Roojai

วิธีเช็คสภาพและยืดอายุยางรถยนต์ ถึงเวลาเปลี่ยนยางแล้วหรือยัง?

เปลี่ยนยาง | เช็คสภาพยางรถยนต์ | ประกันรถยนต์ | รู้ใจ

การเช็คสภาพยางรถยนต์ หนึ่งในเรื่องที่ดูเป็นเรื่องง่ายแต่ในความเป็นจริงคือเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก ๆ ที่ควรใส่ใจ เพื่อตรวจสอบความพร้อมของยางให้พร้อมต่อการใช้งานอยู่เสมอ รวมไปถึงการเช็คอายุยางรถยนต์ว่ายังมีความพร้อมต่อการใช้งานมั้ย หรือถึงเวลาแล้วที่ต้องเปลี่ยนยางรถยนต์ใหม่สักที

รู้ใจขอแชร์ให้เรื่องที่ละเอียดอ่อนและดูเป็นเรื่องยากเหล่านี้ให้กลายเป็นเรื่องง่าย ๆ ที่ผู้ใช้รถทุกคนเข้าใจได้ ตามไปดูวิธีเช็คสภาพยางกับเราได้เลย

ยางรถยนต์เป็นสิ่งที่ผู้ขับขี่ทุกคนต้องให้ความใส่ใจเป็นอย่างมาก เพราะเจ้าอุปกรณ์ชิ้นนี้นี่เองที่จะเป็นตัวนำพาเราไปถึงจุดหมาย พร้อมกับประคับประคองเราให้อยู่บนเส้นทางได้อย่างปลอดภัย นั่นเป็นเพราะยางรถยนต์คืออุปกรณ์เพียงชิ้นเดียวที่สัมผัสกับท้องถนน พร้อมทั้งแบกรับน้ำหนักและการกดทับของตัวถังรถและห้องเครื่องยนต์ ตลอดจนน้ำหนักบรรทุกทั้งหมดเอาไว้ ดังนั้นความพร้อมของยางรถยนต์จึงเป็นสิ่งสำคัญยิ่งที่เจ้าของรถต้องให้ความใส่ใจ ตรวจสอบ และเตรียมความพร้อมของยางให้พร้อมใช้งานได้ในทุกเวลา

อีกทั้งการใช้รถในแต่ละรอบยางจะทำหน้าที่เป็นปราการด่านแรกที่รับแรงเสียดทาน แรงกระแทก พร้อมทั้งแรงกดทับในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นการเบรกกะทันหัน การหยุดรถให้ทันก่อนการเกิดอุบัติเหตุ สภาพความพร้อมของยางจึงถือเป็นเรื่องสำคัญต่อสถานการณ์ตรงหน้าที่เกิดขึ้นในปัจจุบันทันที ยางที่ดีและพร้อม จะช่วยผ่อนหนักเป็นเบาหรือยับยั้งไม่ให้เกิดอุบัติเหตุใด ๆ ขึ้นมาได้เลย

ยางรถยนต์มีอายุการใช้งานนานเท่าไหร่?

โดยทั่วไปแล้วตามมาตรฐานสำหรับการขับขี่ปลอดภัย การใช้งานยางรถยนต์ควรจำกัดอายุยางรถยนต์ที่ 20,000 – 50,000 กิโลเมตรตามประสิทธิภาพและความสามารถของยางรถในแต่ละแบบ ซึ่งยางแต่ละชนิดมีคุณสมบัติและคุณภาพที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นจึงต้องดูให้รู้แน่ว่าอายุยางรถยนต์ของเราใช้งานจนถึงระยะเวลาที่จะเปลี่ยนยางมั้ย เมื่อถึงรอบแล้วควรเปลี่ยนในทันทีเพื่อการขับขี่ปลอดภัยของคุณ

ส่วนใหญ่แล้วระยะเวลาสำหรับการเปลี่ยนยางรถยนต์นั้น นอกจากดูจากระยะทางในการเดินทางดังที่ได้กล่าวมาแล้วในข้างต้น ระยะเวลาที่เหมาะสมสำหรับการเปลี่ยนยางควรอยู่ในระยะ 2 – 3 ปี ตามสภาพการใช้งาน และไม่ควรปล่อยไปให้นานมากกว่านี้ จะถือว่าเข้าสู่ระยะอันตราย และประสิทธิภาพการทำงานของยางจะลดลงไปอย่างมาก เมื่อถึงรอบแล้วควรทำการเปลี่ยนยางใหม่ทุกเส้นเพื่อความพร้อมและความปลอดภัยในการเดินทางของคุณนั่นเอง

ยางรถยนต์ | เปลี่ยนยาง | ประกันรถยนต์ | รู้ใจ

สภาพดอกยางบอกอะไรคุณ?

