รถยนต์ถือว่าเป็นของรักของหวงชิ้นหนึ่งของคนเราเพราะเป็นทั้งเครื่องมือในการทำมาหากินเป็นทั้งพาหนะที่ช่วยให้การเดินทางมีความสะดวกสบาย ไปดูกันว่าสำหรับรถยนต์คันรักโดยเฉพาะรถใหม่ๆ ที่เพิ่งมีอายุการใช้งานเพียงไม่กี่ปีควรจะซื้อประกันภัยรถยนต์ประเภทไหนดี
ในเมื่อรถยนต์ยังมีอายุการใช้งานเพียงไม่กี่ปีเรียกว่ายังใช้งานได้ไม่คุ้มราคา เพื่อความมั่นใจ อุ่นใจ และสบายใจว่าหากมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นรถยนต์จะได้รับการซ่อมให้กลับมามีสภาพที่ดีเหมือนเดิม หรือในอีกมุมหนึ่งหากจำเป็นต้องซ่อมรถให้คู่กรณีก็ยังมีผู้ทำหน้าที่รับผิดชอบความเสียหายให้ ไม่กระทบต่อภาระค่าใช้จ่ายเพราะรถใหม่หลายๆ คันยังมีภาระเรื่องการผ่อนชำระอยู่ด้วย
ดังนั้นใครที่ใช้รถใหม่หรือผู้ใช้รถทั่วไปที่กำลังพิจารณาเพื่อซื้อประกันภัยให้กับรถของตนเอง มาทำความรู้จักประกันภัยรถยนต์แต่ละประเภทกันหน่อยว่าให้คุ้มครองอะไรบ้าง
ประเภท 1 : ให้ความคุ้มครอง การชนที่ไม่มีคู่กรณี, การชนแบบมีคู่กรณี, ความเสียหายของคู่กรณี, รถหาย/ถูกโจรกรรม, ภัยธรรมชาติ/น้ำท่วม และกระจกแตก
ประเภท 2+ : ให้ความคุ้มครอง การชนแบบมีคู่กรณี, ความเสียหายของคู่กรณี, รถหาย/ถูกโจรกรรม และภัยธรรมชาติ/น้ำท่วม
ประเภท 3+ : ให้ความคุ้มครอง การชนแบบมีคู่กรณี และความเสียหายของคู่กรณี
ประเภท 2 : ให้ความคุ้มครอง ความเสียหายของคู่กรณี และรถหาย/ถูกโจรกรรม
ประเภท 3 : ให้ความคุ้มครอง ความเสียหายของคู่กรณี
เมื่อดูรายละเอียดความคุ้มครองหลักๆ ของประกันภัยรถยนต์แต่ละประเภทจะเห็นว่า หากต้องการความคุ้มครองค่าซ่อมทั้งรถของตนเองและคู่กรณีก็จะมีให้เลือก 3 ประเภทคือ ประเภท 1, 2+ และ 3+
แต่ถ้าคำนึงถึงการได้รับความคุ้มครองในเรื่องของรถหาย/ถูกโจรกรรมด้วยเนื่องจากเป็นรถใหม่ซึ่งมีความเสี่ยงค่อนข้างสูง อีกทั้งตามสถิติหากรถหายมีโอกาสน้อยมากที่จะได้คืน ก็จะเหลือตัวเลือกเพียง 2 ทางคือ ประเภท 1 และ 2+ และแน่นอนว่าหากต้องความคุ้มครองสูงสุดก็ต้องเป็นประเภท 1 เท่านั้น ซึ่งให้ความคุ้มครองการชนแบบที่ไม่มีคู่กรณีรวมไปถึงกระจกบังลมหน้าด้วย
Roojai อยากจะแนะนำว่าสำหรับรถใหม่ที่มีอายุประมาณ 1-3 ปีนั้น การได้รับความคุ้มครองการชนแบบที่ไม่มีคู่กรณีและค่าเสียหายเมื่อกระจกหน้าแตกหรือร้าวซึ่งมีโอกาสเกิดขึ้นได้ เป็นความคุ้มครองที่คุ้มค่าอีกทั้งยังส่งผลต่อความสบายใจในการใช้รถอย่างมาก
ที่สำคัญผู้ซื้ออาจยังไม่ทราบว่าบางครั้งการเลือกซื้อประกันประเภท 1 ไปเลยอาจจะไม่ได้มีค่าเบี้ยที่สูงกว่าประเภท 2+ สักเท่าไร ส่วนต่างอาจมีเพียงเล็กน้อยเท่านั้นเมื่อเปรียบเทียบกับความคุ้มครองที่จะได้รับเพิ่ม
ในเบื้องต้นลูกค้าสามารถตรวจสอบค่าเบี้ยด้วยตนเองก่อนได้ทางเว็บไซต์ของ Roojai หากคิดว่าค่าเบี้ยสูงเกินไปสามารถติดต่อขอคำปรึกษากับเจ้าหน้าที่เพื่อให้เสนอราคาใหม่ที่มีค่าเบี้ยถูกลง การซื้อประกันภัยกับ Roojai มีความยืดหยุ่นและยึดความต้องการของลูกค้าเป็นสำคัญ ไม่เพียงเท่านั้นยังมีการอำนวยความสะดวกในการผ่อนชำระให้ด้วย สามารถผ่อนชำระได้นานถึง 10 งวด ยิ่งทำให้การซื้อประกันภัยประเภท 1 เป็นเรื่องง่ายมากยิ่งขึ้น
หากซื้อประกันภัยประเภท 1 ตอนนี้รับไปเลย ฟรี! บริการช่วยเหลือฉุกเฉินกรณีรถเสียให้ด้วย ให้บริการทุกเส้นทางทั่วประเทศ 24 ชั่วโมง คุ้มกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว