เวลาขับรถไม่ว่าใกล้ – ไกล เชื่อว่าหลายคนคงต้องเปิดเพลง ฟังเพลง ร้องเพลงไปตลอดการเดินทาง เพื่อสร้างบรรยากาศที่ดีหรือบางทีอาจช่วยให้เราไม่ง่วงเวลาขับรถอีกด้วย ซึ่งบางครั้งการเปิดเพลงร้องในรถกับคนรู้ใจหรือครอบครัวก็เป็นอีกหนึ่งความทรงจำดี ๆ ที่เรามีร่วมกันระหว่างการเดินทาง เป็นอีกหนึ่งในความสุนทรียะในการขับขี่ การอัปเกรดชุดเครื่องเสียงรถยนต์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นจากเครื่องเสียงโรงงานก็เป็อีกหนึ่งสิ่งที่ใครหลายคนอยากทำ วันนี้รู้ใจขอชวนทุกคนทำความรู้จักกับระบบประดับยนต์ในส่วนของการติดตั้งเครื่องเสียงลำโพงรถยนต์ เพราะการตั้งระบบเครื่องเสียงภายในรถยนต์มีรายละเอียดปลีกย่อยที่คุณต้องพิจารณาร่วมกัน เพื่อให้รถของคุณเป็นรถแห่งเสียงเพลงอันสดใส ไม่ใช่เป็นตัวสร้างความรำคาญให้กับผู้อื่น ไปดูกันเลย
การติดตั้งเครื่องเสียงรถยนต์ไม่ใช่ว่าคุณนึกอยากซื้ออะไรมาติดตั้งก็ทำกันได้เลย แม้ว่าในความเป็นจริงแล้วคุณสามารถทำเช่นนั้นได้ แต่ในเรื่องของคุณภาพเสียงและประสิทธิภาพในการทำงานของเครื่องเสียงรถยนต์ของคุณจะออกมาได้เต็ม 100% หรือไม่ ขึ้นอยู่กับการคำนวณรูปแบบการติดตั้ง รวมไปถึงการเลือกชุดอุปกรณ์เครื่องเสียงที่เหมาะสมต่อสภาพรถของคุณ ไม่อย่างนั้นเครื่องเสียงที่สู้อุตส่าห์ลงทุนถอยออกมาด้วยงบประมาณมหาศาลจะกลายเป็นฝันร้ายสำหรับคุณในทันที
ดังนั้นก่อนการเลือกเครื่องเสียงเพื่อทำการยกระดับจากเครื่องเสียงในรูปแบบมาตรฐานที่ติดตั้งมาพร้อมกับตัวรถ ควรทำความรู้จักกับอุปกรณ์รถยนต์ต่าง ๆ ที่จะนำมาติดตั้งว่ารถของคุณต้องการอุปกรณ์ตัวไหนที่จำเป็นต่อการใช้งาน และสามารถนำมาติดตั้งกับรถยนต์ของคุณได้บ้าง
วางแผนการติดตั้งเครื่องเสียงใหม่ให้รถคุณกัน!
