ถ้าพูดถึงรถสำหรับวัยรุ่น หรือวัยทีนในบ้านเราในยุคนี้ คงไม่พ้นรถใหม่สไตล์แฮทช์แบ็ค ด้วยรูปทรงที่แฝงด้วยความเป็นสปอร์ตตรงกับเทรนด์ตามยุคสมัยนี้ ของแต่งหาง่ายตามท้องตลาดทั่วไป อีกทั้งค่าตัวนั้นไม่สูงมาก ลองมาดูรถยนต์ 5 ยี่ห้อ 5 รุ่นที่โดนใจวัยทีนในยุคนี้กัน
โตโยต้า ยาริส
โตโยต้า ยาริส โฉมใหม่มาในแบบอีโคคาร์ ออกแบบใหม่ในทุกมุม ทั้งด้านหน้า ด้านข้าง และด้านหลัง ตามหลักอากาศพลศาสตร์ มิติตัวรถมีความกว้างใหญ่มากยิ่งขึ้น ในขณะที่ความสูงถูกปรับลดต่ำลง รูปลักษณ์ดีไซน์สปอร์ตรอบคัน กระจังหน้าเชื่อมต่อกันชนหน้าด้วยลายเส้นรูปทรงสี่เหลี่ยมคางหมูแบบใหม่ ชุดไฟหน้า-หลังดีไซน์ใหม่ ตลอดจนคิ้วกันกระแทกด้านข้าง คิ้วฝากระโปรงท้าย และสปอยเลอร์หลังคา
ภายในของห้องโดยสารถูกออกแบบให้มีความกว้างขวางสะดวกสบาย มีปริมาตรความจุถึง 326 ลิตร สามารถเก็บสัมภาระได้มากกว่าเดิม ห้องโดยสารภายในโทนสีดำให้อารมณ์สปอร์ต มีการเลือกใช้วัสดุตกแต่งภายในที่มีคุณภาพ ดูหรูหราทันสมัย ดีไซน์ใหม่ทั้งหมด อาทิ แผงคอนโซลหน้าแบบสปอร์ตสี Dark Silver พวงมาลัยดีไซน์ใหม่ มาตรวัดแบบสปอร์ต แผงปรับอากาศดีไซน์ใหม่พร้อมระบบปรับอากาศอัตโนมัติ ตลอดจนอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอื่นๆ อีกมากมายที่ครบครัน
เครื่องยนต์ใหม่ขนาด 1200 ซีซี. 86 แรงม้าที่ถูกพัฒนาขึ้นสำหรับเมืองไทยโดยเฉพาะ โดยมีระบบวาล์วอัจฉริยะ Dual VVT-i ซึ่งจะปรับจังหวะเปิด – ปิดวาล์วไอดีและไอเสียแบบแปรผัน ประหยัดน้ำมันและช่วยลดมลพิษ ผ่านมาตรฐานไอเสีย ยูโร 4 ระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ Super CVT-I ที่ทำให้การเปลี่ยนเกียร์ต่อเนื่อง ให้อัตราเร่งที่นุ่มนวลราบรื่น พร้อมปรับระดับความเร็วรอบของเครื่องยนต์ให้คงอยู่ในรอบต่ำ แม้ในขณะเร่งความเร็ว พวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า EPS จะช่วยปรับเปลี่ยนน้ำหนักของพวงมาลัยอัตโนมัติให้เหมาะสมกับทุกความเร็ว ระบบกันสะเทือนหน้าแบบ แม็คเฟอร์สันสตรัทพร้อมเหล็กกันโคลง และระบบกันสะเทือนหลังแบบ ทอร์ชั่นบีมพร้อมเหล็กกันโคลง
ระบบมาตรฐานความปลอดภัยครบครัน ไม่ว่าจะเป็นถุงลมเสริมความปลอดภัยคู่หน้า SRS, ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS), ระบบกระจายแรงเบรก (EBD), ระบบเสริมแรงเบรก (BA) ช่วยเพิ่มแรงเบรกให้มากขึ้นในกรณีเบรกกระทันหัน เพื่อให้หยุดรถได้ในระยะที่สั้นกว่า ราคาเริ่มต้นที่ 469,000 บาท
ฮอนด้า แจ๊ซ
