การโดนงัดรถแต่ละครั้งนอกจากของจะหายแล้วอาจต้องเสียเวลานำรถเข้าศูนย์เนื่องจากตรงบริเวณที่โดนงัดบุบ พัง หรือกระจกอาจแตกไปเสียหาย แต่ถ้าหากคุณกำลังอยู่ในสถานการณ์เหล่านั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดตอนนี้คือการดูแลตัวเอง
รูปแบบของโจรในการงัดรถที่ควรรู้
1. ใช้ลวดแข็งเกี่ยวที่ตัวล็อกประตู
ซึ่งวิธีการของขโมยก็คือจะใช้ลวดเชื่อมยาวๆเบอร์แข็งๆ ดัดทำเป็นตัวยู แล้วทำการงัดยางรีดน้ำประตูออก จากนั้นใช้ลวดแยงเข้าไปให้ตะขอเกี่ยวกับปุ่มกดล็อกให้เด้งขึ้น แค่นี้ก็ทำเสร็จภายในไม่กี่วินาทีแล้ว
2. ใช้กุญแจปลอม
หลายคนอาจคิดไม่ถึงว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร ซึ่งวิธีการที่ผู้ร้ายใช้ทุกวันนี้ก็คือ การแอบปั๊มกุญแจเวลาที่เรานำรถไปจอดซ่อม ซิ้อรถมือสองจากเต็นท์ (ที่ไม่น่าไว้ใจ) ไปล้างอัดฉีด หรือแกล้งติดต่อซื้อรถทางอินเทอร์เน็ต แล้วแอบมาปั๊มลูกกุญแจเวลาเจ้าของเผลอ เป็นต้น
3. ใช้เหล็กแข็งแทนกุญแจ
วิธีนี้คนร้ายจะใช้เหล็กขนาดเท่ากุญแจรถแต่เป็นเหล็กแข็ง ซึ่งอาจดัดแปลงมาจากประแจหกเหลี่ยมมุมฉากสแตนเลสที่มีความแข็ง แล้วตีเข้าที่รูกุญแจ ใช้แรงบิดจนชุดฟันเฟืองเสียหาย จากนั้นหมุนจนตัวล็อกเปิดออก นี่ก็เป็นวิธียอดฮิตอีกเช่นกัน
นอกจาก 3 วิธีนี้ก็ยังมี การงัดประตูหูช้าง การใช้น้ำกรด ทุบกระจก ช็อตวงจรไฟฟ้า จูนสัณญาณจากรีโมท เป็นต้น ซึ่งทุกวิธีที่โจรทำก็มักส่งผลเสียต่อรถของเราด้วย หลายคนจึงอาจสงสัยว่า เมื่อโดนงัดรถแล้วประกันจ่ายหรือไม่ เรามีคำตอบมาเฉลยเช่นกัน
เมื่อโดนงัดรถ ประกันจ่ายหรือไม่?
ปกติแล้วประกันรถยนต์จะ มี 2 ประเภทคือประกันรถยนต์ภาคบังคับและภาคสมัครใจ สำหรับประกันรถยนต์ภาคบังคับคือ พ.ร.บ. รถยนต์ที่จะคุ้มครองและดูแลเรื่องค่ารักษาพยาบาลที่เกิดขึ้นจากอุบัติเหตุ
แต่ถ้าต้องการให้ดูแลเรื่องความเสียหายต่อตัวรถยนต์เสียหายหรือทรัพย์สินจากการโจรกรรมนั้น ต้องซื้อเพิ่มจากประกันภาคสมัครใจ ที่บ่งบอกว่าจ่ายชดเชยค่าสินไหมในกรณีเหล่านี้
และเมื่อเราโดนงัดรถ หรือได้รับความเสียหายจากการงัดรถ ก็สามารถนำรถเข้าซ่อมหรือเบิกค่าสินไหมได้เช่นกัน
ทำความเข้าใจง่ายๆ ด้วย 2 คำถามนี้
รถเสียหายจากการงัด ประกันชั้นไหนคุ้มครองบ้าง?