เมื่อคุณตัดสินใจที่จะยกระดับพัฒนารถของคุณให้กลายเป็นคาร์ เธียร์เตอร์เคลื่อนที่ จำเป็นต้องมานั่งร่างแผนการวางแผนการเปลี่ยนอุปกรณ์ต่าง ๆ ของคุณเสียก่อน ไม่อย่างนั้นจะยากต่อการกำหนดงบประมาณและการค้นหาอุปกรณ์สำหรับการติดตั้ง ซึ่งรู้ใจขอสรุปรูปแบบของหัวข้อสำหรับการพิจารณาเพื่อการวางแผนเปลี่ยนแปลงเครื่องเสียงรถยนต์ให้กับคุณดังต่อไปนี้
1. พิจารณารูปทรงของห้องโดยสารรถ
เรื่องแรกที่ต้องให้ความใส่ใจคือ รถที่คุณจะนำไปติดตั้งเครื่องเสียงนั้นมีรูปทรงภายในห้องโดยสารอย่างไร เพราะรูปทรงจะมีผลสำคัญต่อการวางตำแหน่งของชุดอุปกรณ์เครื่องเสียงต่าง ๆ ที่จะถูกเพิ่มเติมเข้ามา อีกทั้งยังมีส่วนสำคัญในการเลือกความเหมาะสมของระดับเสียงที่จะเกิดขึ้นในห้องโดยสารเพื่อไม่ให้เป็นอันตรายต่อตัวคุณเองและผู้โดยสาร รวมไปถึงต้องไม่สร้างความรำคาญให้กับผู้ขับขี่รถคันอื่นที่ต้องมาทนฟังเสียงที่ไม่ได้อยากฟังจากรถของคุณด้วย
2. ตั้งเป้าหมายในการปรับแต่งเครื่องเสียง
อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่เป็นตัวกำหนดงบประมาณ การวางแผน หรือติดตั้งเครื่องเสียงใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพคือ คุณต้องการระดับความคมชัดของเสียงในระดับไหน โดยส่วนใหญ่แล้วระบบเครื่องเสียงในปัจจุบันจะแบ่งออกตามความดัง ความหนักเบา ความทุ้ม ความใสของเสียงที่จะออกมา โดยทุกอย่างต้องสอดประสานกับรูปแบบการใช้งานของคุณว่าต้องการปรับแต่งให้ออกมาในรูปแบบไหน อย่างการเป็นรถมัลติมีเดียครบวงจร หรือเพื่อเป็นการจอดรถและเปิดเพลงพักผ่อนแบบสบาย ๆ โดยระบบเสียงที่มีอยู่ในปัจจุบันได้แก่ ระบบ ไฮ พาวเวอร์, ซิงเกิล-แอมป์, ไบ แอม์ หรือ เซอร์ราวน์รอบทิศทาง ทั้งหมดนี้คือเรื่องที่ต้องนั่งรถพิจารณาให้รอบคอบตามความต้องการและไลฟ์สไตล์ของคุณ
3. กำหนดชิ้นส่วนที่ต้องเปลี่ยน
เมื่อสามารถกำหนดรูปแบบและทิศทางการปรับแต่ง อัปเกรดเครื่องเสียงให้กับรถยนต์ของคุณได้แล้ว อันดับต่อมาคือการตอบคำถาม “มีชิ้นส่วนอะไรที่ต้องเปลี่ยนบ้าง” ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้ว ชุดเครื่องเสียงที่มาพร้อมกับรถยนต์จะเป็นชุดเครื่องเสียงที่เป็นมาตรฐานตามการผลิตของโรงงานประกอบรถยนต์ที่เรียกว่า ระบบ OEM หรือ Original equipment manufacturer ซึ่งเป็นระบบการใช้งานทั่วไปด้วยการขยายเสียงออกทางลำโพงที่ติดตั้งมาจากโรงงานเท่านั้น ซึ่งหากคุณมีเป้าหมายที่จะปรับแต่งรถในรูปแบบไหนก็ต้องมาพิจารณากันว่าจะต้องเปลี่ยนแปลงและเพิ่มอะไรเข้าไปบ้าง
โดยอุปกรณ์ที่มักมีการปรับแต่งเพื่อการยกระดับอัปเกรดเครื่องเสียงให้กับรถ เริ่มตั้งแต่ชุดเครื่องเสียงที่ต้องยกออกกันไปทั้งหมด โดยชุดเครื่องเสียงในปัจจุบันจะมาในรูปแบบของระบบมัลติมีเดียครบวงจร นั่นคือ จะมาพร้อมทั้งจอดิสเพลย์ที่ถูกติดตั้งไว้ตามตำแหน่งและการออกแบบจากบริษัท จึงเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาอย่างจริงจังว่าการนำเครื่องเสียงมัลติมีเดีย ตัวใหม่เข้ามาติดตั้งจะเหมาะสมกันรถของคุณหรือไม่ นอกจากนั้น ยังรวมไปถึงการเพิ่มลำโพง ตัวปรับแต่งเสียงที่เรียกว่าพาวเวอร์แอมป์ ซึ่งแต่ละแบบสามารถแยกเสียงหนักเบาทุ้มแน่นได้แตกต่างกัน ยิ่งหากคุณต้องการรูปแบบของคาร์เธียร์เตอร์จะต้องใช้พาวเวอร์แอม์ที่ปรับแต่งเสียงได้ในทุกระดับแบบเฉพาะเจาะจงอีกด้วย