ฮอนด้า แจ๊ซ ใหม่ นับเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 3 ของรถยนต์ซับคอมแพ็กต์ตัวถังแฮทช์แบ็ก 5 ประตู ภายนอกโฉบเฉี่ยวทันสมัยด้วยการออกแบบแบบ Crossfade Monoform ไฟหน้ารูปทรงเพรียวบางแบบมัลติรีเฟล็กเตอร์ รวมชุดไฟเลี้ยวที่มาพร้อมกับเลนส์ใสรับกับกระจังหน้าทรงสปอร์ต ช่วยเพิ่มมิติความกว้าง โฉบเฉี่ยว สเกิร์ตข้างและสปอยเลอร์หลังสะดุดตา มาพร้อมไฟท้ายเป็นแบบ LED ที่ออกแบบให้เชื่อมไปยังฝากระโปรงท้ายที่ดูทันสมัยลงตัว
ภายในห้องโดยสารมาพร้อมเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในขณะขับขี่ ระบบพวงมาลัยแบบเพาเวอร์ไฟฟ้า EPS ใหม่ พร้อมปุ่มมัลติฟังก์ชั่นให้การควบคุมง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัส อาทิ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control) สวิตซ์ควบคุมเครื่องเสียงและปุ่มรับ-วางสายโทรศัทพ์บนพวงมาลัย สวิตซ์สั่งการด้วยเสียงผ่าน Siri และยังมีระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัยแบบ 7 สปีด (7-Speed Paddle Shift) มาให้อีกด้วย โดดเด่นด้วยระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว แบบ Advanced Touch ติดตั้งระบบรวมชุดเครื่องเสียงที่จะแสดงผ่านหน้าจอ LCD แบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว พร้อมข้อมูลในการขับขี่ และยังรองรับ HondaLink Navigation Application ที่สามารถเชื่อมต่อเข้ากับสมาร์ทโฟน ผ่าน Bluetooth, ช่องเชื่อมต่อ HDMI และ USB ได้ เรียกว่าใช้งานได้แบบครบๆ กับพวก Gadget ของเล่นไฮเทคใหม่ๆ ได้เลย
มาพร้อมเครื่องยนต์ 4 สูบ 16 วาล์ว i-VTEC ขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 117 แรงม้า แรงบิดสูงสุดที่ 146 นิวตัน-เมตรที่ 4,700 รอบต่อนาที พร้อมด้วยระบบเกียร์ CVT ใหม่ ภายใต้ Earth Dreams Technology ที่สามารถรองรับเชื้อเพลิงพลังงานทางเลือก E85
ระบบความปลอดภัยที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างตัวถังนิรภัย G-CON ระบบป้องกันล้อล็อก (ABS) พร้อมระบบกระจายแรงเบรกควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์ (EBD) ระบบควบคุมการทรงตัว (VSA) ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HSA) สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (ESS) ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง และกล้องส่องภาพด้านหลัง ปรับมุมมองได้ 3 ระดับ ด้วยสีและสไตล์เหมาะกับเป็นรถสำหรับวัยรุ่น ราคาเริ่มต้นที่ 555,000 บาท
มาสด้า2 Skyavtiv-G 1.3L
