รถยนต์รุ่นใหม่ ๆ มักมีระบบเซ็นเซอร์รถยนต์ติดตั้งไว้ เพื่อความสะดวกและความปลอดภัยในการ โดยระบบเซ็นเซอร์รถยนต์จะทำหน้าที่ในการตรวจจับวัตถุที่อยู่ต่ำกว่ากันชนรถ เมื่อตรวจพบจะส่งสัญญาณเตือนให้คนขับทราบทันที ถ้าคุณกำลังหาข้อมูลในเรื่องนี้อยู่ รู้ใจได้รวบรวมรายละเอียดที่น่าสนใจ และเป็นประโยชน์มาให้คุณทำความเข้าใจด้านล่างนี้เลย
ใครจะไปคิดว่า “เซ็นเซอร์รถยนต์” ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายได้อย่างไม่น่าเชื่อ โดยเฉพาะในกรณีที่ต้องถอยจอดตามสถานที่ต่าง ๆ ในเมือง ที่ถือเป็นเรื่องที่ค่อนข้างวุ่นวายเนื่องจากบางอาคารคับแคบจนต้องหมุนพวงมาลัยหลายครั้ง แต่ตัวเซ็นเซอร์ถอยหลังรถยนต์จะช่วยกะระยะและจะคอยส่งสัญญาณเตือน หากรถยนต์ของคุณเบียดหรือใกล้ชิดกับรถคันข้าง ๆ มากเกินไป นอกจากนี้ยังช่วยให้คุณสามารถจอดรถได้อย่างพอดี และยังมีเซ็นเซอร์หน้ารถที่ช่วยกะระยะหน้ารถ รวมถึงบางคันอาจมีเซ็นเซอร์รอบคันอีกด้วย เหมาะกับมือใหม่หัดขับสามารถถอดจอดในที่ปราบเซียนได้สบาย
เซ็นเซอร์รถยนต์ช่วยอะไรเราได้บ้าง?
ระบบเซ็นเซอร์รถยนต์จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับการขับขี่ได้มากขึ้น เพราะเซ็นเซอร์จะปล่อยคลื่นอัลตราโซนิกเมื่อคลื่นกระทบกับวัตถุใด ๆ คลื่นจะทำการสะท้อนกลับมายังตัวเซ็นเซอร์รถยนต์ พร้อมกับส่งสัญญาณเตือน ช่วยเพิ่มความปลอดภัย และป้องกันการชนกับวัตถุ สิ่งกีดขวาง รวมถึงสิ่งอื่นที่คนขับมองไม่เห็นขณะอยู่ในรถยนต์ได้ดี
นอกจากนี้ยังมี Tracking GPS ระบบติดตามรถด้วยสัญญาณจีพีเอส มีประโยชน์มากโดยเฉพาะในกรณีที่ต้องจอดรถเอาไว้ในพื้นที่เสี่ยง หรือต้องให้ลูกจ้างใช้รถเป็นประจำ เพราะนอกจากจะสามารถแจ้งตำแหน่งของรถได้แล้ว ยังมีฟังก์ชันอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น ประวัติการใช้รถ แจ้งเตือนความเร็วเกินกำหนด และแจ้งเตือนเมื่อมีการสตาร์ตรถ เป็นต้น
เซ็นเซอร์รถยนต์ในรถยุคใหม่มีอะไรบ้าง?
