ปฏิเสธไม่ได้ว่าในแวดวงยานยนต์ ยังมีหลายเรื่องหลายประเด็นที่สร้างความเข้าใจผิดให้กับผู้ที่สนใจหรือผู้เป็นเจ้าของรถ โดยเฉพาะในด้านงานซ่อมแซมและการบำรุงรักษา ซึ่งบางคนก็ได้ยินได้ฟังมาหรือได้รับการถ่ายทอดข้อมูลมาแบบผิด ๆ ถูก ๆ ที่สำคัญหลายกรณีก็เลวร้ายจนสร้างความเสียหายให้กับรถถึงขั้นเสียเงินเสียทองมาแล้วก็บ่อยครั้ง
เช่นเดียวกับการเปลี่ยนถ่ายหรือการเลือกใช้ของเหลว-สารหล่อลื่นในรถยนต์ โดยวันนี้เราก็มีประเด็นที่เป็นตัวอย่างในส่วนของความเชื่อที่ว่า ‘น้ำมันเกียร์และน้ำมันเบรกสามารถใช้ทดแทนกันได้’ ย้ำชัด ๆ และบอกเลยครับว่าความเชื่อหรือข้อมูลดังกล่าวนี้ผิด! เพราะน้ำมันทั้ง 2 ชนิดคนละเรื่องคนละสายพันธุ์ครับ ขืนหากนำมาใช้ร่วมกันหรือใช้แทนรับรองรถคุณพัง! อย่างแน่นอน ฉะนั้นถ้าช่างอู่ไหนหรือบรรดากูรูผู้รู้ไม่จริงบอกมา คุณกาหัวตัวแดงไว้เลยว่าคนนี้มั่ว!
เพราะด้วยคุณสมบัติของน้ำมันทั้ง 2 ประเภทมีต้นกำเนิดต่างกัน โดยน้ำมันเกียร์อัตโนมัติ มีชื่อย่อในภาษาอังกฤษว่า เอทีเอฟ (ATF) ถึงจะมีชื่อรวมเหมือนกัน แต่มีความแตกต่างในรายละเอียดมาก การเลือกใช้ต้องใช้สเปคตามที่ผู้ผลิตรถนั้นกำหนดให้ใช้ไว้ในคู่มือสำหรับเจ้าของรถเท่านั้น และบางรุ่นจะใช้น้ำมันอื่นทดแทนไม่ได้เลย ในขณะที่น้ำมันเบรกเป็นของเหลวที่มีไกลคอล-อีเทอร์ เป็นฐาน ซึ่งเหตุผลที่ไม่นำของเหลวจำพวกน้ำมัน (OIL) มาใช้เป็นน้ำมันเบรก เนื่องจากอุณหภูมิของน้ำมันเบรกขณะถูกใช้งานสูงเกิน 100 องศาเซลเซียส ถ้าใช้น้ำมันเบรกที่เป็นน้ำมัน แล้วเกิดมีน้ำเล็ดลอดเข้าไปในระบบ แน่นอนว่าน้ำมีความหนาแน่นมากกว่าน้ำมัน และไม่ละลายหรือสลายในน้ำมัน น้ำก็จะไปอยู่ที่จุดต่ำสุดปลายทางคือ ก้ามเบรก และจะเดือดเมื่ออุณหภูมิถึงจุดเดือดประมาณ 100 องศาเซลเซียส และน้ำได้แปรสภาพเป็นไอน้ำปนอยู่กับน้ำมันเบรก น้ำมันเบรกก็จะไม่สามารถส่งแรงในรูปของความดันไปให้ลูกสูบในก้ามเบรกได้เลย
แต่ถ้ามีคนบอกว่าน้ำมันเกียร์ออโต้สามารถใช้ร่วมหรือทดแทนกับน้ำมันเพาเวอร์ได้ ประเด็นนี้ยังพอทำได้ครับแต่ก็มีข้อยกเว้น ไม่ใช่ว่าจะสามารถใช้ร่วมกันได้กับรถทุกรุ่น ซึ่งส่วนใหญ่ที่นำมาใช้ได้ก็จะเป็นรถบางรุ่นที่ผลิตออกมาในช่วงยุค 90 ซึ่งเป็นน้ำมันเกียร์ออโต้ในเกรด Dexron 3 และก็ต้องมาดูคู่มือของรถรุ่นนั้นๆ ว่าสามารถใช้ได้หรือไม่ด้วย เสริมเพิ่มเติมให้อีกหนึ่งเรื่องในกรณีของน้ำมันเกียร์ธรรมดาบางรุ่นก็ยังสามารถนำมาใช้ร่วมกับรถยนต์ที่เป็นเกียร์อัตโนมัติได้ด้วย งงกันละสิครับว่าแบบนี้ก็ได้เหรอ?? ซึ่งยี่ห้อที่ใช้สเปคน้ำมันเกียร์ดังกล่าวนี้ก็มีอยู่ไม่น้อย เช่น FORD, MAZDA, VOLVO และ LAND ROVER แต่ต้องบอกไว้ก่อนนะว่าไม่ใช่ทุกรุ่นบางรุ่นเท่านั้น ทางที่ดีควรศึกษาข้อมูลจากคู่มือของรถรุ่นนั้นอย่างละเอียดจะชัวร์ที่สุด
สุดท้ายก็อย่าลืมเพิ่มความอุ่นใจในการเดินทางด้วยประกันรถรู้ใจดอทคอม ที่พร้อมบริการคุณตลอดเวลา เช็คเบี้ยออนไลน์ได้ราคาทันทีผ่านเว็บไซต์ เคลมสบายผ่านแอป ผ่อนเบาๆ ดอกเบี้ย 0% นานสูงสุดถึง 10 งวด พร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉินกรณีรถเสียกลางทาง 24 ชม.
