Roojai

4 ยี่ห้อรถเอนกประสงค์น่าจับตา รถญี่ปุ่นหรือรถยุโรป ใครมาแรง!

หลังจากกระแสรถอีโคคาร์เริ่มซาไป รถเอนกประสงค์ถือเป็นรถที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นมากที่สุดในตอนนี้ เนื่องจากความสามารถที่หลากหลายและครอบคลุมการใช้งานในชีวิตประจำวันได้มากยิ่งขึ้น

จากข่าวรถใหม่2016 รถที่มีแพลนจะเปิดตัวในปีนี้นั้นมีรถที่อยู่กลุ่มอเนกประสงค์อยู่หลายรุ่นด้วยกัน เช่น Chevrolet Trex, All New BMW X1 ,Ford Ecosport รุ่นใหม่เครื่องยนต์ Ecoboost ,Nissan Kicks ไปจนถึงรถแรงรถหรูจากค่าย Maserti ,Bentley และ Lamborghini ที่ร่วมขานรับและมีแผนจะเปิดตัวรถอเนกประสงค์กันเป็นแถว รวมถึงรถที่ได้รับความนิยมต่อเนื่องมาจากปีที่แล้ว ทั้งแบรนด์ดังฝั่งยุโรปและญี่ปุ่นที่มีให้เลือกมากมายหลายรุ่น ซึ่งเราจะโฟกัสไปที่กลุ่ม Crossover ที่กำลังเป็นกระแสอยู่ในขณะนี้

รถอเนกประสงค์ที่ฮ็อทข้ามปีจากแบรนด์ยุโรปนั้น ต้องยกให้กับคู่ชกตลอดกาลระหว่างค่าย BMW และ Mercedes-Benz  ซึ่งฝั่งค่ายใบพัดสีฟ้านั้นมี BMW X1 เป็นรถธงในคลาสนี้ที่พร้อมประชันกับ Benz GLA -Class

สำหรับ X1 ที่จ่อเปิดตัวโมเดลที่ 2 ช่วงต้นปีนี้ในบ้านเรา ส่วน GLA นั้นยังเป็นโฉมเก่าที่เปิดตัวตั้งแต่ปี 2014 ทางด้านรูปลักษณ์ภายนอก/ภายในและออฟชั่นต่างๆ เอ็กซ์1 ใหม่มาพร้อมกับภาพลักษณ์ของความเป็นรถยนต์ครอสโอเวอร์ขาลุยเพิ่มมากขึ้นจากรุ่นที่ผ่านมา ด้วยรูปร่างหน้าตาที่ได้รับการถ่ายทอดจากรุ่นพี่อย่างเอ็กซ์3 และเอ็กซ์5

X1 ยังมาพร้อมห้องโดยสารที่กว้างขวางขึ้นสำหรับผู้โดยสารและสัมภาระ แถมยังให้บรรยาการของห้องโดยสารภายในที่เยี่ยมยอดเหนือกว่าโฉมที่ผ่านมา พร้อมความสะดวกสบายที่เพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากการขยายห้องโดยสารให้สูงขึ้น 53 มิลลิเมตร และการขยับตำแหน่งของเบาะที่นั่งผู้โดยสารทั้ง 2 แถวเพิ่ม รวมถึงห้องโดยสารแบบปรับได้ที่ทำให้บรรทุกสัมภาระได้ถึง 1,550 ลิตร

ในขณะที่ GLA ซึ่งถือเป็นสมาชิกลำดับที่ 5 ในตระกูล SUV ซึ่งอิงโครงสร้างตัวถังมาจาก A-Class ซึ่งเข้ามาเติมเต็มรถยนต์ในกลุ่มคอมแพ็คคาร์ของ Mercedes ให้ดูหลากหลาย ด้วยการออกแบบตัวรถให้ดูทันสมัย คล่องแคล่ว ปราดเปรียว และปลอดภัย สามารถตอบสนองทุกความท้าทายของการขับขี่ได้เป็นอย่างดี ภายนอก ถูกออกแบบด้วยทรวดทรงสไตล์ออฟโรดที่สื่อถึงพลัง และความสุขุมได้อย่างชัดเจน       ในด้านของสมรรถนะนั้น BMW X1 ใหม่มีขุมพลังให้เลือกตั้งแต่เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบรุ่นใหม่ที่มีมาให้เลือก 2 และเครื่องยนต์ดีเซลอีก 3 รุ่น ที่ให้พละกำลังตั้งแต่ 150-231 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 6 สปีดหรือเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 2 ล้อหรือ 4 ล้อที่ได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่ และในรถรุ่นใหม่นี้ ยังมาพร้อมระบบจอแสดงผลเฮดอัพ ดิสเพลย์เป็นครั้งแรก รวมถึงระบบไดร์ฟวิ่ง แอสซิสต์แทนท์ พลัส ก็ติดตั้งมาด้วยเช่นกัน

