เปลี่ยนชื่อต้องแจ้งประกันรถยนต์มั้ย? ถ้าข้อมูลผิดต้องทำยังไง? กรมธรรม์หายทำไงดี? เชื่อว่าหลายคนคงเจอปัญหาเหล่านี้เมื่อเราทำประกันรถยนต์ อาจมีเลขทะเบียนรถผิดพลาด ค่าเบี้ยประกันผิด หรือเราดันเปลี่ยนที่อยู่ แล้วต้องทำยังไง เพราะข้อมูลกรมธรรม์หากผิดหรือมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลในกรมธรรม์ บางครั้งส่งผลถึงผลประโยชน์และความคุ้มครองของคุณ และอาจทำให้คุณไม่ได้รับความคุ้มครอง เคลมประกันรถไม่ได้ หรือเสียผลประโยชน์บางอย่างไป โดยมีรายละเอียดที่น่ารู้คือ
- กรมธรรม์ คืออะไร?
- ใบสลักหลังกรมธรรม์ คืออะไร?
- เมื่อไหร่ที่ต้องขอใบสลักหลังกรมธรรม์?
- ขอใบสลักหลังกรมธรรม์ ต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง?
- ข้อมูลในกรมธรรม์ผิดหรือต้องการเปลี่ยนแปลง ต้องทำยังไง?
- หากข้อมูลไม่ตรง จะเคลมประกันรถได้มั้ย?
ทุกการทำประกันภัยการตรวจสอบความถูกต้องของเงื่อนไขและข้อตกลง รวมถึงอัปเดตข้อมูลให้เป็นปัจจุบัน เป็นสิ่งที่สำคัญเพื่อที่คุณจะไม่ต้องเสียสิทธิ์หรือผลประโยชน์ที่คุณควรได้ อย่าลืมเช็คกรมธรรม์ของคุณว่ามีความผิดพลาดมั้ย มาเรียนรู้ไปพร้อมกันเลย
กรมธรรม์ คืออะไร?
กรมธรรม์ คือ เอกสารที่บริษัทประกันออกให้ผู้เอาประกันเพื่อใช้เป็นหลักฐานการทำประกัน โดยทางบริษัทจะเก็บไว้ 1 ฉบับ และมอบให้กับผู้เอาประกัน 1 ฉบับ ภายในกรมธรรม์จะมีข้อมูลกรมธรรม์ที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็นชื่อผู้เอาประกัน เลขที่กรมธรรม์ วันเริ่มความคุ้มครอง วันสิ้นสุดความคุ้มครอง ค่าเบี้ยประกันภัยรถยนต์ รวมไปถึงผลประโยชน์ที่ผู้เอาประกันจะได้รับ ฯลฯ ซึ่งหากมีความจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงข้อมูลในกรมธรรม์ เราต้องขอให้บริษัทประกันออกใบสลักหลลังกรมธรรม์ให้กับเรา
ใบสลักหลังกรมธรรม์ คืออะไร?
ใบสลักหลังกรมธรรม์ประกันรถยนต์ คือ เอกสารแนบท้ายกรมธรรม์ ที่บริษัทประกันภัยรถยนต์ออกให้กับผู้เอาประกันอีก 1 รอบ เมื่อต้องเปลี่ยนแปลง/แก้ไข/เพิ่มเติม ข้อความหรือเงื่อนไขใด ๆ หลังจากที่บริษัทออกกรมธรรม์ฉบับจริงเรียบร้อยแล้ว โดยให้เราเก็บไว้ 1 ฉบับ และบริษัทเก็บไว้เอง 1 ฉบับ แนะนำให้อ่านเนื้อหาข้างในของใบสลักหลังให้ละเอียด เพราะถ้าหากข้อมูลผิดพลาด อาจสร้างความลำบากให้คุณเมื่อต้องเคลมประกันรถในอนาคต
เมื่อไหร่ที่ต้องขอใบสลักหลังกรมธรรม์?
