ความผิดปกติของรถยนต์สามารถสังเกตได้จาก อาการกระตุก สั่น สตาร์ทติดยาก หรือมีเสียงเกิดขึ้นตามจุดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ห้องเครื่อง ใต้รถ หรือบริเวณล้อ นอกจากนี้ “กลิ่น” ก็ยังเป็นตัวบ่งบอกได้เช่นกัน ซึ่งหากปล่อยทิ้งไว้อาจส่งผลเสียร้ายแรงและมีค่าใช้จ่ายที่สูงตามมา เรามาลองดูกันว่า 6 กลิ่นผิดปกติที่ควรตรวจสอบและแก้ไขอย่างด่วนนั้นมีอะไรบ้าง
1. กลิ่นไหม้ กลิ่นยางไหม้
กลิ่นนี้สำคัญมากเพราะอาจเป็นกลิ่นของระบบไฟฟ้าหรือสายไฟในรถไหม้ ไฟอาจลัดวงจร หนูกัด หรือเกิดจากความเก่าก็ได้ ซึ่งหากเกิดอาการนี้ให้จอดรถเพื่อเอาขั้วแบตฯออกแล้วโทรตามช่างหรือไม่ก็ขับรถแวะเข้าอู่ซ่อมรถให้เร็วที่สุดเพื่อดำเนินการแก้ไขต่อไป
นอกจากนี้อาจเกิดจากสายพานขับหรือท่อทางเดินต่างๆ ที่หลุดออกจากข้อต่อและมีการเสียดสีกับชิ้นส่วนอื่นๆ สำหรับกรณีนี้ควรจอดรถให้สนิท ไม่ควรเปิดฝากระโปรงรถทันทีเพราะตัวเครื่องยนต์ยังร้อนอยู่ จากนั้นโทรตามช่างหรือนำรถเข้าตรวจสอบที่อู่หาต้นเหตุของกลิ่นไหม้ต่อไป
2. กลิ่นพรมไหม้
กลิ่นแบบนี้อาจหมายถึงระบบเบรกของคุณกำลังมีปัญหาอยู่ก็ได้ เพื่อความปลอดภัยควรตรวจเช็คระบบเบรกทันที จากนั้นจึงเรียกช่างหรือแวะรถเข้าอู่เพื่อทำการซ่อม อย่าได้ฝืนขับต่อโดยเฉพาะทางไกลๆเด็ดขาด เพราะคุณอาจเจอกับอาการเบรกแตกได้ ซึ่งก็เป็นอันตรายไม่น้อยเลยทีเดียว
3. น้ำมันเบนซิน
เป็นกลิ่นที่อันตรายมากอีกกลิ่นหนึ่ง เพราะเป็นสัญญาณบ่งบอกว่ามีน้ำมันรั่วจากส่วนใดส่วนหนึ่งของรถ อาจเป็นสายหัวฉีดเชื้อเพลิงรั่ว ถังน้ำมันรั่ว น้ำมันเพาเวอร์รั่ว ซีล+ฝาเติมน้ำมันรั่ว ก็ได้
ซึ่งหากได้กลิ่นให้รีบจอดเรียกช่างหรือแวะอู่ซ่อมรถเพื่อทำการซ่อม อย่าได้ฝืนขับรถต่อไปนานๆ แบบนี้รถอาจลุกไหม้มีประกายไฟได้
4. กลิ่นน้ำมันร้อน
กลิ่นแบบนี้อาจหมายถึงน้ำมันเครื่องไหลเข้าสู่ระบบไอเสียจนเกิดกลิ่น อาจตรวจสอบได้ด้วยการมองหาน้ำมันเครื่องที่รั่วลงพื้นหรือควันที่อาจลอยขึ้นจากห้องเครื่องยนต์ จากนั้นค่อยโทรเรียกช่างหรือขับรถไปอู่ที่ใกล้ที่สุด ไม่ควรฝืนขับต่อในระยะทางไกลเช่นกัน เพราะอันตรายอาจเกิดขึ้นได้เสมอ ดังนั้น ควรทำการตรวจเช็คกลิ่นผิดปกติดังกล่าวและซ่อแซมให้เรียบร้อยเพื่อความปลอดภัยก่อนดีกว่า
5. กลิ่นหวาน
หากรถของคุณมีกลิ่นคล้ายกับน้ำเชื่อมไซรัพ แบบนี้อาจบ่งบอกว่ามีน้ำยาทำความเย็นรั่วไหลออกจากเครื่องยนต์หรือระบบทำความเย็นของตัวรถคุณแล้ว แวะร้านซ่อมแอร์รถยนต์หน่อยดีไหม เพราะถึงแม้ว่าจะไม่เป็นอันตราย แต่ก็ส่งผลต่อระบบการทำงานของรถไม่น้อยเลยทีเดียว ดังนั้นจึงไม่ควรนิ่งนอนใจเช่นกัน
6. กลิ่นไข่เน่า
อาการเหม็นหนักมากแบบนี้อาจบ่งบอกปัญหาที่เกิดขึ้นกับท่อคาทาไลติก คอนเวอร์เตอร์ รวมไปถึงสัญญาณว่าเครื่องยนต์ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ เข้าอู่ซ่อมรถโดยด่วนเพราะหากปล่อยไว้ก็อาจจะทำให้ระบบเครื่องยนต์มีปัญหาและต้องซ่อมในราคาที่แพงขึ้นได้นั่นเอง เอาเป็นว่ายอมเสียน้อยดีกว่าเสียมาก เพราะเข้าร้านซ่อมวันนี้จ่ายเพียงไม่กี่บาท แต่หากรอให้รถเสียก็อาจต้องเสียค่าซ่อมหลักหมื่นได้เลยทีเดียว
บอกเลยว่า อาการเหม็นของรถไม่ธรรมดา ดังนั้น เมื่อเจอกลิ่นแปลกๆ เมื่อไหร่ รีบพารถเข้าเช็คอู่ซ่อมรถด่วนๆ เพื่อเป็นการป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นปัญหารถเสียที่ทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น หรืออันตรายจากอุบัติเหตุในการใช้รถก็ตาม
อย่างไรก็ตาม อย่าลืมซื้อประกันรถยนต์ที่พร้อมดูแลคุณทุกเส้นทาง ซื้อง่าย ไม่ซับซ้อน ราคาดี และเชื่อใจได้ต้อง Roojai.com ประกันรถออนไลน์ รู้ใจกว่า ประหยัดกว่า