อีกหนึ่งวิธีการตรวจสอบการใช้งานยางว่ายังสามารถใช้งานได้หรือไม่ คือการดูจาก “ดอกยาง” ที่มีอยู่ โดยมาตรฐานการใช้งานดอกยางควรมีความลึกที่ 4 – 7 มิลลิเมตร จะถือเป็นดอกยางที่มีความลึกอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานสามารถใช้งานต่อไปได้ 

แต่ถ้าดอกยางมีขนาดความลึกน้อยกว่า 4 มิลลิเมตรนั่นคือสัญญาณเตือนแล้วว่าต้องเปลี่ยนยางในทันที อีกทั้งด้วยเทคโนโลยีการผลิตยางที่ทันสมัย คุณสามารถตรวจสอบดอกยางได้ด้วยการดูจากสะพานที่ทางบริษัทยางผลิตและหล่อรูปยางขึ้นมา จะมีลักษณะเป็นสะพานเล็ก ๆ เชื่อมโยงระหว่างดอกยาง หากยังคงเห็นสะพานตัวนี้อยู่ ยังถือว่าดอกยางยังมีความพร้อมต่อการใช้งานนั่นเอง

สัญญาณที่บอกคุณว่าถึงเวลาต้องเปลี่ยนยางได้แล้ว

แม้ว่าคุณจะวิ่งรถได้ยังไม่ถึงระยะทางที่ต้องเปลี่ยนยางหรือใช้ยางรถยนต์ได้ยังไม่ถึง 2-3 ปี แต่ถ้าหากตรวจสอบดูแล้วมีอาการเหล่านี้ขึ้นมา รู้ใจขอแนะนำให้คุณเปลี่ยนยางรถยนต์ของคุณ หากมีอาการดังต่อไปนี้

1. แก้มยางรถยนต์บวมหรือมีรอยแตก

ไม่ว่ายางของคุณจะใหม่มากหรือใช้งานมานานแต่ไม่เคยเจอปัญหาใด ๆ ตรวจสอบดูแล้วดอกยางยังคงดีอยู่และดอกยังเต็ม แต่ถ้ายางรถยนต์ของคุณมีอาการบวมหรือแตกบริเวณแก้มยาง ควรนำรถของคุณเข้าทำการเปลี่ยนยางในทันที 

เพราะนั่นคือสัญญาณบอกเหตุให้คุณรู้ว่ายางรถยนต์ของคุณมีปัญหา เพราะอาการแตกหรือบวมบริเวณยางรถยนต์ของคุณ หมายถึงพื้นที่ในส่วนนั้นมีความบางมากกว่าปกติแล้ว  และความบางเกิดขึ้นอากาศภายในล้อจะดันออกมาทางช่องนั้น นั่นอาจทำให้ยางระเบิดจากอากาศภายในยางเกิดการขยายตัว และจะดันออกมาทางพื้นที่ผิวที่บางหรือมีรอยแตกนี้ เมื่อตรวจพบควรเปลี่ยนยางในทันที

2. ควบคุมรถยากมากขึ้น

อีกหนึ่งอาการสำคัญคือ เมื่อคุณขับรถแล้วรู้สึกได้ถึงการควบคุมรถที่ยากขึ้น นั่นคือสัญญาณที่บอกให้คุณรู้แล้วว่ายางรถยนต์ของคุณมีปัญหาต้องทำการเปลี่ยนแปลงยางรถยนต์ในทันที

