หลายคนหวังว่าร่มไม้จะช่วยบังแดดร้อน ๆ ให้รถ จึงเลือกจอดรถใต้ต้นไม้ แต่ต้องกลายมาหนึ่งในอุบัติเหตุที่ไม่มีใครคาดคิด เช่น ต้นไม้หักใส่รถจนเกิดความเสียหาย แล้วแบบนี้จะเคลมประกันรถยนต์ได้มั้ย ทั้งในวันธรรมดา วันที่ฝนตกหนักพายุเข้าลมแรง ซึ่งการเกิดอุบัติเหตุลักษณะนี้ สรุปแล้วสามารถแจ้งเคลมประกันได้หรือเปล่า ตามรู้ใจไปหาคำตอบพร้อม ๆ กันเลยในบทความนี้
สนใจอ่านแค่บางเรื่อง ก็เลือกได้เลย!
- ต้นไม้ล้มใส่รถ แบบนี้ใครจะเป็นคู่กรณี?
- ภัยธรรมชาติทำต้นไม้หล่นทับรถ ประกันชั้นไหนคุ้มครองบ้าง?
- ป้องกันต้นไม้หักล้มใส่รถได้อย่างไรบ้าง?
- จอดรถใต้ต้นไม้ อันตรายกว่าที่คิด
- จุดไหนเสี่ยงควรเลี่ยงจอดรถ?
ต้นไม้ล้มใส่รถ แบบนี้ใครจะเป็นคู่กรณี?
เมื่อเกิดอุบัติเหตุต่าง ๆ แล้วคุณเป็นฝ่ายถูก และเกิดการแจ้งเคลมประกันขึ้น บริษัทจะเรียกค่าสินไหมจากคู่กรณี (ฝ่ายผิด) ซึ่งในกรณี “ต้นไม้หักล้มทับรถ” แบบนี้ คู่กรณีจะเป็นใคร รู้ใจยก 3 ประเด็นที่ควรทำความเข้าใจมาให้แล้ว ไปดูวิธีเคลมประกันรถยนต์กันเลยดีกว่า
1. ต้นไม้ของหน่วยงานราชการ
หากต้นไม้ที่ล้มทับรถของคุณ อยู่ในความดูแลของหน่วยงานราชการ หน่วยงานนั้น ๆ จะถือเป็นคู่กรณี และคุณสามารถเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจากคู่กรณีได้ นอกจากนี้ยังสามารถเรียกค่าสินไหมทดแทนในส่วนของ “ค่ารักษาพยาบาล” (หากมีผู้ได้รับบาดเจ็บ) ได้อีกด้วย
2. จอดรถในที่ห้ามจอด
ต้องขอย้ำอีกครั้งว่าเหตุการณ์ต้นไม้หักล้มทับรถ เป็นเหตุการณ์ที่สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสถานการณ์ แต่ถ้าหากเหตุการณ์นั้น ๆ เกิดจาก “ความประมาท” ของเจ้าของรถหรือผู้เอาประกันเอง เช่น จอดรถในที่ห้ามจอดจนโดนต้นไม้หักล้มใส่รถ
บอกไว้ตรงนี้เลยว่า “เจ้าของรถหรือผู้เอาประกัน จะไม่สามารถเรียกร้องค่าสินไหมมทดแทนจากคู่กรณีได้” แถมยังต้องเป็นฝ่ายรับผิดชอบค่าเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมดอีกด้วย
3. ต้นไม้ที่ล้มทับไม่มีเจ้าของ
นอกจากต้นไม้ล้มทับรถจะเกิดจากความประมาทได้แล้ว ก็ยังเป็น “เหตุสุดวิสัย” ได้ด้วย หากต้นไม้ต้นนั้นไม่มีเจ้าของ หาคนปลูกต้นไม้ไม่เจอ แน่นอนว่าเจ้าของรถหรือผู้เอาประกัน “ไม่สามารถเรียกค่าสินไหมจากคู่กรณีได้” แถมยังต้องจ่ายค่าซ่อมรถเองทั้งหมด
ในกรณีที่ 2 และ 3 เมื่อไม่มีคู่กรณี ก็จะไม่มีใครรับผิดชอบในส่วนนี้ แต่ถ้าหากคุณทำประกันรถยนต์ชั้น 1 เอาไว้ ก็ไม่ต้องกังวลใด ๆ เพราะสามารถแจ้งเคลมประกันได้เพราะประกันรถยนต์ชั้น 1 จะคุ้มครองทั้งมีและไม่มีคู่กรณี แต่ประกันอื่น ๆ ไม่ว่าประกันชั้น 2, 2+, 3 หรือ 3+ ก็ไม่สามารถแจ้งเคลมได้
ภัยธรรมชาติทำต้นไม้หล่นทับรถ ประกันชั้นไหนคุ้มครองบ้าง?
