ปฏิเสธไม่ได้ว่าการเดินทางไปไหนมาไหนในช่วงฤดูฝนค่อนข้างลำบากอยู่ไม่น้อย เพราะตกบ่อยแบบไม่มีวันหยุด ไม่เว้นแม้กระทั่งการเดินทางด้วยรถยนต์ เพราะฝนตกทีไรทำให้รถติดทุกที แถมบางพื้นที่ยังมีน้ำรอการระบายอีกต่างหาก แต่ทว่าปัญหาของผู้ใช้รถยังไม่หมดเท่านั้น เพราะยังมีอีกหนึ่งสิ่งที่สร้างความรำคาญใจและความเสียหายอยู่ไม่น้อยก็คือ ‘รถรั่ว’ ซึ่งส่วนใหญ่จะแสดงอาการให้เห็นอย่างเด่นชัดในช่วงที่มีฝนตกหนัก
โดยปัญหาน้ำที่รั่วซึมหรือเล็ดลอดเข้าในรถ ส่วนมากจะเกิดกับรถที่ผ่านการใช้งานมาแล้วประมาณ 5-7 ปีขึ้นไป ซึ่งสาเหตุมากจาก ‘ซีลยาง’ ขอบประตูเริ่มเสื่อมคุณภาพไปตามกาลเวลา ซึ่งหน้าที่หลักของซีลยางพวกนี้ เมื่อติดประกบกับประตูรถ ฝากระโปรงท้าย ก็มีคุณสมบัติช่วยส่วนป้องกันไม่ให้น้ำ, เสียง และกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ต่างๆ เข้ามาภายในรถ วิธีตรวจเช็คว่าซีลยางขอบประตูเสื่อมยังไงนั้นให้ลองล้างรถดู หรือฉีดน้ำในบริเวณหลังคาขอบประตู หากเริ่มสังเกตพบว่ามีน้ำซึมเข้ามาในห้องโดยสาร หรือขณะขับรถด้วยความเร็วจะมีเสียงเล็ดลอดเข้ามาในห้องโดยสารดังผิดปกติ และทวีความรุนแรงขึ้นมากเรื่อยๆ รวมทั้งอาจจะมีกลิ่นจากภายนอกเข้ามาภายในตัวรถ ให้สันนิษฐานได้เลยว่าซีลยางต่างๆ เริ่มเสื่อมคุณภาพหรือลาโลกไปแล้ว
ที่มาภาพ www.team-bhp.com
สำหรับการเปลี่ยนนั้น แนะนำให้ใช้ของแท้จากศูนย์จะดีกว่า เพราะด้วยคุณภาพจะส่งผลชัดเจน โดยเฉพาะด้านความคงทน อีกทั้งยังมีอายุการใช้งานที่นานกว่าเมื่อเทียบกับของเลียนแบบ แต่ก็ต้องแลกกับราคาจะสูงกว่าของเทียบเกรดอยู่ไม่น้อย ดังนั้นการตรวจสอบสภาพซีลยางทุกๆ 4 เดือน จึงเป็นสิ่งที่ควรทำอย่างยิ่ง ซึ่งวิธีตรวจว่ามีรอยขาดหรือเสื่อมสภาพบ้างหรือเปล่านั้นก็ทำได้ง่ายๆ ให้สังเกตดูที่เนื้อยางว่าคงรูปดีอยู่ไหม ยังประกบติดสนิทตัวรถอยู่หรือไม่ จากนั้นให้ลองเอามือบีบดูด้วย เช็คดูว่านุ่มหรือแข็งเพราะยางขอบประตูที่ยังพอจะใช้งานได้ดี ไม่ควรแข็งจนเกินไปหรือนิ่มยวบยาบจนยุ่ย หรือมีรอยปริแตก ถ้ายังดีอยู่ก็จะช่วยให้คุณมีความมั่นใจในการขับขี่ในทุกสภาวะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงฤดูฝน จะได้ไม่ต้องกังวลว่าน้ำจะรั่วซึมเข้ามา
สิ่งที่ขาดไม่ได้ไม่ว่าจะฤดูกาลไหนๆ คือความปลอดภัยในทุกขณะการขับรถ อย่าลืมให้ ”รู้ใจ” เคียงข้างคุณ ประกันแสนดี การันตีถึงที่เกิดเหตุภายใน 30 นาที ประกันชั้น 1 ผ่อนสบายๆ ซื้อประกันรถออนไลน์กับรู้ใจ ได้ความคุ้มครองสูงสุด ในราคาดีที่สุด
