รถขับเคลื่อน 2 ล้อ กับ 4 ล้อ ต่างกันยังไง? วิธีเลือกให้ตอบโจทย์

ถ้าจะซื้อรถใหม่สักคัน ท่ามกลางรุ่นรถและออปชันล้นมากมายให้คุณเลือก จุดสำคัญในการขับขี่ที่ยุคนี้มีให้เลือกหลายรุ่นคือ ระบบขับเคลื่อน ที่ในปัจจุบันก็มีให้เห็นอยู่บ่อย ๆ ระหว่างรถขับเคลื่อน 2 ล้อ กับ 4 ล้อ แล้วทั้ง 2 แบบนี้ต่างกันยังไง มีข้อดีและข้อจำกัดเป็นแบบไหน ควรเลือกแบบไหนให้เหมาะกับการใช้งานของคุณมากที่สุด รู้ใจลิสต์คำตอบมาให้แล้ว ทำความรู้จักก่อนซื้อรถใหม่หรือซื้อรถคันแรกกันเลยดีกว่า

สนใจอ่านแค่บางเรื่อง ก็เลือกได้เลย!

• รถขับเคลื่อน 2 ล้อ คืออะไร?
• รถขับเคลื่อน 4 ล้อ คืออะไร?
• ข้อดีและข้อจำกัดของรถขับเคลื่อน 2 ล้อ กับ 4 ล้อ มีอะไรบ้าง?
• เลือกระบบขับเคลื่อนแบบไหนให้เหมาะกับคุณ?

รถขับเคลื่อน 2 ล้อ คืออะไร?

รถขับเคลื่อน 2 ล้อ หรือ 2WD คือ ระบบที่ส่งกำลังไปยังล้อคู่หน้าหรือหลัง เพื่อใช้ในการขับเคลื่อน สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามการใช้งาน ส่วนใหญ่นิยมใช้ในเมืองหรือวิ่งบนถนนเรียบ ซึ่งแบ่งออกได้ 2 ประเภท ดังนี้ 

1. ระบบขับเคลื่อนด้วยล้อหน้า – FWD

FWD ย่อมาจาก Front Wheel Drive หมายถึง ระบบขับเคลื่อนด้วยล้อหน้า มาพร้อมกับประสิทธิภาพการขับเคลื่อนที่ดีกว่า เพราะน้ำหนักเครื่องยนต์ทรงตัวอยู่เหนือล้อหน้า ทำให้ยึดเกาะถนนและทรงตัวได้ดี มอบสมรรถนะในการเร่งที่ดี ไม่ว่าจะขับขึ้นทางลาดชันหรือขับบนผิวถนนที่เปียกลื่น เนื่องจากแรงม้าถูกส่งมาจากเครื่องยนต์สู่ล้อหน้าโดยตรง

2. ระบบขับเคลื่อนด้วยล้อหลัง – RWD

RWD ย่อมาจาก Rear Wheel Drive หมายถึง ระบบขับเคลื่อนด้วยล้อหลัง เหมาะสำหรับรถบรรทุกน้ำหนัก เนื่องจากควบคุมการขับเคลื่อนโดยการกระจายความสมดุลอย่างทั่วถึง ทำให้เกิดประสิทธิภาพในการขับขี่สูงสุด ส่วนมากรถที่ใช้ระบบนี้จะเป็นรถกระบะ, รถ SUV และรถยนต์สมรรถนะสูง

รถขับเคลื่อน 4 ล้อ คืออะไร?

รถขับเคลื่อน 4 ล้อ หรือ 4WD คือ ระบบที่ออกแบบให้เครื่องยนต์กระจายกำลังไปทั้ง 4 ล้อ ตามอัตราส่วนของแรงเสียดทานและรูปแบบการขับขี่ สามารถเพิ่มอัตราทดเกียร์ได้ ทำให้สามารถยึดเกาะถนนได้ดีกว่า เหมาะสำหรับการใช้งานสมบุกสมบัน เส้นทางวิบาก ถนนแบบออฟโรด หรือขับรถขึ้นเขาสูงชัน โดยรถขับเคลื่อน 4 ล้อ ขนาดเล็ก มีให้เลือกหลากหลายแบบ ผู้ขับขี่สามารถเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสม ไปดูกันเลยว่า รถขับเคลื่อน 4 ล้อ มีรุ่นไหนบ้าง

