สวัสดีครับเพื่อนๆ ชาว Roojai.com มาพบกับพี่หมีโกแบร์และเรื่องราวดีๆ เกี่ยวกับรถยนต์กันอีกแล้วนะครับ วันนี้เรามาดูเรื่องราวเกี่ยวกับการทำความสะอาดรถยนต์กันนะครับ สำหรับใครที่ชอบดูแลรักษารถยนต์ด้วยตนเอง ไม่ค่อยใช้บริการล้างรถตามร้านต่างๆ บ่อยนัก บทความนี้จะมีประโยชน์มากๆ ครับ เพราะมีสิ่งต่างๆ ในบ้านที่เราสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการทำความสะอาดรถของเราได้ แถมใช้งานได้ดีด้วยครับ และประหยัดเงินไปในตัว ไม่ต้องเสียเงินไปใช้บริการตามร้านต่างๆ อีกด้วย เรามาดูกันเลยครับ ว่ามีเคล็ดลับอะไรบ้าง
1. ใช้ครีมนวดผมล้างรถ
หลายๆ คนอาจจะไม่รู้ว่า ครีมนวดผมส่วนมาก จะมีส่วนผสมของลาโนลินที่มีคุณสมบัติพิเศษคล้ายแว็กซ์ในการเคลือบเงาครับ เพราะฉะนั้น หากคุณต้องการให้รถคุณเงางาม ลองใช้ครีมนวดในการล้างรถดูนะครับ แถมที่น่าประหลาดใจที่สุดก็คือ ล้างเสร็จแล้ว เวลาโดนน้ำ น้ำจะไม่เกาะที่ตัวรถอีกด้วยครับ
2. ผสมว้อดก้าลงในน้ำยาฉีดทำความสะอาดกระจก
น้ำยาฉีดหน้ากระจกใช้ไปนานๆ ก็พร่องลงไปได้นะครับ และถ้าหากเพื่อนๆ อยากผสมน้ำยาเอง เพื่อทำความสะอาดกระจกหน้าให้สะอาดเอี่ยม ลองสูตรนี้ดูนะครับ ให้นำว้อดก้า 3 ถ้วยตวง ผสมน้ำเปล่า 4 ถ้วยตวง และน้ำยาล้างจาน 2 ช้อนโต๊ะ เขย่าให้เข้ากัน และเทลงไป แค่นี้คุณก็มีน้ำยาฉีกกระจกทำเอง แถมคุณภาพดีอีกด้วยครับ
3. ทำความสะอาดไฟหน้าด้วยถุงน่อง
เพื่อความปลอดภัยของคุณเองในการใช้รถใช้ถนน ไฟหน้าที่สะอาดใสคือสิ่งที่สำคัญประการหนึ่งครับ ลองใช้ถุงน่องคู่เก่าของคุณ ฉีดด้วยน้ำยาเช็ดกระจกและเช็ดถูทำความสะอาดไฟหน้ารถของคุณ แค่นี้ ไฟหน้าเก่าๆ ก็กลับมาใหม่เอี่ยม สดใสและปลอดภัยแน่นอนครับ
4. เช็ดกระจกด้วยทิชชู่เปียก
หากคุณรีบ และหาน้ำยาเช็ดกระจกไม่ได้ เพียงแค่นำทิชชู่เปียก ที่เรามักเอาไว้ใช้ล้างมือ หรือเข้าห้องร้ำ มาเช็ดกระจกสิครับ ทั้งกระจกหน้า และกระจกข้าง ก็ใสสะอาดง่ายๆ และรวดเร็วมากๆ เลยครับ
5. ทำความสะอาดที่ปัดน้ำฝนด้วยแอมโมเนีย
ที่ปัดน้ำฝนหากใช้ไปนานๆ มันจะมีคราบเปื้อน และยิ่งปัด ก็จะเป็นคราบ ไม่ช่วยให้กระจกสะอาดขึ้น แต่กลับทำให้สกปรกมากขึ้นไปกว่าเดิมอีก วิธีแก้ง่ายๆ คือ ผสมแอมโมเนีย ¼ ถ้วยตวง ผสมน้ำเย็น 4 ถ้วยตวง ค่อยๆ ยกที่ปัดน้ำฝน นำผ้านุ่มๆ สะอาดชุบสารละลายดังกล่าว และเช็ดที่ปัดน้ำฝน แค่นี้ก็สะอาด ใช้งานได้ดีเหมือนเดิมแล้วครับ
6. ทำน้ำยาล้างรถใช้เองด้วยเบคกิ้งโซดา
ผสมเบคกิ้งโซดา ¼ ถ้วยตวง, น้ำยาล้างจาน ¼ ถ้วยตวง ใส่ทั้งสองส่วนลงในแกลลอน และใส่น้ำจนเกือบเต็ม ปิดฝา และเขย่าให้ส่วนผสมเข้ากันดี พอเวลาจะล้างรถ ให้เพื่อนๆ นำสารละลายดังกล่าว 1 ถ้วย ลงในกระป๋อง ผสมน้ำอุ่น ตีให้เข้ากัน ก็สามารถล้างรถได้แล้วครับ ส่วนที่เหลือก็สามารถเก็บไว้ใช้ได้อีกหลายครั้งเลยทีเดียว
7. อย่าปล่อยให้รถตากลมจนแห้ง
ทันทีที่ล้างเสร็จ อย่าปล่อยให้รถตากลมเองจนแห้งเด็ดขาดนะครับ เพราะว่ารถจะเป็นคราบน้ำแห้ง ฝุ่นเกาะ และถ้านำผ้ามาเช็ดทีหลัง อาจจะทำให้เป้นรอยได้ เพราะฉะนั้น ที่ดีที่สุดพอล้างเสร็จ ให้รีบนำผ้าชามัวร์ หรือผ้านุ่มๆ ซับน้ำดี ไม่เป็นขลุย รีบเช็ดให้แห้งในที่ร่มจะดีที่สุดครับ
หวังว่าเคล็ดลับดีๆ แบบนี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ชาว Roojai.com ไม่มากก็น้อยนะครับ และถ้าหากเพื่อนๆ สนใจเรื่องราวดีๆ แบบนี้อีก ก็สามารถแวะเวียนไปเยี่ยมพี่หมีโกแบร์ได้นะครับ