นอกจากอะไหล่รถยนต์แล้ว ภายในรถยนต์ยังมีสิ่งที่เรียกว่า Powertrain Control Module ที่เปรียบเสมือนคอมพิวเตอร์ควบคุมเครื่องยนต์ ประกอบไปด้วยเซ็นเซอร์ต่าง ๆ ที่คอยส่งสัญญาณอิเล็กทรอนิกส์ไปยังเครื่องยนต์ เพื่อให้รถทำงานได้ ซึ่งรถยนต์ 1 คันจะมีเซ็นเซอร์อะไรบ้าง
1. ระบบเบรคฉุกเฉินอัตโนมัติ
ระบบเบรคฉุกเฉินอัตโนมัติจะช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงการชนได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังช่วยลดความรุนแรงเมื่อเกิดการชนด้านหน้าได้ด้วย โดยระบบนี้สามารถตอบสนองอันตรายรูปแบบต่าง ๆ ด้วยการผสานการทำงานร่วมกับเรดาร์และกล้อง ในรูปแบบคลื่นมิลิเมตรและเป็นระบบเบรคที่สร้างขึ้นเพื่อป้องกันการเบรคจนล้อล็อกอีกด้วย
2. ระบบช่วยเตือนจุดอับสายตา
ระบบช่วยเตือนจุดอับสายตาเป็นระบบที่ทำงานด้วยเซ็นเซอร์ ช่วยตรวจสอบสิ่งที่อยู่นอกเหนือขอบเขตของสายตา โดยมีการทำงานร่วมกับเรดาร์ใช้ในการตรวจจับสิ่งกีดขวางร่วมกับกล้องหน้ารถหรือหลังรถ รวมถึงกล้องมองรอบคัน
เมื่อเซ็นเซอร์รถยนต์ตรวจพบเจอสิ่งกีดขวาง ตัวคลื่นจะส่งสัญญาณเตือนไปยังผู้ขับขี่ ในลักษณะแสงไฟกะพริบสีส้มที่บริเวณกระจกมองข้าง และยังส่งเสียงเตือนหากคนขับเปิดไฟเลี้ยวทางฝั่งที่มีสิ่งกีดขวาง
3. ระบบตัดกำลังเครื่องยนต์
ระบบตัดกำลังเครื่องยนต์ เป็นการตัดกำลังเพียงชั่วขณะ เมื่อคุณเผลอเหยียบคันเร่งอย่างรุนแรงและรวดเร็ว ซึ่งระบบนี้จะทำงานในตอนที่รถเคลื่อนไปข้างหน้าเท่านั้น โดยทำงานในลักษณะตรวจจับวัตถุด้านหน้า หากมีการเหยียบคันเร่งผิดพลาด ระบบจะทำการเตือนและตัดกำลังทันที เพื่อให้สามารถเบรครถได้ทัน แถมยังช่วยลดความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการชนได้อีกด้วย
4. ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี
ระบบป้องกันการหมุนฟรีของล้อ ช่วยให้คนขับสามารถควบคุมรถได้ง่ายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการขับรถบนถนนเปียก เข้าโค้ง หรือการออกตัว ระบบตัวนี้จึงเข้ามามีบทบาทในการทำให้ความเร็วของล้อสัมพันธ์กัน แถมยังช่วยลดอาการรถปัดหรือส่ายขณะออกตัว หรือขณะเสียการทรงตัวได้
การทำงานของระบบนี้จะเกิดขึ้นเมื่อระบบเซ็นเซอร์จะได้ว่าล้อใดล้อหนึ่งกำลังฟรีจากการลื่น โดยระบบจะทำการตัดกำลังเครื่องยนต์ หรือเบรคล้อข้างนั้นทันที ซึ่งถือว่าเป็นระบบที่มีความสำคัญมากเพราะช่วยลดอุบัติเหตุร้ายแรงได้อย่างยอดเยี่ยม
5. กล้องรอบคัน 360 องศา
กล้องมองรอบทิศทางถือเป็นเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและมีประโยชน์ค่อนข้างมาก เพราะนอกจากจะช่วยให้คนขับมองเห็นทัศนวิสัยได้ 360 องศาแล้ว ยังมีประโยชน์ในด้านการจอดรถและถอยรถอีกด้วย สามารถตอบโจทย์มือใหม่หัดขับได้เป็นอย่างดี เนื่องจากช่วยหลบสิ่งกีดขวางได้ดีขึ้น แถมยังสร้างความมั่นใจในการขับขี่ได้มากกว่าเดิม