ทริคเลือกร้านซื้ออุปกรณ์เครื่องเสียง
เมื่อตัดสินใจได้แล้วว่าจะปรับแต่งรถของคุณออกมาในรูปแบบไหน ได้เวลาสำหรับการออกสำรวจตลาดเพื่อซื้ออุปกรณ์ที่เหมาะสมสำหรับการอัปเกรดชุดเครื่องเสียงให้กับรถของคุณแล้ว อีกหนึ่งคำถามที่ตามมาคือ จะเลือกซื้อชุดเครื่องเสียงที่ไหน หรือจะซื้อผ่านระบบออนไลน์ดีมั้ย เพราะในปัจจุบันคุณสามารถเลือกซื้อทุกอย่างผ่านทางระบบออนไลน์ได้แล้ว รู้ใจจึงขอแนะนำหลักการสำคัญสำหรับการเลือกร้านที่ไว้ใจได้ในการจำหน่ายอุปกรณ์เครื่องเสียงดังนี้
1. มีการรับประกันสินค้า
สิ่งสำคัญอย่างแรกสำหรับการเลือกซื้อเครื่องเสียงและอุปกรณ์คือ มีการรับประกันสินค้าหรือไม่ รวมไปถึงผลงานการติดตั้ง และระยะเวลาสำหรับการประกันสินค้า เพราะเครื่องเสียงและอุปกรณ์เหล่านี้มีความอ่อนไหวสูงมาก พังเสียหายได้ง่าย การรับประกันของร้านจึงควรต้องครอบคลุม เราจึงควรตรวจสอบอย่างรอบคอบ
2. ให้คำแนะนำและคำปรึกษา
การที่ร้านสามารถให้คำแนะนำและคำปรึกษาในการติดตั้งเป็นอีกเรื่องที่สำคัญมาก เพราะการเลือกชุดอุปกรณ์ที่ผิดพลาด นอกจากจะไม่ได้เสียงที่คุณต้องการแล้ว ยังจะต้องเผชิญหน้ากับเสียงรบกวนที่จะติดตามคุณไปทุกแห่งหนตลอดอายุการใช้งานของเครื่องเสียง ดังนั้น การเลือกซื้อของจากร้านที่สามารถให้คำปรึกษาและแนะนำการติดตั้งให้กับคุณได้เป็นตัวเลือกที่ดียอดเยี่ยม อีกทั้งยังสามารถช่วยคุณในการแก้ไขปัญหาและปรับแต่งชุดเครื่องเสียงให้ออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุดอีกด้วย
3. ติดเองประหยัดกว่า หรือว่าจ้างช่างมาติด
อีกหนึ่งหลักพิจารณาคือ เรื่องทางร้านรับติดตั้งอุปกรณ์เหล่านี้ให้ด้วยหรือไม่ โดยส่วนใหญ่แล้วร้านเครื่องเสียงรถยนต์คุณภาพดีจะทำการติดตั้งให้ด้วย ในเรื่องการติดตั้งบางคนตั้งใจที่จะติดตั้งเองเพื่อความประหยัด ซึ่งสิ่งที่ต้องพิจารณาอย่างมากคือ คุณมีความรู้ในเรื่องของการติดตั้งเครื่องเสียงรถยนต์มาน้อยแค่ไหน เพราะการติดตั้งเครื่องเสียงรถยนต์ไม่ใช่การซื้อมาติดแล้วจบ แต่ยังมีเรื่องของการปรับจูน วิเคราะห์คุณภาพเสียง ปรับองศาของลำโพงในการกระจายเสียง รวมไปถึงตัวขับเสียงต่าง ๆ หากไม่มีความรู้เฉพาะด้านเหล่านี้อยู่เลยการเลือกใช้บริการจากแหล่งที่ได้มาตรฐานย่อมดีกว่า ไม่งั้นจากที่เราจะประหยัดได้ จะกลายเป็นบานปลายมากกว่าเดิม
สามารถติดตามข่าวสาร สาระความรู้เกี่ยวกับสุขภาพ รถยนต์ มอเตอร์ไซค์ รวมถึงประกันภัยออนไลน์ต่าง ๆ จากรู้ใจได้ที่ Facebook Page: Roojai หรือคลิกที่นี่เพื่อเพิ่มเราเป็นเพื่อนใน LINE ได้เลย (Official Line ID: @roojai)