1. 4WD Part-Time

ระบบนี้ทั่วไปจะทำงานแบบ 2WD สำหรับการใช้งานบนถนนทางเรียบ แต่ถ้าจะเปลี่ยนไปขับบนเส้นทางที่ขรุขระ สามารถสลับมาใช้ระบบ 4WD ได้ สลับใช้งานแบบนี้ตามสภาพถนนที่แตกต่างกัน เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นต่อระบบขับเคลื่อน

2. 4WD Full-Time

ระบบนี้จะส่งกำลังไปยังล้อทั้ง 4 ตลอดเวลา โดยมีการแปรผันแรงที่ล้อต่าง ๆ ตามรูปแบบการขับขี่ หรือสภาพถนนที่เปลี่ยนแปลงไป ไม่สามารถเปลี่ยนระบบส่งกำลังได้ ส่งผลให้ระบบนี้กินน้ำมันมากกว่ารถรุ่นที่ขับเคลื่อน 2 ล้อ 

3. 4WD Real-Time

สามารถเปิด-ปิดการทำงานได้อย่างเดียว ไม่สามารถเลือกโหมดตั้งแต่แรกได้ และไม่ได้เน้นการใช้ถนนที่สมบุกสมบันมากเท่าไหร่ โดยปกติจะใช้การขับเคลื่อน 2 ล้อเป็นหลัก แต่ถ้าหากเกิดสถานการณ์รถลื่นไถล ระบบจะส่งกำลังมาที่ล้อหลัง เปลี่ยนเป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ เมื่อกลับมาอยู่ในสภาวะปกติ ระบบก็จะกลับไปใช้งานแบบขับเคลื่อน 2 ล้อดังเดิม 

ข้อดีและข้อจำกัดของรถขับเคลื่อน 2 ล้อ กับ 4 ล้อ มีอะไรบ้าง?

หลังจากที่ได้รู้แล้วว่ารถขับเคลื่อน 2 ล้อ กับ 4 ล้อมีอะไรบ้าง แต่ก็ยังสับสนและยังไม่รู้แบบไหนดีที่สุด ถ้าอย่างนั้นลองเปรียบเทียบข้อดีและข้อจำกัดของทั้ง 2 แบบกันดีกว่า เพื่อให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น 

ระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ

• ข้อดีของระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไป ให้การขับเคลื่อนที่นุ่มนวล และประหยัดน้ำมันมากกว่า ที่สำคัญมีค่าบำรุงรักษาที่ถูกว่า เนื่องจากการขับเคลื่อนไม่ซับซ้อน
• ข้อจำกัดของระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ คือ เมื่อใช้ความเร็วสูงอาจให้การทรงตัวที่ด้อยกว่าระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ อาจทำให้ท้ายรถเกิดอาการปัด เนื่องจากน้ำหนักทุกอย่างลงไปอยู่ด้านหน้าหมด ซึ่งอาจเกิดอันตรายจากการเข้าโค้งแรง ๆ ได้

ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ

• ข้อดีของระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ คือ มีกำลังการขับเคลื่อนได้ทุกสภาพถนน ให้การยึดเกาะและมีประสิทธิภาพการขับขี่ดีที่ดีกว่า ไม่ว่าจะขับรถขึ้นเขา หรือใช้งานแบบลุย ๆ ก็ตอบโจทย์ เนื่องจากออกแบบให้เครื่องยนต์กระจายน้ำหนักไปทั้ง 4 ล้อ เมื่อใช้ความเร็วหรือเข้าโค้งก็จะทำให้ควบคุมได้ดีกว่า เพราะมีการทำงานครบทุกล้อนั่นเอง
• ข้อจำกัดของระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ หลัก ๆ เลยก็คือระบบขับเคลื่อนนี้กินน้ำมันมากกว่า เพราะใช้การขับเคลื่อนทั้งหมด 4 ล้อ แถมยังมีค่าบำรุงรักษาที่แพงกว่า เนื่องจากระบบมีความซับซ้อนมากกว่า ที่สำคัญซ่อมค่อนข้างยาก