นอกจากนี้การมีของ “ถุงลมนิรภัย” ยังสามารถเพิ่มความปลอดภัยให้คุณได้ตลอดทริป แถมในปัจจุบันยังกลายมาเป็นอุปกรณ์ขั้นพื้นฐานที่รถทุกคันจะต้องติดตั้งออกมาจากโรงงาน ตามมาตรากฎหมายในหลายประเทศ เนื่องจากช่วยลดแรงปะทะระหว่างผู้ขับขี่ และบริเวณโดยรอบห้องโดยสารได้เป็นอย่างดี แถมยังช่วยลดความเสี่ยงที่จะได้รับบาดเจ็บรุนแรง จากการกระแทกเมื่อเกิดอุบัติเหตุได้เช่นกัน
ประโยชน์ของเซ็นเซอร์รถยนต์
รถยนต์รุ่นใหม่มักมีระบบเซ็นเซอร์รถยนต์ติดตั้งมาให้แล้ว แต่สำหรับรถยนต์รุ่นเก่าหากต้องการความปลอดภัย และความสะดวกสบายที่มากขึ้นจำเป็นจะต้องติดตั้งเพิ่มเติมซึ่งเซ็นเซอร์รถยนต์ ราคาและค่าใช้จ่ายแตกต่างกันออกไป ทำให้หลายคนไม่อยากควักเงินในส่วนนี้สักเท่าไหร่จึงมองว่าไม่จำเป็น แต่เซ็นเซอร์เองก็มีประโยชน์ ดังนี้
- รถยนต์บางประเภท เช่น รถตู้ หรือรถที่มองหลังได้ยาก มีโอกาสเกิดอุบัติเหตุ (การชน) สูงมาก ดังนั้นการติดเซ็นเซอร์จะช่วยป้องกันปัญหาเหล่านี้ได้
- การชนบางครั้งมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง เช่น กันชนด้านหน้าแตก พัง ซึ่งต้องจ่ายทั้งค่าซ่อม ค่าทำสี ซึ่งรวมแล้วเป็นค่าใช้จ่ายหลักพันหรือหลักหมื่นเลย ดังนั้นการติดเซ็นเซอร์จึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า
- รถยนต์บางรุ่นมีจอ มีกล้องด้านหลัง ทำให้มองเห็นด้านหลังได้อย่างชัดเจน
- ช่วยป้องกันชิ้นส่วนต่าง ๆ ของรถ เช่น กันชนด้านหน้า-หลัง และด้านซ้าย-ขวาได้เป็นอย่างดี
- มีประโยชน์สำหรับคนที่ขับรถยังไม่เก่ง แถมยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยได้มากกว่าเดิม
เห็นแล้วใช่มั้ยว่าการติดตั้งเซ็นเซอร์รถยนต์ ให้ประโยชน์แก่คุณได้มากขนาดไหน ดังนั้นอย่าได้คิดว่าเซ็นเซอร์ต่าง ๆ ไม่จำเป็นเด็ดขาด เพราะนอกจากจะช่วยให้การขับขี่ของคุณสะดวกสบายแล้ว ยังช่วยลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้เป็นอย่างดีอีกด้วย แต่ไม่ว่าอย่างไรหากเป็นกรณีที่ “ซื้อมาติดตั้งเพิ่ม” ควรเลือกติดตั้งระบบความปลอดภัยจากผู้ผลิตที่มีมาตรฐาน และร้านติดตั้งที่ไว้ใจได้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาอื่น ๆ ตามมา
ความปลอดภัยถือเป็นหัวใจสำคัญของการใช้รถใช้ถนน หากคุณต้องการเพิ่มความปลอดภัยให้มากขึ้น การติดตั้งเซ็นเซอร์รถยนต์ที่เป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ หรือถ้าหากกำลังมองหารถใหม่สักคัน การมองหารุ่นที่มีระบบเซ็นเซอร์ครบครันก็เป็นสิ่งที่เพิ่มความสะดวกสบายและความปลอดภัยให้คุณได้ นอกจากนี้อย่าลืมซื้อประกันภัยรถยนต์เอาไว้ เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้น และช่วยให้การเดินทางของคุณราบรื่น และอุ่นใจตลอดเส้นทาง หากไม่รู้จะซื้อกับที่ไหน รู้ใจมีประกันรถยนต์ที่ตอบโจทย์ เพราะคุณสามารถเลือกปรับแต่งความคุ้มครองได้เอง แถมราคาสบายกระเป๋าเพราะลดเบี้ยให้คุณสูงสุดถึง 30%
สามารถติดตามข่าวสาร สาระความรู้เกี่ยวกับสุขภาพ รถยนต์ มอเตอร์ไซค์ รวมถึงประกันภัยออนไลน์ต่าง ๆ จากรู้ใจได้ที่ Facebook Page: Roojai หรือคลิกที่นี่เพื่อเพิ่มเราเป็นเพื่อนใน LINE ได้เลย (Official Line ID: @roojai)
