าเป็นของใหม่ ดังนั้นการมองหาอะไหล่และศูนย์ซ่อมเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ หากซื้อไปแล้วเกิดมีปัญหาแล้วหาช่างไม่ได้ มีหวังได้นั่งดูมอเตอร์ไซค์แต่ว่าใช้งานไม่ได้ที่บ้านของคุณแน่ ๆ ดังนั้นหากคิดอยากนำจักรยานยนต์ไฟฟ้ามาใช้งาน อย่าลืมเช็คว่าในละแวกรอบบ้านคุณมีศูนย์ซ่อมบำรุงที่พร้อมดูแลอยู่หรือไม่
4. งบประมาณในการดูแลรักษา
แม้จักรยานยนต์ไฟฟ้ามีค่าการดูแลรักษาที่น้อยมาก จุกจิกน้อยกว่า รถจักรยานยนต์น้ำมัน แต่ถ้าต้องเปรียบเทียบกับการเข้าซ่อมบำรุงแล้ว ค่าอะไหล่ที่ต้องจ่ายเพื่อการซ่อมบำรุงดูแลนั้น คุ้มค่าสำหรับการลงทุนหรือไม่หากเทียบกับอัตราการประหยัดน้ำมันที่เป็นอยู่ ไม่ใช่ว่าเป็นการประหยัดเงินจำนวนน้อยที่เกิดจากการชาร์จแบตเตอรี่เพียงนิดเดียว แต่กลับต้องมาจ่ายค่าอะไหล่แบบแพงมาก เรียกว่าซื้อรถคันใหม่ยังคุ้มค่ากว่ากัน อันนี้จึงเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาอย่างจริงจังกับเงินที่ต้องจ่ายไปในแต่ละครั้ง
รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า แนวทางการใช้รถจักรยานยนต์ใหม่ที่น่าจับตามอง จุดเริ่มต้นของการใช้งานในอนาคต และเชื่อว่าทุกอย่างจะพัฒนาก้าวหน้าต่อไปเรื่อย ๆ ดังนั้นทุกฝ่ายที่มีส่วนเกี่ยวข้อง รวมไปถึงประกันรถมอเตอร์ไซค์จะต้องเตรียมความพร้อมสำหรับการดูแลเอาใจใส่นวัตกรรมใหม่เหล่านี้มากขึ้นนั่นเอง
สามารถติดตามข่าวสาร สาระความรู้เกี่ยวกับสุขภาพ รถยนต์ มอเตอร์ไซค์ รวมถึงประกันภัยออนไลน์ต่าง ๆ จากรู้ใจได้ที่ Facebook Page: Roojai หรือคลิกที่นี่เพื่อเพิ่มเราเป็นเพื่อนใน LINE ได้เลย (Official Line ID: @roojai)