แต่ไม่ว่าคุณจะเลือกระบบขับเคลื่อนแบบไหนก็ตาม หนึ่งในสิ่งที่ปล่อยผ่านไม่ได้อีกหนึ่งอย่างก็คือ “ประกันภัยรถยนต์” เพราะอุบัติเหตุสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา แม้ว่ารถขับเคลื่อน 2 ล้อ กับ 4 ล้อ จะตอบโจทย์การขับขี่ได้มากแค่ไหนก็ตาม ที่รู้ใจมีประกันรถที่ปรับแต่งแผนได้ตามใจ เหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์ เช็คเบี้ยฟรีไม่ต้องใส่เบอร์โทร และยังลดสูงสุด 30%

เลือกระบบขับเคลื่อนแบบไหนให้เหมาะกับคุณ?

ประเด็นหลัก ๆ ที่หลายคนยังหาคำตอบไม่ได้ คือ รถขับเคลื่อน 2 ล้อ กับ 4 ล้อ ควรเลือกแบบไหนดี ถึงจะตอบโจทย์มากที่สุด บอกไว้ก่อนเลยว่าก่อนจะเลือกระบบขับเคลื่อน ควรพิจารณาไลฟ์สไตล์การใช้งานหลักของตัวเองให้ดีก่อน เพราะระบบทั้ง 2 ประเภท ถูกออกแบบมาเพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งานที่แตกต่างกัน 

นอกจากนี้ยังควรมองในเรื่องของ “งบประมาณ” ที่ตอบโจทย์ด้วย ไม่ว่าจะซื้อรถใหม่หรือซื้อรถมือสองก็ตาม บางคนยึดคติ “เลือกตัวทอปไว้ก่อนดีที่สุด” เพราะมาพร้อมกับออปชันแบบจัดเต็ม ซึ่งคำว่าจัดเต็มที่ว่านั้นจำเป็นหรือไม่ คุ้มค่าส่วนต่างที่ต้องจ่ายเพิ่มหรือเปล่า ก็ต้องพิจารณากันให้ดีก่อน 

เชื่อว่าหลายคนที่กำลังมองหาข้อมูล เพื่อประกอบการตัดสินใจก่อนซื้อรถ คงได้คำตอบแล้วว่ารถขับเคลื่อน 2 ล้อ กับ 4 ล้อคืออะไร ต่างกันยังไง และจะต้องพิจารณาปัจจัยอะไรบ้าง เพื่อให้ได้ระบบขับเคลื่อนที่ตอบโจทย์มากที่สุด แต่ไม่ว่าคุณจะเลือกรถขับเคลื่อน 4 ล้อ ราคาถูก หรือใด ๆ ก็ตาม สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือประกันรถยนต์ เพราะมันจะช่วยคุ้มครองคุณจากความเสี่ยงบนท้องถนนได้เป็นอย่างดีนั่นเอง 

สามารถติดตามข่าวสาร สาระความรู้เกี่ยวกับสุขภาพ รถยนต์ มอเตอร์ไซค์ รวมถึงประกันภัยออนไลน์ต่าง ๆ จากรู้ใจได้ที่ Facebook Page: Roojai หรือคลิกที่นี่เพื่อเพิ่มเราเป็นเพื่อนใน LINE ได้เลย (Official Line ID: @roojai) 

คำจำกัดความ

แรงเสียดทาน	แรงที่เกิดขึ้นระหว่างผิวสัมผัสของวัตถุ เพื่อต้านการเคลื่อนที่ของวัตถุนั้น
อัตราทดเกียร์	อัตราส่วนของจำนวนฟันในเฟืองต่อจำนวนฟันในเฟืองท้าย โดยที่เฟืองท้ายจะมีขนาดเล็กกว่าเฟืองทั้งสองตัวที่ประกบกัน
สมบุกสมบัน	อาการที่ใช้โดยไม่ทะนุถนอม หรือไม่รักษา