ส่วน MB GLA นั้นมาพร้อมเครื่องยนต์ 4 สูบ ความจุกระบอกสูบ 1,595 ซีซี กำลังแรงม้าสูงสุดที่ 156 แรงม้า ที่ 5,300 รอบ/นาที มีแรงบิด 250 นิวตันเมตร ที่ความเร็วรอบ 1,250-4,000 ต่อนาที อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ที่ 8.8 วินาที ความเร็วสูงสุด 215 กม./ชม. และอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันอยู่ที่ 17 กม./ลิตร กับเครื่องยนต์บล็อก 2.0 ลิตรตัวแรงในรุ่น 250 AMG พร้อมพละกำลังสูงสุด 211 แรงม้า กับแรงบิดสูงสุดระดับ 350 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์ออโต้ 7G-DCT พร้อมระบบขับเคลื่อน 2 ล้อหน้า

ปิดท้ายด้วยสนนราคา GLA นั้นมีให้เลือก 2 รุ่น คือรุ่น GLA250 AMG ราคาที่ 2.44 ล้านบาท  และ รุ่น GLA200 Urban ราคา 2.09 ล้านบาท ส่วน BMW X1 นั้นคงต้องรอลุ้นราคาพร้อมการเปิดตัวในไม่ช้านี้ ซึ่งแน่นอนว่าราคาจะต้องถูกวางไว้ใกล้เคียงกับคู่แข่งอย่าง GLA แน่นอนอน         ส่วนทางค่ายรถฝั่งอาเซี่ยนซึ่งมีญี่ปุ่นเป็นตัวแทนหลักนั้น มีรถที่น่าสนใจอยู่มากมายหลายรุ่นด้วยกัน ถ้าเป็นพวก SUV ก็มีทั้ง Honda CR-V ,Nissan X-Trail และMazda CX-5 เป็นดาวเด่นในกลุ่มนี้ แต่ถ้าเป็นแบบ Crossover นั้นทั้ง 3 ค่ายนี้ยังคงขับเคี่ยวกันแบบไม่มีใครยอมใคร ซึ่งน้องใหม่อย่าง Mazda CX-3 และ Honda HR-V  เป็นคู่หลักและมี Nissan ที่กำลังจะเปิดตัวรถครอสโอเวอร์รุ่นใหม่อย่าง Nissan Kick ซึ่งจะสร้างความฮือฮาได้เหมือนกับ Nissan Juke หรือไม่ต้องคอยดูกันต่อไป

มาดูที่ HR-V กับ CX-3 คู่นี้ถึงแม้จึงเป็นรถคลาสเดียวกันแต่ถ้าพูดถึงความน่าสนใจแล้วทั้งคู่มีบุคลิกที่แตกต่างกันชัดเจน CX-3 เน้นภาพลักษณ์สปอร์ตที่มีกลุ่ม “YUCCIES” หรือ Young Urban Creatives เป้าหมายคือวัยรุ่นชัดเจน ส่วน HR-V จะได้เปรียบด้วยกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลายกว่าด้วยการนำเสนอความหรูหราสไตล์สปอร์ต

สำหรับดีไซน์ภายนอก Mazda CX-3 เปี่ยมด้วยความสดใหม่มากกว่าใครเพื่อนจึงเชื่อว่าจะกวาดยอดขายช่วงปลายปีได้มากพอสมควร มาสด้าส่งซีเอ็กซ์-3 ออกแบบภายนอกสะดุดตาด้วยเอกลักษณ์ดีไซน์โคโดะ คนที่ชื่นชอบเส้นสายพลิ้วปราดเปรียวแบบสปอร์ตย่อมถูกอกถูกใจเจ้าซีเอ็กซ์-3 แน่นอน โคมไฟหน้าและไฟตัดหมอกเป็นแบบ LED ล้อมีทั้งขนาด 18 นิ้วและ 16 นิ้ว

HR-V มาพร้อมรูปทรงที่เน้นความสปอร์ตแฝงด้วยความหรูหราซึ่งตรงตามตำแหน่งการตลาดที่วางไว้ว่าเป็นครอสโอเวอร์แบบ “สปอร์ต+พรีเมียม” มือจับเปิดประตูด้านท้ายซ่อนอยู่บริเวณเสาหลังคาหลังเพื่อให้ตัวรถดูปราดเปรียวยิ่งขึ้น อ็อปชั่นอันโดดเด่นของเอชอาร์-วีคือกรอบไฟหน้า LED พร้อมไฟเดย์ไลท์ LED และหลังคาซันรูฟไฟฟ้า ดีไซน์ในภาพรวมคล้ายรุ่นพี่อย่างซีอาร์-วีแต่เล็กกว่าและดู “เด็ก” กว่าชัดเจน

