สำหรับช่วงอัพเดทข่าวสารเรื่องราวของรถใหม่ ปี 2017 เราจะพาคุณไปทดสอบสมรรถนะรถกระบะพันธุ์แกร่งสไตล์มะกัน ที่เพิ่งทำการปรับโฉมไปหมาดๆ อย่าง เชฟโรเลต โคโลราโด ใหม่ รุ่นปรับโฉมกับการรีวิวกันแบบครบรสจากการขับทดสอบทั้งแบบ On Road และ Off Road ให้รู้กันไปเลยว่า โคโลราโด ใหม่ มีอะไรเด่นๆ ต่างจากรุ่นเดิมบ้าง
เชฟโรเลต โคโลราโด ใหม่ เปิดตัวอย่างเป็นทางการต่อสาธารณะชนไปเมื่อวันที่ 28 เมษายนที่ผ่านมา ก่อนจะเผยราคาค่าตัวในช่วงเดือนกรกฏาคม ซึ่งมีให้เลือกทั้งหมด 13 รุ่นย่อย ตั้งแต่รุ่นล่างสุด 4×2 LS Extended cab เกียร์ธรรมดา ราคาค่าเริ่มต้นที่ 5.94 แสนบาท ไปจนถึง 1.068 ล้านบาทในตัวท็อปรุ่น 4×4 High Country คันที่เราได้ทดสอบในครั้งนี้
Design & Interior
สำหรับรูปลักษณ์ภายนอกของ เชฟโรเลต โคโลราโด ใหม่ ดูโดดเด่นมากขึ้นที่ด้านหน้า ซึ่งออกแบบใหม่หมด ตั้งแต่ไฟหน้าดีไซน์พริ้วที่เพิ่มไฟ LED Daytime Running light แบบเส้นโค้งมาให้ พร้อมกระจังหน้าแบบ 2 ชั้นดีไซน์ใหม่ ซึ่งเพิ่มเติมความหรูหราด้วยวัสดุโครเมี่ยม รับกับกันชนหน้าใหม่พร้อมไฟตัดหมอกได้อย่างลงตัว ด้านข้างยังคงความแข็งแกร่งบึกบึนดูไม่แตกต่างจากรุ่นเดิมนัก โดยมีล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ลายใหม่ พร้อมยางขนาด 265/60R18 ที่ช่วยให้ดูหล่อขึ้นเล็กน้อย
โคโลราโด ใหม่ มีมิติตัวถังที่ยาวขึ้น 48 มม.และสูงกว่าเดิม 60 มม. บนระยะฐานล้อเท่าเดิม และเพิ่มประสิทธิภาพในการลุยผ่านน้ำได้สูงสุด 800 ซม. นอกจากนี้ในรุ่น High Country ยังมีชุดแต่งเสริมหล่อรอบคันชุดแร็คหลังคา และสปอร์ตบาร์ที่ด้านหลังกระบะและปิดท้ายด้วยของเล่นใหม่อย่างกุญแจรีโมทสตาร์ทเครื่องยนต์ ที่สามารถกดปุ่มเพื่อสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมเปิดแอร์และลดกระจกลงเพื่อระบายความร้อนได้จากภายนอกรถ ซึ่ง โคโลราโด ใหม่ ถือเป็นรถกระบะเจ้าแรกที่มีฟังชั่นนี้มาให้ใช้กัน
ส่วนห้องโดยสารนั้นมองเผินๆ แล้วดูไม่ต่างจากเดิมมากนัก ไม่ว่าจะเป็นเส้นสายที่เน้นความแข็งแกร่งสไตล์มะกัน โดยเฉพาะที่คอนโซลหน้าและพวงมาลัย 3 แบบมัลติฟังก์ชั่น ผสมผสานเข้ากับความหรูหราของเบาะหนังปรับไฟฟ้าสีน้ำตาลและลวดลายของชิ้นโครเมี่ยมที่ประดับอยู่ตามจุดต่างๆ ซึ่งให้ความรู้สึกที่กว้างขวางสะดวกสบายไม่แตกต่างไปจากรุ่นเดิมมากนัก แต่ในเรื่องของออพชั่นนั้นถือว่าตระการตาเลยทีเดียว
#เบาะหนัง จะอยู่กับคุณไปตราบนานเท่านาน ถ้าดูแลมันดีๆ “รู้ใจดอทคอม” ประกันรถออนไลน์ มีเทคนิคมาฝาก เคล็ดลับการดูแลเบาะหนังให้ดูดีไปนานๆ
