กล้องติดรถยนต์เป็นหนึ่งในไอเท็มที่หลายๆ คนเริ่มหันมาใช้งานกันเป็นจำนวนมาก เนื่องจากข่าวต่างๆ ได้เผยแพร่เหตุการณ์อุบัติเหตุหรือสถานการณ์ต่างๆ ที่สามารถคลี่คลายได้โดยกล้องติดรถยนต์
อีกทั้งในปี พ.ศ. 2560 สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย หรือ คปภ. ได้มีนโยบายให้รถยนต์ที่มีการติดตั้งกล้องหน้ารถยนต์สามารถใช้เป็นส่วนลดค่าเบี้ยประกันได้ถึง 5-10% ตามความสมัครใจ เนื่องจากต้องการสร้างแรงจูงใจให้ผู้ขับขี่เพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่บนท้องถนนมากขึ้น โดยเริ่มมีผลในวันที่ 3 มีนาคม 2560 ที่ผ่านมานั่นเอง อย่างไรก็ตามการติดตั้งกล้องรถยนต์ก็ต้องมีเคล็ดลับกันนิดหน่อย
1. ปิดเสียงกล้องเมื่อถึงเวลาจำเป็น
แม้ว่ากล้องรถยนต์จะเป็นหลักฐานชั้นดีในอุบัติเหตุแล้วก็ยังเป็นหลักฐานชั้นดีอื่นๆ อีกด้วย ดังนั้น อะไรที่เป็นความลับที่เราจะพูดคุยกันบนรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องตนเอง คนอื่น หรือธุรกิจที่ไม่ต้องการบันทึกไว้เป็นหลักฐานก็ควรปิดเสียงก่อนให้เรียบร้อย อย่าให้เกิดเหตุการณ์ความลับแตกเวลาที่เรามาย้อนเทปกลับเพื่อดูเหตุการณ์ที่ต้องการแต่ได้เหตุการณ์อื่นๆ ไปแทนนั่นเอง
2. ติดกล้องตัวเดียวข้างหน้าอาจไม่พอ
คนส่วนใหญ่ก็จะนิยมติดกล้องเพียง 1 ตัวทางด้านหน้ารถยนต์เนื่องจากอุบัติเหตุต่างๆ มักเกิดจากทางด้านหน้า แต่การติดกล้องรถยนต์ 2 ตัวทั้งด้านหน้าและด้านหลังก็จำเป็นเหมือนกัน (ในบางกรณี) เนื่องจากบางครั้งอุบัติเหตุก็เกิดจากด้านหลังและรถยนต์คันอื่นๆ ไม่ได้มีกล้องหน้ารถยนต์จึงไม่สามารถย้อนเหตุการณ์ได้ หรืออีกในกรณีที่คู่กรณีมีพฤติกรรมการขับขี่ที่ไม่ดีมาก่อนเกิดอุบัติเหตุก็จะสามารถดูได้จากกล้องหลังเช่นกัน
นอกจากนี้การมีกล้อง 2 ตัวหน้าหลังยังทำให้การถอยเข้าออกหรือการขับรถยนต์มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย ทั้งนี้การจะติดกล้องรถยนต์กี่ตัวก็ต้องดูงบประมาณของตนเองด้วย เอาที่สะดวกและสบายใจ ไม่ได้มีการบังคับแต่อย่างใด
3. เปิดโหมดพักหน้าจอขณะขับรถ เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนสายตา
กล้องทำงานบันทึกเหตุการณ์ต่างๆ นั้นจะมีการแสดงภาพขึ้นมาให้เราได้ดูที่กล้องด้วย แน่นอนว่าปัญหามันเกิดตอนกลางคืนที่แสงจากกล้องจะสว่างมาก และทำให้ทัศนวิสัยในการขับรถยนต์ของเราน้อยลง เหมือนมีไฟจากรถยนต์คันอื่นส่องตาเราอยู่ตลอดเวลานั่นเอง ดังนั้น อาจตั้งค่ากล้องให้บันทึกแบบพักหน้าจอแทนได้เพื่อความสะดวกและความปลอดภัยในการขับรถยนต์ของเรานั่นเอง โดยกำหนดเวลาได้ว่าจะใช้เวลากี่นาทีก่อนเข้าโหมดพักหน้าจอ
4. เปิดโหมดแบบให้กล้องบันทึกตลอด
เราไม่รู้หรอกว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันได้ตอนไหน ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุหรือเหตุการณ์โจรกรรมในรถยนต์ที่เกิดขึ้นมากมาย ทั้งการโดนขูดรถยนต์ โดนโจรกรรม ถ้าหากเราเปิดให้กล้องทำงานอยู่ตลอดในแบบพักหน้าจอก็จะช่วยเพิ่มเบาะแสและหลักฐานได้เช่นกัน
5. กล้องติดรถยนต์ใช้ไฟจากที่จุดบุหรี่ เมื่อลงจากรถให้ถอดสายไฟออก
เนื่องจากการติดตั้งกล้องนั้นจะต้องใช้ไฟฟ้านอกเหนือไปจากแบตเตอรี่ของกล้องเอง แต่ทั้งนี้เวลาที่ดับเครื่องยนต์จะไม่มีฟ้าเดินในเครื่องยนต์แต่เวลาที่เราสตารท์รถยนต์ไฟฟ้าจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและอาจทำให้ไฟฟ้ากระชากได้ ทำให้กล้องเสียอย่างรวดเร็วได้ เพื่อความปลอดภัยเบื้องต้น เราอาจจะเซฟไว้ก่อน ด้วยการถอดตอนลงจากรถยนต์หรือก่อนสตาร์ทรถยนต์ทุกครั้งนั่นเอง
6. เมมโมรี่ อย่าลืมตั้งแบบให้วนลูปไฟล์
เหตุผลเนื่องจากถ้าเราไม่ได้ตั้งให้มันเซฟแบบวนลูปไว้ เมื่อเมมโมรี่เต็มกล้องก็จะเลิกบันทึกโดยอัตโนมัติ ดังนั้นการตั้งค่าแบบวนลูปจะทำให้เราสามารถบันทึกต่อไปเรื่อยๆได้โดยไม่ต้องห่วงเรื่องเมมเต็มนั่นเอง
ไม่ยากเลยใช่ไหมกับเทคนิคการใช้กล้องติดรถยนต์ แถมยังมีประโยชน์มากมายอีกต่างหาก เพราะฉะนั้นใครที่มีรถยนต์ก็ลองมาใช้กล้องติดรถยนต์กันดู และที่สำคัญยังได้ลดเบี้ยอีก 10% เมื่อซื้อประกันรถภาคสมัครใจที่ Roojai.com ทุกประเภทเมื่อระบุมีกล้องติดหน้ารถอีกด้วยนะ
ถ้ารักรถเต็มหัวใจ ให้ Roojai.com ดูแลรถให้คุณ คลิกเช็คเบี้ยประกันรถ หรือโทร 02 582 8888