ภายในห้องโดยสาร CX-3 มีการออกแบบสไตล์เดียวกับมาสด้า 2 การตกแต่งเน้นใช้สีเข้มด้วยวัสดุหนัง เสริมความสะดุดตาด้วยสีแดงบางจุด เสียอย่างเดียวตรงพื้นที่โดยสารที่ค่อนข้างแคบ แน่นอนว่าทางมาสด้าไม่ลืมติดตั้ง MZD CONNECT ระบบเชื่อมต่อโลกของการสื่อสารในรถเอาใจคนรุ่นใหม่เต็มที่ ความปลอดภัยถือว่าครบครันด้วยแพ็คเกจ i-ACTIVSENSE ไม่ว่าจะเป็น ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ระบบปรับไฟหน้าสูงอัตโนมัติ ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง และระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติ

ส่วนห้องโดยสารของ HR-V จะคล้ายกับฮอนด้า แจ๊สซึ่งใช้พื้นฐานเดียวกันแต่ต่างกันที่รายละเอียดบางส่วน แผงคอนโซลเอียงเข้าหาคนขับซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของรถฮอนด้าเกือบทุกรุ่น การตกแต่งมีทั้งเบาะหนังและเบาะผ้าให้เลือกตามรุ่นย่อย บนคอนโซลมีหน้าจอทัชสกรีนขนาด 7 นิ้ว รองรับการสั่งงานด้วยเสียง Siri ช่องเชื่อมต่อ USB 2 จุด พร้อมช่องเชื่อมต่อ HDMI และช่องจ่ายไฟสำรอง เบรกมือไฟฟ้า เบาะหลังพับเก็บได้เพื่อเพิ่มเนื้อที่รองรับการบรรทุกสัมภาระซึ่งเป็นจุดเด่นในรถขนาดเล็กของฮอนด้า อ็อปชั่นของเอชอาร์-วีจัดเต็มที่สุด บรรยากาศภายในมีความหรูหรามากที่สุด แต่ก็ต้องแลกกับราคาค่าตัวที่สูงกว่าใครเพื่อน

ในด้านของขุมพลังนั้น CX-3 ดูจะได้เปรียบกว่าชัดเจนทั้งในด้านของเทคโนโลยีใหม่ SkyActiv ไปจนถึงความแรงของเครื่องยนต์ทั้งแบบเบนซินขนาด 2.0 ลิตร 156 แรงม้า พร้อมแรงบิด 204 นิวตันเมตร อัตราการประหยัดน้ำมันสูงถึง 16.4 กม./ลิตร พร้อมด้วยขุมพลังคลีนดีเซลสกายแอคทีฟ-ดี 1.5 ลิตร พลัง 105 แรงม้า แรงบิด 270 นิวตันเมตร ประหยัดน้ำมันที่ 23.3 กม./ลิตร ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติสกายแอคทีฟ-ไดรฟ์ 6 สปีด

ส่วน HR-V ที่ยังใช้เครื่อง 1.8 ลิตร iVTEC บล็อกเดียวกับ CIVIC แบบ 4 สูบ SOHC i-VTEC ที่ให้พละกำลังสูงสุดที่ 141 แรงม้า พร้อมแรงบิด 172 นิวตันเมตร ส่วนระบบส่งกำลังนั้นเป็นแบบ CVT พร้อมโหมด Paddle Shift 7 สปีด รองรับน้ำมัน E85 ขับเคลื่อนล้อหน้า เอชอาร์-วีจะตอบสนองการขับขี่ทางไกลได้ดีกว่า แถมยังรองรับอี85 ได้อีกด้วย

Honda HR-V ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 9.33 แสนบาท ไปจนถึงตัวท็อปที่ราคา 1.099 ล้านบาท ส่วน Mazda CX-3 นั้นมีให้เยอะกว่าโดยมีให้เลือกทั้งเบนซินและดีเซล ซึ่งมีราคาเริ่มต้นในรุ่นเบนซินที่ 8.35 แสนบาท ไปจนถึงตัวท็อปราคา 1.155 ล้านบาท ในรุ่นดีเซล

และนี่เป็นรถรถใหม่2016 ประเภทรถเอนกประสงค์ที่น่าสนใจทั้ง 4 รุ่น ที่กำลังจะมาแรงและเหมาะกับผู้ที่มองหารถประเภทนี้อยู่อย่างแน่นอน

เช็คเบี้ย ซื้อประกัน แจ้งเคลม ผ่านออนไลน์ 24 ชั่วโมง เช็คเบี้ยเลย! ที่ www.Roojai.com