สำหรับผู้ที่ใช้รถอยู่เป็นประจำอาจยังไม่รู้ว่า อุบัติเหตุบนท้องถนนที่เกิดขึ้นโดยมีสาเหตุมาจากยาง โดยเฉพาะยางระเบิดนั้น ล้วนมีความเกี่ยวเนื่องจากการสูญเสียความดันลมยางในขณะใช้งานแทบทั้งสิ้น และจากปัจจัยดังกล่าว ทำให้ผู้ผลิตยางรถยนต์ชั้นนำหลายแบรนด์ ต่างมุ่งมั่นพัฒนาเพื่อแก้ปัญหาในส่วนนี้ออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ยางที่ถูกเรียกว่า ‘Run Flat’ เพื่อให้ผู้ใช้รถได้ใช้ยางรถยนต์ที่ปลอดภัยและอุ่นใจมากขึ้น
แน่นอนว่าหลายคนอาจสงสัยว่าเทคโนโลยียางรถยนต์ Run Flat คืออะไรและมีความปลอดภัยแค่ไหนหรือดีกว่ายางทั่วไป ๆ ยังไงคำตอบคือ ยางประเภทนี้ได้ถูกพัฒนาและออกแบบให้รถวิ่งได้แม้ไม่มีลมยาง ทั้งกรณียางรั่วซึมหรือถูกตำทะลุจนไม่มีลมเหลืออยู่ภายในยาง หรือเมื่อเกิดการระเบิดที่ความเร็วสูง ก็ยังสามารถควบคุมรถและขับขี่ไปยังสถานที่ที่ปลอดภัยได้ ซึ่งต่างกับยางปกติทั่วไป ที่เมื่อยางแบนและสูญเสียความดันลมยาง ก็จะไม่สามารถแบกรับน้ำหนักของรถได้ และจะเสียหายหากพยายามจะขับขี่รถต่อไป ในทางกลับกันหากเจ้าของรถเป็นผู้หญิงหรือนักขับมือใหม่ และต้องมาประสบเหตุบนถนนเปลี่ยว ๆ ในช่วงเวลาค่ำมืด ก็ยิ่งสร้างความกังวลใจให้กับผู้เป็นเจ้าของรถมากขึ้นไปอีก
ที่สำคัญ เทคโนโลยียางแบบ Run Flat ยังช่วยให้เจ้าของรถสามารถขับต่อไปยังที่ปลอดภัยได้โดยไม่ต้องกังวล ด้วยความเร็วสูงสุดไม่เกิน 80 กม./ชม. ภายใต้ระยะทางไม่เกิน 80 กิโลเมตร และเข้ารับการเปลี่ยนยางที่ศูนย์บริการที่ใกล้ที่สุดได้
สรุปได้ว่าเรื่องการใช้งานหากเทียบเรื่องประสิทธิภาพกับยางธรรมดาทั่วไป ยางแบบ Run-Flat นั้นอาจไม่ได้ต่างมากมายจนรู้สึกได้แบบชัดเจนนัก แต่ถ้ามองในด้านความอุ่นใจสะดวกสบายในการใช้งานนั้น นับว่าคุ้มค่ากับราคายางพอสมควร อีกทั้งรถก็ไม่ต้องมียางอะไหล่ และทำให้มีพื้นที่ใช้สอยในรถมากขึ้น ช่วยให้น้ำหนักรถลดลง นั่นหมายถึงว่ามีส่วนช่วยในการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงมากขึ้น ที่สำคัญเพื่อความอุ่นใจเหนือไปอีกขั้นอย่าลืมให้ ‘รู้ใจ’ พร้อมอยู่เคียงข้างคุณ กับบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน กรณีรถเสีย หรือยางแตกกลางทาง 24 ชม. การันตีถึงที่เกิดเหตุภายใน 30 นาที ผ่อนสบายๆ กับดอกเบี้ย 0% นานสูงสุด 10 งวด
เครดิตภาพ : Bridgestone