โดยเฉพาะระบบเชื่อมต่อการสื่อสารและความบันเทิง Chevrolet My link พร้อมหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว ที่นอกจากจะใช้ฟังเพลงและเป็นจอแสดงภาพจากกล้องมองหลังได้อย่างคมชัดแล้ว ยังรองรับระบบ Apple Car play และ Siri ไว้เชื่อมต่อกับ iPhone ได้อีกด้วย เช่นเดียวกับมาตรวัดที่เพิ่มเติมแสงสีให้ดูทันสมัยพร้อมจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ ซึ่งมีจอแสดงค่าแรงดันลมยางทั้ง 4 ล้อเพิ่มมาให้ด้วย ขาดเพียงปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์เท่านั้นที่ไม่มีใน โคโลราโด ใหม่คันนี้
Engine & Performance
ในด้านของพละกำลังนั้น โคโลราโด ใหม่ เปลี่ยนมาใช้เครื่องยนต์ดีเซลคอมมอลเรล เทอร์โบแปรผัน VGT ความจุ 2.5 ลิตร แทนที่เครื่องบล็อก 2.8 ลิตรเดิม พร้อมตัวเลขพละกำลังสูงสุด 180 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที และให้แรงบิดสูงสุดถึง 400 นิวตันเมตร ที่ 2,000 รอบ/นาที ส่งกำลังทั้งหมดผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ที่มีการปรับอัตราทดใหม่เพื่อเพิ่มสมรรถนะและช่วยให้ประหยัดขึ้นกว่าเดิมอีก 5% อีกด้วย แม้เครื่องยนต์ใหม่จะมีปริมาตรความจุที่ลดลง แต่ถือว่าให้การตอบสนองการขับขี่ที่นุ่มนวลมากขึ้น พร้อมเสียงรบกวนน้อยลงจากการติดตั้งวัสดุดูดซับเสียงและเปลี่ยนยางรองแท่นเครื่องแบบใหม่ที่ช่วยลดแรงสั่นสะเทือนได้ดีขึ้น
ซึ่งจากที่ได้ลองขับบนทางเรียบบนถนนพระราม 2 มุ่งหน้าสู่ จ.ราชบุรี เชฟโรเลต โคโลราโด ใหม่ ให้อัตราเร่งช่วงออกตัวแม้จะไม่ดุเดือดเท่าเครื่อง 2.8 ลิตร แต่ก็ไม่ถือว่าอืดอาดจนเกินรับได้ ก่อนจะแสดงพลังเพื่อทำความเร็วต่อเนื่องได้รวดเร็วขึ้นในช่วงความเร็วกลาง รวมถึงจังหวะเร่งแซงที่สั่งได้กดแล้วมาแบบไม่ต้องรอรอบ เสียอย่างเดียวที่ความต่อเนื่องของเกียร์ที่ยังทำได้ไม่ดี มีจังหวะลังเลในช่วงเปลี่ยนเกียร์ให้รู้สึกได้ในบางจังหวะ ดีที่เครื่องยนต์ทำงานได้ดีและใช้รอบต่ำในแต่ละช่วงความเร็ว ซึ่งส่งผลให้ โคโลราโด ใหม่ คันนี้ประหยัดได้มากขึ้นได้อย่างที่เคลมไว้ไม่ยาก
Handling & Brake
ในด้านของระบบกันสะเทือนและการบังคับควบคุมนั้น สิ่งแรกที่สัมผัสได้คือพวงมาลัยไฟฟ้า (EPS) ใหม่ ที่ให้ความคล่องตัวและน้ำหนักที่เบามือมากขึ้นกว่ารุ่นเดิมเยอะมาก ยิ่งตอนที่รถติดหรือเวลาขับขึ้นลานจอดรถหลายๆ ชั้นนั้นงานนี้ไม่ต้องสาวพวงมาลัยกันจนกล้ามขึ้นอีกต่อไป ช่วงทางไกลที่ใช้ความเร็วมากขึ้นนั้น ถึงแม้จะมีแรงหน่วงน้ำหนักให้รู้สึกตึงมือและให้ความมั่นคงเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกับช่วงล่างที่เซ็ตมาในทิศทางเดียวกัน เน้นที่ความนุ่มนวลและนั่งสบายซึ่งทำได้ดีกว่ารุ่นเดิม ทำให้การขับรถกระบะระยะทางไกลๆ นั้นเหนื่อยน้อยลง