มาสด้าได้เปิดตัว มาสด้า 2 ใหม่ในรุ่น Skyavtiv-D 1.5 ลิตร เครื่องยนต์คลีนดีเซลออกมาทำตลาดก่อน ซึ่งก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี หลังจากนั้นจึงได้เปิดตัวมาสด้า 2 Skyavtiv-G 1.3L เครื่องยนต์เบนซินที่จะลงมาช่วยเสริมทัพในรถยนต์กลุ่มนี้ของมาสด้า มีระบบอำนวยความสะดวกมากมาย อาทิ กระจกไฟฟ้าทั้ง 4 บาน ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ เครื่องเสียงแบบหน้าจอสัมผัส การตกแต่งภายในเบาะนั่งจะเป็นแบบผ้าสีดำแดง และหนังในรุ่นท็อป คอนโซลหน้าจะเป็นแบบเรียบๆ สีดำด้าน ตกแต่งด้วยสีเงิน พวงมาลัยก็เป็นแบบมัลติฟังก์ชั่นสามารถควบคุมเครื่องเสียง และการแสดงข้อมูลต่างๆได้
เครื่องยนต์เบนซิน รุ่น Standard มาพร้อมเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 1300 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 93 แรงม้าที่ 5,800 รอบ แรงบิดสูงสุด 123 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบ ผ่านมาตรฐานมลพิษของยุโรป EURO 5 ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด SKYACTIV-DRIVE พร้อมโหมดขับขี่ Sport ที่มีเฉพาะในรุ่นเครื่องยนต์เบนซินเท่านั้น
ระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด Skyactiv-Drive พร้อมโหมด M, ระบบ i-stop (idling stop system) และระบบช่วยประหยัดน้ำมันอัจฉริยะ i-ELOOP หรือระบบเปลี่ยนรูปพลังงานที่สูญเสียจากการชะลอหยุดรถกลับมาใช้ ที่ทำงานร่วมกับเทคโนโลยีสกายแอคทีฟเพื่อให้การประหยัดน้ำมันที่ดีขึ้น, ระบบถุงลมนิรภัยด้านหน้าในส่วนของผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้า, ระบบควบคุมเสถียรภาพและการทรงตัวของรถ Dynamic Stability Control (DSC) ระบบป้องกันล้อล็อค 4W-ABS เป็นต้น ราคาเริ่มต้นอยู่ 550,000 บาท
ซูซูกิ สวิฟท์ อาร์เอ็กซ์
ซูซูกิ สวิฟท์ อาร์เอ็กซ์ ยังคงความโดดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ด้วยดีไซน์ภายนอกใหม่ทั้งด้านหน้าและด้านหลังด้วยชุดโคมไฟหน้าแบบไบ-ซีนอน พร้อมระบบปรับระดับความสูงไฟหน้าอัตโนมัติ ส่วนด้านท้ายมาพร้อมโคมไฟท้ายใหม่ เพิ่มสปอยเลอร์พร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 และป้ายสัญญาลักษณ์ RX ที่ประตูท้าย
ภายในห้องโดยสารได้รับการปรับให้โฉบเฉี่ยว และสปอร์ตยิ่งขึ้น ห้องโดยสารยังคงรูปแบบเหมือนเดิม แต่เปลี่ยนลายผ้าใหม่ พร้อมเย็บด้วยการเดินตะเข็มคู่ อีกจุดหนึ่งที่ถือเป็นไฮไลต์ของปรับเปลี่ยน คือการเพิ่มฟังก์ชั่นการใช้งานด้วยแป้น Paddle Shift ที่พวงมาลัย และเปลี่ยนชุดคันเกียร์ใหม่โดยเพิ่มตำแหน่ง M ที่สามารถปรับเปลี่ยนเกียร์ได้ 7 สปีดตามความต้องการ โดยจะมีการล็อครอบการทำงานของเครื่องยนต์ในแต่ละเกียร์ไว้ที่ประมาณ 5,800 รอบ เพื่อป้องกันความเสียหายของระบบเกียร์และตัวเครื่องยนต์
