ไม่ว่าจะเป็นรถเก่าหรือรถใหม่ เจ้าของมักจะใส่เรื่องดูแลรถ โดยเฉพาะสีของตัวรถมากเป็นพิเศษ อาธิเช่น จะล้างรถต้องหาคาร์แคร์ที่ใส่ใจไว้วางใจได้ ไม่ทำให้สีรถเป็นรอย ล้างแล้วดูสดใสอยู่เสมอ หรือเจ้าของรถบางท่านลงทุนล้างด้วยตัวเอง ก็ต้องหาแว็กซ์ หรือเคลือบเงา มาบรรจงขัดดูแลรถของตัวเองให้ใหม่เอี่ยมตลอดเวลา จนบางครั้งต้องลงทุนเสียเงินเพื่อเข้าศูนย์ขัดสีเคลือบเงากันบ้างเป็นครั้งคราว แต่สาเหตุของการเสื่อมสภาพของสีรถยนต์นั้นส่วนมากอยู่ใกล้ตัวเรานี่เอง
วันนี้ Roojai.com ขอเตือน 5 ภัยควรระวัง ที่จะมาทำร้ายสีรถยนต์ของเราได้
การจอดรถกลางแจ้ง เป็นสาเหตุอันดับต้นๆ ที่สำคัญหลีกเลี่ยงได้ยาก ขับรถจากบ้านมาที่ทำงานประมาณ 1 ชั่วโมง แต่ต้องทิ้งรถตากแดดไว้ประมาณ 6-7 ชั่วโมง เป็นเรื่องน่าเศร้าของคนรักรถจริงๆ ความร้อนของแสงแดดนั้นจะสะสมในพื้นผิวของตัวรถยนต์ จะมากน้อยแค่ไหนนั้นก็ขึ้นอยู่กับสีรถด้วย ถ้าเป็นรถยนต์ที่สีอ่อนๆ ก็มีการสะสมน้อยลง แต่ถ้าเป็นสีรถเข้มๆ อย่างสีดำ ดึงดูดความร้อนได้ดียิ่งนัก อุณหภูมิสะสมย่อมมีมาก การเสื่อมสภาพของสีรถนั้นจะยิ่งไปเร็วกว่า วิธีป้องกันง่ายๆ หาผ้ามาคลุมรถลดการสัมผัสของสีรถยนต์กับแสงแดดโดยตรง หรือหามุมจอดที่โดนแดดน้อยที่สุดในแต่ละวัน ว่ากันง่ายๆ ลดชั่วโมงการที่รถยนต์ของคุณต้องตากแดดให้น้อยที่สุด
ฝุ่น เป็นอีกหนึ่งภัยร้าย และจะเป็นต้นเรื่องของหลายสาเหตุที่ทำลายสีรถคุณ ไม่ว่าจะเป็นฝุ่นประเภทไหนแต่ในที่นี้คือผงคล้ายๆ แป้งที่จะมาเกาะบนสีรถเรา พอเจอความชื้นก็จะกลายเป็นคราบ ถ้าไม่เช็ดออกทันที จะเกาะติดจนเกิดเป็นรอยที่สีด่างที่สีรถยนต์ได้ แต่แก้ไขได้ โดยการขัดสีก็จะออก รถสีอ่อนๆ จะเห็นไม่ค่อยชัด แต่ถ้าเป็นรถยนต์ที่สีเข้มๆ จะเห็นชัดมากกว่า
รอยขีดข่วน หลายคนคงคิดว่ารอยขีดข่วนเพียงนิดเดียวคงไม่มีปัญหาอะไร แต่หารู้ไม่การที่ผิวหน้าของสีรถยนต์ที่มีตัวเคลือบอยู่ เพื่อป้องกันความชื้นเข้าไปถึงส่วนที่เป็นโลหะหรือแผ่นเหล็กนั้นถูกเปิดออก จะทำให้มีความชื้นเข้าไปสะสมก่อให้เกิดสนิมภายในโดยเราไม่รู้ตัว พอความชื้น เป็นสนิม เจอความร้อนจากการใช้งานเข้าไปอีก บรรดาสีเคลือบทั้งหลายจะเกิดอาการพื้นผิวสีปูดขึ้นมา เพราะจากสนิมเกาะกินเนื้อเหล็กชั้นในแล้ว
ขี้นก นอกจากจะน่ารังเกียจแล้วยังสามารถทิ้งคราบสกปรกติดทนนานบนสีรถด้วย อาหารสุดโปรดของเจ้านกน้อยทั้งหลายสามารถทิ้งคราบที่มีฤทธิ์เป็นกรด ผนวกกับเมล็ดขนาดเล็กที่สามารถทิ้งคราบและรอยขีดข่วนบนรถจนความแวววาวหายไป หากทิ้งคราบไว้นานจนเกินไป ถ้าเจอปัญหาจุกจิกแบบนี้ให้พ่นสเปรย์ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดลงไปเล็กน้อยบนรอยขี้นก และใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ขจัดคราบสกปรก โดยค่อยๆ ใช้ผ้าแตะออกเบาๆ เพื่อป้องกันไม่ให้กรวดเล็กๆ จากขี้นกถูกลากไปมาบนสีรถ
คราบน้ำมัน ทุกคนอยากจะใช้เงินทุกบาททุกสตางค์ให้คุ้มค่าเวลาเติมน้ำมัน แต่การเติมน้ำมันจนเกือบล้นเป็นการเพิ่มโอกาสให้น้ำมันล้นจนหกออกมาเปื้อนรถ หากทิ้งคราบน้ำมันสกปรกไว้เป็นระยะเวลานานโดยไม่เช็ดทำความสะอาด รอยน้ำมันสามารถซึมเปื้อนลงสู่สีเคลือบชั้นบนสุดและทำให้สูญเสียความแวววาว และทิ้งคราบที่ยากต่อการทำความสะอาด วิธีป้องกันคราบน้ำมันสีน้ำตาลรอบๆ ฝาถังน้ำมัน ในกรณีทีทำน้ำมันหกเลอะด้านข้างของรถ ควรทำความสะอาดโดยทันทีด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์คุณภาพดี และสามารถใช้สเปรย์เพิ่มความเงางามปิดท้าย
ดูแลสีรถแล้ว อย่าลืมดูแลประกันรถยนต์ด้วย เลือกประกันชั้น 1 เพื่อความคุ้มครองที่มากที่สุด Roojai.com มีอู่ซ่อมและทำสีรถที่ไว้ใจได้ การันตีคุณภาพงานซ่อมถึง 12 เดือน