กรณีที่ต้นไม้หักทับรถจาก “เหตุสุดวิสัย” เช่น พายุเข้า แผ่นดินไหว ซึ่งเป็นภัยธรรมชาติ อย่างที่บอกว่าประกันชั้น 1 สามารถเคลมประกันรถยนต์ได้ พูดง่าย ๆ ว่าต่อให้ไม่รู้ว่าเจ้าของต้นไม้คือใคร หรือเกิดจากเหตุการณ์ใด ๆ ก็สามารถดำเนินการเคลมประกันได้ หากเหตุการณ์นั้นเป็นผลจากภัยธรรมชาติ แต่ในส่วนของประกันภัยรถยนต์ชั้นอื่น ๆ เช่น ชั้น 2, 2+, 3 และ 3+ ที่ให้ความคุ้มครองรองลงมา จะไม่คุ้มครองกรณีต้นไม้ล้มทับรถจากภัยธรรมชาติ รวมถึงการเคลมประกันรถยนต์ไม่มีคู่กรณี อย่างไรก็ตามให้สอบถามรายละเอียด และเงื่อนไขการรับประกันให้ดีก่อนทุก ๆ ครั้งที่ต้องทำหรือต่อประกันรถยนต์
ป้องกันต้นไม้หักล้มใส่รถได้อย่างไรบ้าง?
หากไม่อยากมานั่งปวดหัวกับการเคลมประกันไม่มีคู่กรณี สามารถเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ด้วยการ “ป้องกันรถจากอุบัติเหตุ” ที่อาจเกิดขึ้น โดยมีวิธีป้องกันที่คุณเองก็สามารถทำตามได้ง่าย ๆ ดังนี้
1. ตรวจสภาพอากาศก่อนออกจากบ้าน
โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน ที่มีความเป็นไปได้สูงมาก ๆ ที่จะเกิดลมพายุ ฝนฟ้าคะนอง น้ำท่วม จนเป็นเหตุทำให้ต้นไม้ กิ่งไม้หล่นใส่รถได้ แนะนำให้ตรวจสอบสภาพอากาศก่อน ว่ามีลมแรงไหม วันนี้ฝนจะตกหนักหรือเปล่า เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
2. เลือกจุดจอดที่ปลอดภัย
หากต้องออกไปทำธุระข้างนอก และต้องจอดรถข้างทาง หรือสถานที่ที่มีต้นไม้เต็มไปหมด แนะนำให้หลีกเลี่ยงการจอดใต้ต้นไม้ใหญ่ เพราะถึงแม้ว่าต้นไม้จะไม่หล่นทับรถ แต่กิ่งไม้เล็ก ๆ อาจร่วงใส่หลังคารถได้ ยิ่งในช่วงที่สภาพอากาศแปรปรวน ฝนตก ลมแรง ยิ่งไม่ควรจอดรถใต้ต้นไม้เด็ดขาด เพราะอาจทำให้รถยนต์ได้รับความเสียหาย เนื่องจากต้นไม้ล้มทับรถได้นั่นเอง
3. ทำประกันรถยนต์
แม้ว่าการทำประกันรถยนต์จะไม่ใช่วิธีป้องกันทางตรง แต่ก็ถือเป็นวิธีป้องกัน “ทางอ้อม” ที่ดีมาก ๆ เพราะจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายเมื่อเกิดการเรียกร้องค่าสินไหมจากคู่กรณีไม่ได้ บริษัทประกันก็จะเข้ามามีบทบาทในการรับผิดชอบค่าเสียหายที่เกิดขึ้น
หรือในกรณีที่ต้นไม้มีเจ้าของ ทางบริษัทฯ ก็จะดำเนินการไล่สืบหาผู้กระทำผิดมาชดใช้ค่าเสียหาย โดยที่คุณไม่ต้องลงมือลงแรงเองเลยสักนิด แถมยังช่วยให้รู้สึกอุ่นใจตลอดการเดินทางอีกด้วย
จอดรถใต้ต้นไม้ อันตรายกว่าที่คิด
เชื่อว่าหลายคนมักปลูกต้นไม้ไว้บริเวณบ้าน เพื่อให้ร่มเงาทั้งกับตัวบ้านและตัวรถยนต์ โดยที่ลืมนึกไปถึงข้อเสียที่จะตามมา นอกจากจะเกิดเหตุการณ์ต้นไม้ล้มทับรถได้แล้วยังอาจเกิดอันตรายอื่น ๆ ตามมาได้อีกด้วย ดังนี้
- กลิ่นเหม็น ต้นไม้บางชนิดมีกลิ่นที่ค่อนข้างรุนแรง หากจอดรถใต้ต้นไม้เป็นเวลานาน ๆ อาจทำให้กลิ่นเหม็นติดรถได้
- สัตว์เลื้อยคลาน
- น้ำฝน ที่ตกลงมาบนต้นไม้ อาจชะล้างสิ่งสกปรกต่าง ๆ ตกลงมาบนรถ ทำให้รถเปื้อนหรือเกิดรอยต่าง ๆ ได้
- ความชื้น ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า “ต้นไม้คลายความชื้นออกมาตลอด” และความชื้นดังกล่าวอาจทำให้สีรถซีดจาง หรือเกิดคราบเชื้อราได้
- ขี้นกหรือยางต้นไม้ พวกนี้มีฤทธิ์เป็นกรดที่สามารถ “กัดกร่อน” ทำให้สีรถยนต์ของคุณได้รับความเสียหายได้ไม่ยากเลย
จุดไหนเสี่ยงควรเลี่ยงจอดรถ?
