วันนี้เราจะมาอัพเดตเกี่ยวกับกฎจราจรใหม่ที่หลายคนอาจยังไม่ทราบ หลังมีกระแสออกมาทางสื่อโซเชียลมากมายเกี่ยวกับ พรบ.จราจร ที่มีการแก้ไข-เพิ่มล่าสุดช่วงต้นปี 2560 ภายใต้อำนาจของหัวหน้า คสช. ซึ่งก็เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างมากในสังคมผู้ใช้รถใช้ถนน โดยเฉพาะการห้ามนั่งในแค็บและท้ายกระบะ แต่ด้วยมีเสียงคัดค้านเป็นวงกว้าง ทำให้มีการผ่อนผันจาก ทำให้รัฐบาลยอมผ่อนผันให้มีผู้โดยสารนั่งในแค็ปและท้ายกระบะได้ไปจนสิ้นสุดเทศกาลสงกรานต์ และจะมีการหารือแนวทางการบังคับใช้กฎหมายอีกครั้ง
อีกหนึ่งข้อของกฎจราจรใหม่ โดยใช้อำนาจมาตรา 44 แก้ไข พ.ร.บ.จราจรทางบก โดยราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่คําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 14/2560 เรื่อง มาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบก ซึ่งเนื้อหาสำคัญคือ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) มีคำสั่งดังนี้ ผู้ขับขี่รถยนต์ต้องรัดร่างกายด้วยเข็มขัดนิรภัยไว้กับที่นั่ง ในขณะขับขี่รถยนต์ และต้องจัดให้คนโดยสารรถยนต์รัดร่างกายไว้กับที่นั่งด้วยเข็มขัดนิรภัยขณะโดยสารรถยนต์
ในส่วนของการบังคับให้คาดเข็มขัดนิรภัย ทั้งในส่วนของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ส่วนบุคคลหรือรถโดยสารสาธารณะ และหลังจากนี้จะนำกฎหมายจราจรไปเชื่อมโยงข้อมูลกับระบบการคุ้มครอง พ.ร.บ.รวมถึงการเสียภาษีรถยนต์ประจำปีที่กรมขนส่งเป็นผู้รับผิดชอบ หากพบมีผู้ฝ่าฝืน กระทำผิดกฎจราจรได้รับใบสั่งจากตำรวจ แล้วไม่ยอมชำระค่าปรับ เมื่อถึงเวลาต่อภาษีรถประจำปีก็จะไม่สามารถต่อภาษีรถได้ ทั้งนี้ จะมีการอำนวยความสะดวก ให้ผู้ขับขี่สามารถมาชำระค่าปรับที่กรมการขนส่งทางบกได้
นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2560 การประชุมคณะรัฐมนตรี ได้มีมติเห็นชอบ ร่างพระราชบัญญัติจราจรทางบก ฉบับที่ใหม่ เสนอโดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตช.) ที่ได้ส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงยุติธรรม และสำนักงานศาลยุติธรรมไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ โดยสาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติจราจรทางบก
- แก้ไขเพิ่มเติมน้ำหนักของรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจาก 1,600 กก. เป็น 2,200 กก. ที่ไม่ต้องขับรถในช่องเดินรถด้านซ้ายสุดหรือใกล้เคียงกับช่องเดินรถประจำทางแล้วแต่กรณีให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติรถยนต์ (ฉบับที่ 17) พ.ศ. 2557
- กำหนดให้ผู้ขับขี่มีหน้าที่ต้องจัดให้คนโดยสารซึ่งนั่งในรถทุกคนต้องรัดร่างกายด้วยเข็มขัดนิรภัยขณะโดยสารรถยนต์
- แก้ไขเพิ่มเติมมาตรการบังคับสำหรับผู้ขับขี่ที่ไม่ชำระค่าปรับตามใบสั่งโดยกำหนดให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตามร่างพระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. (ตำรวจซึ่งปฏิบัติหน้าที่ควบคุมการจราจร) มีหน้าที่ออกหนังสือแจ้งเตือนให้ผู้ขับขี่หรือเจ้าของรถที่ไม่ชำระค่าปรับตามใบสั่งมาชำระค่าปรับภายใน 15 วัน โดยหากบุคคลดังกล่าวยังไม่ปฏิบัติตามหนังสือแจ้งเตือนข้างต้น ก็ให้พนักงานเจ้าหน้าที่แจ้งไปยังนายทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์หรือกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบกให้ชะลอการรับชำระภาษีประจำปีไว้ก่อน พร้อมทั้งให้นายทะเบียนดังกล่าวมีอำนาจสั่งยึดหรือพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ของบุคคลนั้นด้วย
- กำหนดให้เจ้าหน้าที่พนักงานจราจร พนักงานสอบสวน หรือพนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจสั่งให้มีการทดสอบผู้ขับขี่ว่าเมาสุราหรือของเมาอย่างอื่นหรือไม่ด้วยวิธีการตรวจทดสอบลมหายใจ ปัสสาวะ เลือด หรือวิธีการอื่นอย่างชัดแจ้ง
- กำหนดให้ค่าใช้จ่ายในการตรวจทดสอบว่าผู้ขับขี่เมาสุราหรือของเมาอย่างอื่นหรือไม่สั่งจ่ายจากงบประมาณที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติกำหนดโดยได้รับความเห็นชอบจากกระทรวงการคลัง
- แก้ไขอัตราโทษสำหรับความผิดที่มีอัตราโทษไม่สูงกว่าความผิดลหุโทษให้สอดคล้องกับการแก้ไขอัตราโทษสำหรับความผิดลหุโทษตามประมวลกฎหมายอาญาแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 22) พ.ศ. 2558 ร่างพระราชบัญญัติจราจรทางบก ฉบับที่เตรียมนำเสนอนี้ ได้มีการศึกษาเปรียบเทียบอัตราโทษปรับให้มีความเหมาะสมมากขึ้น รวมทั้งศึกษากฎหมายจากต่างประเทศเพื่อนำมาเป็นแนวทางในการพิจารณาแก้ไขกฎหมายจราจรทางบกของประเทศไทย ซึ่งได้มีการเพิ่มอัตราโทษในกรณีการชำระค่าปรับล่าช้า หรืออายุความของคดีจราจร เป็นต้น
พลโท สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าเนื่องจากร่างพระราชบัญญัติจราจรทางบก ฉบับเตรียมนำเสนอนี้ อาจต้องมีขั้นตอนการดำเนินงานอีกระยะหนึ่งในส่วนของการผ่านความเห็นชอบจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ดังนั้นในส่วนที่เกี่ยวกับอัตราค่าปรับนั้น เพื่อจะบังคับ
เป็นอย่างไรกันบ้างกับ พรบ.จราจรบางข้อที่มีการปรับเปลี่ยนและบังคับใช้ รวมถึงอีกหลายๆ ข้อที่กำลังจะเตรียมเพิ่มเติมใหม่ สิ่งที่สำคัญที่สุดก็อย่าลืมนำไปศึกษาและนำมาปรับใช้กับยานพาหนะของเรา ว่ามีจุดใดที่สุ่มเสี่ยงต่อการทำผิดกฎจราจรบ้าง ส่วนการสร้างความอุ่นใจในการใช้รถถนน ก็อย่าลืมให้ “รู้ใจ” เคียงข้างคุณ ด้วยประกันแสนดี การันตีถึงที่เกิดเหตุภายใน 30 นาที ประกันชั้น 1 ผ่อนสบายๆ 0% ยาว 10 เดือน