รู้มั้ย? กรุงเทพฯ ครองอันดับเมืองที่คนต้องเสียเวลาเดินทางบนท้องถนนมากที่สุดอันดับ 2 ในทวีปเอเชีย และอันดับ 32 ของโลก ในปี 2566 ตามรายงานของ INRIX บริษัทผู้ให้บริการด้านข้อมูลสภาพการจราจรและความปลอดภัยบนท้องถนน แม้ว่าจะมีการขยายเส้นทางการเดินรถไฟฟ้าและรถไฟฟ้าใต้ดิน ไปยังหลาย ๆ พื้นที่แล้วก็ตาม แต่เส้นทางเหล่านั้นยังคงก่อสร้างอยู่ ยิ่งทำให้ปัญหารถติดที่แย่อยู่แล้ว รถติดหนักกว่าเดิม เสียทั้งเวลา เสียทั้งสุขภาพจิต เสียทั้งสุขภาพร่างกาย เพราะการนั่งท่าเดียวในรถเป็นเวลานานอาจทำให้ปวดหลังส่วนล่างจากการเกร็งกล้ามเนื้อโดยไม่ทันได้รู้ตัว รู้ใจมัดรวมวิธีแก้ปวดหลังระหว่างขับรถมาให้คุณตามด้านล่างนี้เลย
ก่อนอื่นเราต้องรู้ถึงสาเหตุของอาการปวดหลังกันก่อน อาการปวดหลังส่วนล่าง มีสาเหตุมาจากการนั่งขับรถเป็นเวลานาน การนั่งทำงานในท่าเดิมเป็นเวลานาน นั่งผิดท่า การก้มหรือบิดตัวบ่อย ๆ การยกของหนักเป็นประจำ การทำงานขับรถบรรทุกที่มีการสั่นสะเทือนเป็นประจำ อาจเกิดจากอุบัติเหตุบริเวณหลัง โรคเอ็นกล้ามเนื้อและกระดูกเสื่อม หรือมีภาวะกระดูกสันหลังผิดรูป เป็นต้น การรักษาอาการปวดหลังส่วนล่างมีวิธีแก้อยู่หลายวิธี สามารถใช้ได้กับคนที่มีอาการปวดหลังส่วนล่าง แต่ยังคงใช้ชีวิตประจำวันได้ ไม่มีการปวดร้าว หรือชาลงไปที่ขา โดยมีวิธีแก้ปวดหลังช่วงเอว วิธีแก้ปวดหลังจากการขับรถอยู่ ดังนี้
1. วิธีแก้ปวดหลังด้วยการปรับพฤติกรรมขับรถ
สาเหตุส่วนใหญ่ของการปวดหลังมาจากพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เช่น การนั่งหลังไม่ได้ชิดกับเบาะเวลาขับรถเป็นเวลานานทำให้กล้ามเนื้อหลังต้องทำงานตลอดเวลาจึงเกิดอาการตึง หรือเมื่อเราหันซ้ายขวาผิดท่าอาจทำให้กล้ามเนื้อเกิดการฉีกขาดภายในได้ และข้อควรระวังคือหากยังไม่เปลี่ยนพฤติกรรมการนั่ง ยังคงนั่งท่าเดิม ๆ อยู่ ร่างกายจะมีกลไกป้องกันตัวเอง ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นเกิดการเกร็งและหดตัวจนกลายเป็นกล้ามเนื้ออักเสบเรื้อรัง โดยท่านั่งขับรถที่ถูกต้องคือ
- ปรับเบาะให้เข้ากับการจับพวงมาลัย
- วางเท้าให้พอดีกับคันเร่งและเบรค
- นั่งหลังพิงกับเบาะให้มากที่สุด
- หากต้องขับรถทางไกล ควรแวะพักทุก 1 ชั่วโมงเพื่อเปลี่ยนอิริยาบถให้กล้ามเนื้อได้พักจากการนั่งท่าเดิมนาน ๆ
2. วิธีแก้ปวดหลังด้วยการยืดกล้ามเนื้อ
การนั่งขับรถที่อยู่ท่าเดิมนาน ๆ จะเกิดการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อที่หลังส่วนล่าง ทำให้ร่างกายขาดความยืดหยุ่น จนอาจเกิดอาการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อ หลังการขับรถเราจึงควรยืดกล้ามเนื้อส่วนลำตัว หลัง และขา เพื่อให้กล้ามเนื้อเกิดความผ่อนคลายและลดอาการปวดหลังส่วนล่าง