คำตอบ: ประกันรถยนต์ชั้น 1, 2 และ 2+ เท่านั้น โดยเราสามารถเคลมประกันได้เฉพาะส่วนที่เสียหายของรถยนต์และทรัพย์สินที่ติดมากับรถยนต์ (จำพวกเครื่องเสียง วิทยุ) โดยต้องมีหลักฐานชัดเจนว่าเกิดจากการลักทรัพย์ ชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์ ไม่ใช่เกิดจากการชน
แต่ถ้าถามถึงทรัพย์สินอย่างอื่น เช่น คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์สื่อสาร กล้องถ่ายรูป หรืออื่นๆ ที่อยู่ในรถยนต์ ไม่สามารถเคลมประกันได้ หากต้องการให้คุ้มครองส่วนนี้ต้องซื้อความคุ้มครองพิเศษเพิ่มเติมเท่านั้น
ถ้ารถหาย ประกันชั้นไหนคุ้มครองบ้าง?
คำตอบ: ประกันรถยนต์ชั้น 1, 2 และ 2+ สามประเภทนี้เท่านั้น
แต่ทั้งนี้การไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ดีที่สุด ด้วยการป้องกันภัยเบื้องต้นกับรถดังนี้
วิธีป้องกันการโดนงัดรถเบื้องต้น
- ไม่จอดรถในที่เปลี่ยว ลับตาคน
หรือจอดค้างคืนไว้เป็นเวลานานจนคนร้ายจับจุดขโมยได้ นอกจากนี้หากเป็นการฝากจอดในสถานที่ฝากรถ ก็ควรเลือกสถานที่ที่มีการป้องกันขโมยอย่างแน่นหนา เช่นมีกล้องวงจรปิด มียามคอยเฝ้า เป็นต้น
- ป้องกันการถูกปั๊มกุญแจ
ด้วยการนำรถไปซ่อมตามอู่ที่น่าเชื่อถือ นำรถไปล้างในร้านที่ไว้ใจได้หรือสนิทกัน ระหว่างล้างรถพยายามนั่งดูอยู่ด้วย เพื่อไม่ให้เป็นการเปิดโอกาสให้คนร้ายนำกุญแจไปปั๊ม ที่สำคัญอย่าวางหรือลืมกุญแจทิ้งไว้ ในทุกๆสถานที่
- ไม่นำทรัพย์สินมีค่าวางไว้ในรถ
เพราะจะกลายเป็นสิ่งล่อตาล่อใจคนร้าย เพราะคนร้ายบางคนอาจต้องการงัดรถเพื่อเอาสิ่งของมีค่าที่ซ่อนอยู่ภายในเท่านั้น
- ติดฟิล์มทึบ
ทั้งนี้ก็เพื่อไม่ให้คนร้ายมองเข้ามาเห็นภายในได้ อย่างน้อยก็จะช่วยให้คนร้ายรู้สึกไม่กล้างัดรถในระดับหนึ่ง
- ติดสัญญาณกันขโมย
เป็นเรื่องที่จะมองข้ามไม่ได้เลยทีเดียว ซึ่งจะช่วยป้องกันการถูกงัดรถได้ดีไม่แพ้การมียามเฝ้า นั่นก็เพราะเมื่อมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นกับรถ ก็จะเกิดเสียงดังขึ้นมา ทำให้เราทราบว่ารถกำลังจะถูกโจรกรรม และโดยธรรมชาติของโจรแล้ว เมื่อรถมีเสียงดังเกิดขึ้นก็จะรีบหนีไปทันที จึงไม่ทำให้รถถูกขโมยไปนั่นเอง
หากสามารถทำได้แบบนี้ทุกข้อก็จะสามารถป้องกันภัยจากการงัดรถเบื้องต้นได้ ดังนั้น “กันไว้ดีกว่าแก้” น่าจะเป็นทางที่ดีที่สุด
แล้วจะอุ่นใจยิ่งกว่า ถ้าคุณมีประกันรถไว้คุ้มครองอีกชั้น จ่ายเบี้ยเบา ๆ แต่คุ้มครองหนักจากเหตุการณ์รถหาย อย่างเช่นประกันรถออนไลน์ของ Roojai.com คุ้มเกินคาด ราคาประหยัด คุ้มครองจัดเต็ม