เครื่องยนต์แบบ 4 สูบแถวเรียงขนาด 1.25 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 91 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ แรงบิดสูงสุด 118 นิวตันเมตร ที่ 4,800 รอบ พร้อมระบบเกียร์ที่สามารถเลือกเปลี่ยนเกียร์ได้ที่ Paddle Shift ที่ติดตั้งบนพวงมาลัย ราคา 599,000 บาท
ฟอร์ด เฟียสต้า อีโคบู๊สต์
ภายนอกออกแบบให้โดดเด่นจากกระจังหน้ารูปสี่เหลี่ยมคางหมู เอกลักษณ์ใหม่ของรถยนต์ระดับโลกภายใต้แบรนด์ฟอร์ด ตัดขอบด้านข้างด้วยไฟหน้าที่โฉบเฉี่ยว กระโปรงหน้ารถนูนขึ้นแบบเพาเวอร์โดมเพิ่มความแตกต่าง ไฟท้ายรถถูกออกแบบให้มีรายละเอียดเพื่อให้เข้ากับไฟหน้า ด้านหลังติดสปอยเลอร์แบบใหม่ให้ความรู้สึกสปอร์ต แผงคอนโซลหน้าได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากโทรศัพท์เคลื่อนที่ พวงมาลัยแบบหุ้มหนังพร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียงตอกย้ำความทันสมัย แผงควบคุมอุปกรณ์ภายในตัดขอบด้วยวัสดุเคลือบเงาให้ความรู้สึกลื่นไหลด้วยเส้นสายที่เชื่อมต่อไปยังคอนโซลกลาง แผงควบคุมอุปกรณ์แบบ 2 สีทูโทน ในการออกแบบเบาะนั่ง ฟอร์ดใช้หนังผสมลายผ้าที่สะดุดตาแบบสปอร์ต รวมทั้งการเดินตะเข็บสีตัดกับตัวเบาะสร้างความเร้าใจในการขับขี่
ฟอร์ด เฟียสต้า อีโคบู๊สต์ ยังเพิ่มอุปกรณ์อำนวยความสะดวกในการขับขี่ต่าง ๆ มากมาย เช่น อุปกรณ์เชื่อมต่อการสื่อสาร ผ่านระบบฟอร์ด ซิงค์ พรั่งพร้อมด้วยความบันเทิงที่สร้างขึ้นเพื่อคนในยุคดิจิตัล เช่นเดียวกับอุปกรณ์ความปลอดภัยที่ดีที่สุดในรถระดับเดียวกัน รวมทั้งระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ทั้งเซ็นเซอร์ถอยจอด ช่วยตรวจจับวัตถุที่อยู่ด้านหลัง และระบบช่วยออกตัวในทางลาดชัน เครื่องยนต์อีโคบู๊สต์ 1.0 ลิตร มีพละกำลังมากถึง 125 แรงม้า ให้แรงบิดสูงถึง 170 นิวตัน-เมตร ระบบส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ เพาเวอร์ ชิฟท์ 6 สปีดแล้ว ช่วยให้อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันอยู่ที่ 18.9 กม./ลิตรหรือประหยัดน้ำมันเพิ่มขึ้น 20% เทียบกับเครื่องยนต์ขนาดใหญ่กว่า แต่ปล่อยคาร์บอนมอนอกไซด์เพียง 121 กรัม/กม. ราคาเริ่มต้นที่ 644,000 บาท
โดนใจวัยรุ่นกันไปแล้วกับรถใหม่สไตล์วัยทีน เรียกว่าเป็นรถยนต์ราคาถูกหรือประหยัดแต่ดีไซน์โอเคเลย ที่สำคัญคือความปลอดภัยในการขับขี่ เพิ่มความคุ้มครองให้กับรถคุณมากขึ้น ด้วยบริการความคุ้มครองประกันรถยนต์จากรู้ใจดอทคอม คลิกเช็คเบี้ย! และซื้อประกันชั้น 1 กับรู้ใจดอทคอม รับฟรี! บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน กรณีรถเสียฟรี 1 ปี