สำหรับการขับแบบลุยทั้งโหมดขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 4 ล้อ ผ่านด่านทดสอบที่ค่อนข้างโหด ทั้ง หลุมบ่อ เนินชัน ดินโคลน จนถึงลำธารน้อยใหญ่ นั้น โคโลราโด ใหม่ พาเราลุยฝ่าไปได้อย่างไม่ยากเย็น ไม่ว่าจะขึ้นเขาลงห้วย โคโลราโด ใหม่ก็พาเราผ่านไปได้ ใช้เพียง 2 ล้อหลังเป็นตัวขับเคลื่อนก็ไปได้เกือบหมดถ้าเส้นทางไม่โหดเกินไปนัก แต่เมื่อลองปรับมาเป็นโหมด 4H ที่ความเร็วไม่เกิน 100 กม./ชม. โดยไม่ต้องหยุดรถ ช่วยเพิ่มความมั่นใจยิ่งขึ้น สามารถขับลุยพื้นโคลนและพื้นหินขรุขระที่ลื่นเอาเรื่องได้นิ่งและแน่นตลลอดทาง ส่วนในโหมด 4L นั้นถือว่าช่วยเพิ่มสมรรถนะในการปีนป่ายเนินชันและหลุมลึกและถ่ายเทกำลังได้อย่างราบรื่นจนผ่านอุปสรรคทั้งหมดขึ้นไปถึงจุดชมวิวบนเขาสูงของจุดชมวิวโป่งแห้ง อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรีได้สำเร็จ
Safety & Function
สุดท้ายคือเรื่องของความปลอดภัยที่ค่ายรถยนต์เริ่มให้ความสำคัญเพิ่มมากขึ้นสำหรับกระบะ นอกเหนือจากระบบความปลอดภัยพื้นฐานที่มีอยู่เดิมแล้ว เชฟโรเลต ได้อัพเกรดระบบช่วยการขับขี่มาให้ใน โคโลราโด ใหม่แบบจัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็นระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HDC ระบบป้องกันการไหลเมื่อขึ้นทางชัน HSA ไปจนถึงระบบป้องกันการพลิกคว่ำ ARP และไฮไลท์เด่นอีก 2 ระบบ คือระบบแจ้งเตือนเมื่อรถออกนอกเส้นทาง (Lane Departure Warning) และระบบแจ้งเตือนการชนด้านหน้า (Forward Collusion Alert) ที่มีเรดาร์คอยตรวจจับระยะห่างและคอยเตือนให้อยู่ในระยะที่ปลอดภัยซึ่งจะเริ่มทำงานตั้งแต่จากความเร็ว 40 กม./ชม. เสียอย่างเดียวที่ไม่มีระบบเตือนรถในจุดบอดที่กระจกมองข้างมาให้ไม่งั้นครบ
Tester Verdict
สรุปแล้ว เชฟโลเรต โคโลราโด ใหม่ นั้นได้เปรียบคู่แข่งในเรื่องของความสด และออพชั่นเด่นๆ อย่างรีโมทสตาร์ท กับระบบเชื่อมต่อแบบ Chevrolet My link และ Apple Car Play ซึ่งเป็นจุดขายที่ไม่มีในคู่แข่ง รวมถึงการขับขี่ที่ง่ายและคล่องตัวพร้อมความปลอดภัยระดับพรีเมี่ยมที่เป็นตัวทำคะแนนให้กับ โคโลราโด ใหม่ ได้ไม่ใช่น้อย
แต่การจะก้าวขึ้นมาเป็นสุดยอดรถกระบะในตลาดบ้านเราซึ่งมีการแข่งขันค่อนข้างสูงนั้นมันจะต้องมีความโดดเด่น คุ้มค่า และครบเครื่องมากกว่านี้อีกนิด ถ้าลองปรับเกียร์ให้สมูทขึ้นอีกนิดและเพิ่มฟังชั่นที่ยังเป็นรองคู่แข่งอยู่อีกหน่อย เท่านี้ก็น่าจะผ่านด่านคู่แข่งในกลุ่มรถกระบะสายแข็งค่าตัวทะลุล้านไปได้ไม่ยากเย็น
โคโลราโด ใหม่ กระบะเท่ๆ แบบนี้ ต้องมีประกันหล่อๆ อยู่เคียงข้าง ให้ “รู้ใจ” ประกันภัยรถยนต์ออนไลน์ อยู่เคียงข้างด้วย ประกันภัยชั้น 1 แบบสบายๆ แบ่งชำระเบาๆ ดอกเบี้ย 0% 10 เดือน เริ่มคุ้มครองทันที การันตีถึงที่เกิดเหตุภายใน 30 นาที พร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉินกรณีรถเสีย ฟรี 1 ปี คลิก เช็คเบี้ยประกัน และซื้อประกันชั้น 1 กับรู้ใจ.com เลยวันนี้