3. วิธีแก้ปวดหลังด้วยการออกกำลังกาย
การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอนอกจากเป็นการดูแลสุขภาพกายและใจให้แข็งแรง ยังจะช่วยทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรง โดยวิธีออกกำลังกายควรเป็นการออกกำลังกายสำหรับ Core Muscle หรือการเน้นแกนกลางลำตัว เช่น พิลาทิส แพลงก์ ซิทอัพ เพื่อเพิ่มความกระชับให้กับกล้ามเนื้อที่ทำหน้าที่พยุงกระดูกสันหลัง และช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับแนวกระดูกสันหลัง
4. วิธีแก้ปวดหลังด้วยอุปกรณ์เสริม
การหาอุปกรณ์เสริมที่มาช่วยให้ท่านั่งขับรถของเรามีความสบายมากยิ่งขึ้น เช่น การเสริมเบาะรองหลังจะช่วยทำให้หลังของเราชิดกับเบาะได้มากขึ้น ทำให้การทำงานของหลังลดลง กล้ามเนื้อหลังไม่ต้องทำงานหนักมาก รวมถึงหมอนรองคอจะช่วยรองรับศีรษะและป้องกันการสะบัดศีรษะไปทางข้างหลังเมื่อเกิดอุบัติเหตุได้อีกด้วย
5. วิธีแก้ปวดหลังด้วยการปรับระยะนั่งใกล้ – ไกล
การแก้ปวดหลังด้วยการปรับระยะการนั่งให้เหมาะสม เลื่อนเบาะมาด้านหน้า เช็คระยะว่าเท้าสามารถเบรคได้จมหรือไม่ เหยียบคันเร่งสะดวกมั้ย โดยระยะนั่งจะต้องเหยียบคันเร่งและเบรคถนัดที่สุด
6. วิธีแก้ปวดหลังด้วยการปรับความสูงต่ำของเบาะ
การปรับความสูงต่ำของเบาะขึ้นอยู่กับความสูงของผู้ขับขี่ เช่น ในคนที่ตัวสูงขาจะยาวควรปรับเบาะให้ห่างจากพวงมาลัยเพื่อให้ขับได้ถนัดยิ่งขึ้น โดยปกติเราไม่ควรปรับที่นั่งให้สูงเกินความจำเป็นจนหัวติดกับหลังคา ควรปรับให้อยู่ในระยะที่มองเห็นถนัดที่สุดแค่นั้นพอ
เมื่อต้องขับรถทางไกลหรือเจอรถติดนาน ๆ อย่าลืมทำตามวิธีแก้ปวดหลังจากการขับรถ แล้วก็จอดพักระหว่างทาง ลงมายืดเส้นยืดสาย เปลี่ยนอิริยาบถ เท่านี้ปัญหาเรื่องอาการปวดหลังจากการขับรถทางไกลก็จะลดลง หรือหากใครไปกับเพื่อนที่สามารถขับรถได้ การสลับเปลี่ยนคนขับก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยรักษาสุขภาพหลังส่วนล่างของเราได้เช่นกัน สำหรับเพื่อน ๆ สายผจญภัย รักการท่องเที่ยวทุกเทศกาล และกำลังมองหาประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลและประกันภัยรถยนต์ รู้ใจพร้อมมอบประกันภัยในราคาที่คุ้มค่า ปรับแต่งแผนได้เองตามใจ ช่วยคุณให้ประหยัดค่าเบี้ยประกันได้สูงสุด
สามารถติดตามข่าวสาร สาระความรู้เกี่ยวกับสุขภาพ รถยนต์ มอเตอร์ไซค์ รวมถึงประกันภัยออนไลน์ต่าง ๆ จากรู้ใจได้ที่ Facebook Page: Roojai หรือคลิกที่นี่เพื่อเพิ่มเราเป็นเพื่อนใน LINE ได้เลย (Official Line ID: @roojai)