เมื่อเข้าใจว่าการจอดรถใต้ต้นไม้เป็นจุดเสี่ยงที่ควรเลี่ยงจอดรถ เพราะอาจทำให้รถยนต์ได้รับความเสียหาย รวมถึงอาจแจ้งเคลมประกันไม่ได้หากไม่ใช่ประกันชั้น 1 ทีนี้ลองมาดูจุดเสี่ยงอื่น ๆ เพิ่มเติมเพื่อให้รถยนต์ปลอดภัยมากขึ้น
- เสาไฟฟ้า – เสาไฟฟ้ามีสายไฟกำลังสูง หากเกิดพายุหรือลมแรง สายไฟอาจชำรุดและหล่นลงมาทับรถได้ ทำให้รถได้รับความเสียหายจึงควรเลี่ยงจอดบริเวณนี้
- พื้นที่ก่อสร้าง – เศษวัสดุก่อสร้างอาจปลิวหรือกระเด็นมาโดนรถ ก่อให้เกิดความเสียหายได้
- ป้ายโฆษณา – ป้ายโฆษณาอาจหักโค่นลงมาทับรถ หรือเศษวัสดุจากป้ายอาจร่วงหล่นใส่รถ
- ใกล้ท่อระบายน้ำ – ในวันฝนตกหนัก น้ำอาจท่วมขังและซึมเข้ารถ ก่อให้เกิดความเสียหาย นอกจากนี้ยังเสี่ยงต่อความเสียหายจากสัตว์ในท่อระบายน้ำอีกด้วย
ถึงแม้ว่าบางอย่างจะสามารถเคลมประกันแบบไม่มีคู่กรณีได้ (ประกันชั้น 1) แต่เลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยงจะดีกว่า เพราะแต่ละบริษัทมีเงื่อนไขและวิธีเคลมประกันที่ต่างกันออกไป ในบางครั้งคุณเองอาจต้องควักเงินจ่ายเพิ่มเติม โดยเฉพาะค่า Excess ตามจุดความเสียหายที่เกิดขึ้นด้วยเช่นกัน
หากใครที่ชอบจอดรถใต้ต้นไม้บ่อย ๆ เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ คงรู้แล้วว่าก่อนจอดใต้ต้นไม้เพื่อหวังไม่ให้รถร้อน อีกแง่ความเสี่ยงที่คุณอาจต้องเจอคืออะไร โดยเฉพาะคนที่ไม่อยากเสียเวลาแจ้งเคลมประกันรถยนต์ หรือปวดหัวกับประเด็นอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างแจ้งเคลมประกัน ดังนั้นก่อนจะจอดรถบริเวณไหน ๆ ก็ตาม ควรให้ความสำคัญกับ “ความปลอดภัย” เป็นอันดับแรก ๆ เพราะบางครั้ง “ร่มเงา” อาจไม่ได้เป็นมิตรกับรถยนต์ของคุณเสมอไป
สามารถติดตามข่าวสาร สาระความรู้เกี่ยวกับสุขภาพ รถยนต์ มอเตอร์ไซค์ รวมถึงประกันภัยออนไลน์ต่าง ๆ จากรู้ใจได้ที่ Facebook Page: Roojai หรือคลิกที่นี่เพื่อเพิ่มเราเป็นเพื่อนใน LINE ได้เลย (Official Line ID: @roojai)
คำจำกัดความ
ภัยธรรมชาติ | เหตุการณ์หรือปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ซึ่งสร้างความเสียหายโดยไม่คาดคิด |
ประมาท | ขาดความรอบคอบ, เลินเล่อ, ขาดความระมัดระวังเพราะทะนงตัว |
เหตุสุดวิสัย | ภาวะที่พ้นความสามารถที่ใครจะป้องกันได้ |
เลินเล่อ | ขาดความระมัดระวัง หรือไม่รอบคอบ |