กลายเป็นกระแสที่หลายคนกำลังพูดถึง จากเหตุการณ์อดีตดาราเด็กชื่อดังขับรถชนต้นไม้เสียชีวิต ซึ่งประเด็นสำคัญที่เกิดความสงสัยตามมาของสังคมก็คือ ทำไมถุงลมด้านหน้ารถถึงไม่ทำงาน! แน่นอนว่าเหล่ากูรูและผู้เชี่ยวชาญด้านยานยนต์ต่างก็ออกมาวิเคราะห์และให้ความเห็นกันอย่างมากมาย ในขณะเดียวกันบริษัทผู้ผลิตรถที่เกิดอุบัติเหตุก็ออกมาแจงว่า จากการตรวจสอบพบว่า ม่านถุงลมด้านข้างทำงาน แต่ถุงลมด้านหน้าไม่ทำงาน จากข้อมูลเบื้องต้นคาดว่า มีการชนจากด้านข้างอย่างรุนแรง ทำให้ม่านนิรภัยทำงาน แต่ที่ถุงลมด้านหน้าไม่ทำงาน เนื่องจากไม่ได้ชนด้านหน้าตรง เซ็นเซอร์จึงไม่ได้รับข้อมูลที่จะปล่อยถุงลม อย่างไรก็ตามจะส่งทีมวิศวกรเดินทางไปประสานกับกองพิสูจน์หลักฐาน เพื่อหาสาเหตุและดูการทำงานของระบบต่าง ๆ ของรถคันเกิดเหตุ
หลายคนอาจยังไม่ทราบว่า ระบบถุงลมนิรภัยเป็นระบบควบคุมเสริม ซึ่งจะทำงานพร้อมกับระบบเข็มขัดนิรภัยระหว่างเกิดอุบัติเหตุ โดยถุงลมนิรภัยได้รับการติดตั้งอยู่ภายในพวงมาลัย แผงคอนโซล หรือเสาด้านข้างในรถยนต์ และพองตัวโดยทันทีเพื่อปกป้องผู้ขับและผู้โดยสาร ช่วยลดอัตราการสูญเสียที่รุนแรงจากอุบัติเหตุบนท้องถนน
แทบจะ 100% ระบบของถุงลมนิรภัยไม่ได้ถูกออกแบบมาให้ทำงานทุกครั้งที่เกิดอุบัติเหตุ แต่ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่ผู้ผลิตกำหนด สามารถดูได้จากคู่มือประจำรถรุ่นนั้น ๆ อย่างไรก็ดีจุดประสงค์ของถุงลมนิรภัยออกแบบมาเมื่อมีการชนด้านหน้าอย่างรุนแรงเท่านั้น เมื่อมีการชนเกิดขึ้นในรัศมีที่กำหนดและแรงกระแทกอยู่ในค่าที่กำหนดถุงลมนิรภัยก็จะทำงาน แต่ถ้าไม่อยู่ในรัศมีที่กำหนด และแรงของการกระแทกไม่ถึงค่าที่กำหนดถุงลมนิรภัยก็จะไม่ทำงาน เพราะการป้องกันจะอาศัยโครงสร้างของตัวรถ และชุดเข็มขัดนิรภัยซึ่งก็เพียงพอต่อการป้องกันในสภาพความเร็วต่ำ จึงไม่จำเป็นต้องอาศัยชุดถุงลมนิรภัย ถ้าเกิดการชนเสียรูปเช่น ชนกับเสาไฟฟ้า ชนด้านหลังรถบรรทุกความเร็วที่จะทำให้ถุงลมนิรภัยพองตัวต้องมากกว่า 20 กม/ชม. โดยปกติถุงลมนิรภัยจะพองตัวเมื่อรถยนต์ชนกับเสารถยนต์ประมาณ 30 กม/ชม. สำหรับการชนกับรถที่จอดอยู่กับที่, ชนกับกำแพง, คอนกรีตและชนนอกศูนย์กลางด้านหน้า ความเร็วของรถยนต์ต้องมากกว่า 40 – 50 กม/ชม. จึงจะทำให้ถุงลมนิรภัยพองตัว
สำหรับข้อควรปฏิบัติที่อาจมีผลต่อการทำงานของถุงลมนิรภัยเมื่อเกิดอุบัติเหตุ คือ ปรับตำแหน่งเบาะนั่งให้เหมาะสม สิ่งสำคัญควรคาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้ง เพราะจะลิงค์การทำงานกับถุงลมนิรภัย ถึงจะชนหนัก ๆ แรง ๆ และอยู่ในมุมที่ถูกต้อง แต่มันอาจไม่ทำงานถ้าคนขับ-คนนั่งหน้าไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัยอยู่ รวมทั้งห้ามวางสิ่งของบนแป้นถุงลมนิรภัย เพราะถ้าถุงลมนิรภัยทำงานทำให้เกิดอันตราย นอกจากนี้ห้ามติดสติกเกอร์บนแป้นถุงลมนิรภัย มิฉะนั้นถุงลมอาจจะไม่ระเบิดออกมา และในกรณีที่มีเด็กเล็กนั่งมาด้วย ขอแนะนำให้นั่งที่เบาะหลัง และควรคาดเข็มขัดนิรภัยด้วย
แม้ว่ารถรุ่นใหม่ ๆ มีระบบความปลอดภัยติดตั้งไว้มาก แต่สิ่งสำคัญที่ต้องมีควบคู่กันคือประกันภัยรถยนต์ ที่จะคอยดูแลคุณให้อุ่นใจในทุกเวลาที่ต้องขับรถ เพราะช่วยจัดการค่าเสียหายจากอุบัติเหตุ อย่าลืมให้ประกันภัยรถยนต์จาก “รู้ใจ” เราพร้อมอยู่เคียงข้างคุณเสมอ การันตีราคาและความคุ้มครองดีที่สุด