โดยสังเกตได้จากอาการที่รถของคุณกระโดดหรือควบคุมการขับขี่ได้ไม่ดี มีอาการสะบัดหรือส่ายไปมาก นี่คือ สัญญาณเตือนว่าต้องเปลี่ยนยางเสื่อมสภาพ ไม่ว่ายางเส้นนั้นจะเปลี่ยนมาใหม่หรือยังมีสภาพดูเหมือนดีอยู่ก็ตาม  เพราะนี่คือการส่งสัญญาณบอกให้คุณรู้แล้วว่า ยางของคุณกำลังมีปัญหาอย่างร้ายแรงและต้องทำการเร่งแก้ไขอย่างเร่งด่วน นั่นเอง

สัญญาณที่ต้องเปลี่ยนยาง | ประกันรถยนต์ | รู้ใจ

3. เมื่อรถของคุณไม่เกาะถนนอีกต่อไป

หากรถของคุณไม่ยึดเกาะถนน ลื่นไถลอยู่ตลอด โดยเฉพาะตอนฝนตกแล้วรถคุณเหินน้ำอยู่บ่อยครั้ง ปัญหานี้เกิดมาจากดอกยางเสื่อมสภาพ ซึ่งต้องทำการแก้ไขและเปลี่ยนแปลงในทันที การทนขับต่อไปอาจหมายถึงอุบัติเหตุร้ายแรงที่ตามมาได้

ทริคดูแลยางรถยนต์ให้ยางเสื่อมสภาพช้าที่สุด

สิ่งสำคัญที่สุดที่จะทำให้ปัญหาเกี่ยวกับยางรถยนต์ไม่เกิดขึ้นกับคุณคือ หมั่นตรวจสอบอยู่เสมอและเติมลมยางรถยนต์อย่างเหมาะสม  โดยทั่วไปแล้วการขับขี่รถเก๋งส่วนบุคคลจะเติมลมยางเท่ากันทุกล้อ โดยค่าความดันอยู่ที่ 28-30 ปอนด์ ส่วนกระบะบรรทุกของจะอยู่ที่ 35 ปอนด์ ในกรณีที่ไม่ทำการบรรทุกของ แต่เมื่อทำการบรรทุกของแล้วจะต้องเติมลมในส่วนล้อหลังเพิ่มเป็น 50 ปอนด์ จึงจะถือได้ว่าเป็นอัตราลมที่พอเหมาะที่ทำให้ผิวยางสามารถยึดเกาะถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

นอกจากนั้นการขับรถที่ไม่เร็วจนเกินไปก็ช่วยดูแลรักษายางที่ดีด้วย เพราะการขับรถในความเร็วที่พอเหมาะ เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินเฉพาะหน้าคุณจะสามารถหยุดรถได้โดยที่ไม่ทำร้ายผิวหน้ายาง หากเราขับรถเร็วและเบรกกะทันหัน การหยุดรถในรูปแบบนี้ทำให้หน้ายางต้องถูไปกับพื้นผิวถนนอย่างรุนแรง จนทำให้ยางเกิดความเสียหายขึ้นมาโดยไม่จำเป็น

ทั้งหมดนี้คือแนวทางการเช็คสภาพยางรถยนต์และการดูแลยางรถยนต์ที่รู้ใจนำมาฝากคุณ แต่นอกจากดูแลยางแล้ว การทำประกันรถยนต์ทำให้เราอุ่นใจเมื่อต้องเดินทาง หากคุณพบเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็ยังมีประกันคุ้มครอง ที่รู้ใจมีประกันรถยนต์ที่ปรับแผนเองได้ตามไลฟ์สไตล์ ช่วยคุณประหยัดสูงสุด 30% รับประกันราคาดี เจอถูกกว่ายินดีคืนเงิน พร้อมอู่และศูนย์ซ่อมในเครือทั่วไทยกว่า 1,800 แห่ง เลือกรับความคุ้มครองบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมงได้ ให้คุณอุ่นใจได้ในทุกการเดินทาง

สามารถติดตามข่าวสาร สาระความรู้เกี่ยวกับสุขภาพ รถยนต์ มอเตอร์ไซค์ รวมถึงประกันภัยออนไลน์ต่าง ๆ จากรู้ใจได้ที่ Facebook Page: Roojai หรือคลิกที่นี่เพื่อเพิ่มเราเป็นเพื่อนใน LINE ได้เลย (Official Line ID: @roojai)