การที่คุณจะขอใบสลักหลังจากบริษัทประกันภัยรถยนต์ได้นั้น มี 3 กรณีหลัก ๆ ดังนี้
1. ข้อมูลกรมธรรม์ผิด
หากข้อมูลกรมธรรม์ผิด สิ่งที่ต้องทำคือส่งเรื่องไปยังบริษัทประกันเพื่อขอใบสลักหลัง โดยมีข้อมูลที่ต้องเช็คกรมธรรม์ของเรา ดังนี้
- ชื่อของผู้เอาประกัน
- ชื่อผู้รับผลประโยชน์
- วัน/เดือน/ปี เริ่มความคุ้มครอง
- เลขทะเบียนรถยนต์
- รุ่นรถยนต์
- เลขตัวถังรถยนต์
- เบี้ยประกันรถยนต์
หากข้อมูลนี้ไม่ตรงกับที่แจ้งเอาไว้ ควรรีบติดต่อบริษัทประกันฯ เพื่อขอใบสลักหลังกรมธรรม์ใหม่
2. เปลี่ยนแปลงชื่อในกรมธรรม์
หากกรมธรรม์ไม่ได้มีข้อมูลผิดพลาด แต่ตัวคุณเองต้องการเปลี่ยนชื่อก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน ไม่ว่าการเปลี่ยนชื่อของคุณจะด้วยเหตุผลใด ๆ ก็ตาม เช่น เปลี่ยนเพื่อความเป็นสิริมงคล เปลี่ยนเพราะอยากได้ชื่อใหม่เก๋ ๆ ก็สามารถติดต่อบริษัทเพื่อขอใบสลักหลังกรมธรรม์ได้เลย
3. เปลี่ยนชื่อผู้รับผลประโยชน์
หากคุณผ่อนชำระค่างวดรถยนต์หมดแล้ว และต้องการเปลี่ยนชื่อผู้รับผลประโยชน์เป็นคนอื่น ก็สามารถติดต่อบริษัทประกันเพื่อขอใบสลักหลังได้เช่นกัน แต่คุณจะต้อง “ส่งเอกสารเพิ่มเติม” ให้กับบริษัทฯ เพื่อดำเนินการแก้ไขข้อมูล และเป็นหลักฐานในการยืนยันว่าจะเปลี่ยนเป็นชื่อใคร โดยเตรียมเอกสารให้พร้อมดังนี้
- เอกสารคำร้องขอใบสลักหลังกรมธรรม์
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- สำเนาบัตรประชาชนของผู้รับผลประโยชน์ พร้อมเซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง
ขอใบสลักหลังกรมธรรม์ ต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง?
เมื่อคุณต้องการเปลี่ยนแปลงข้อมูลในกรมธรรม์ คุณสามารถส่งเรื่องไปที่บริษัทฯ ที่ทำประกันรถยนต์เอาไว้ได้เลย รวมถึงเตรียมเอกสารต่าง ๆ ให้ครบถ้วน ดังนี้
1. เปลี่ยนที่อยู่ในกรมธรรม์
- เอกสารคำร้องขอสลักหลังกรมธรรม์
- สำเนาทะเบียนบ้าน หรือสำเนาบัตรประชาชนของผู้เอากรมธรรม์ พร้อมเซ็นสำเนาถูกต้อง เพื่อระบุข้อมูลติดต่อ/ที่อยู่ใหม่ ที่ต้องการขอเปลี่ยนแปลง
2. กรมธรรม์สูญหาย
หากกรมธรรม์หาย คุณจำเป็นจะต้องเดินทางไปแจ้งความเพื่อลงบันทึกประจำวันให้เรียบร้อยก่อน จากนั้นนำหลักฐานการแจ้งความมาแจ้งกับบริษัทประกันฯ เพื่อที่บริษัทจะได้ดำเนินการออกสำเนากรมธรรม์ให้ โดยมีเอกสารดังต่อไปนี้
- คำร้องขอเปลี่ยนกรมธรรม์ โดยแจ้งเหตุที่ทำให้กรมธรรม์สูญหายหรือเสียหาย
- ใบแจ้งความกรมธรรม์สูญหาย
- สำเนาบัตรประชาชน พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง
3. แต่งรถเพิ่มเติม
หากรถยนต์คันที่เอาประกันมีการตกแต่งเพิ่มเติม จะต้องใช้ “ใบเสร็จ/ราคาของอุปกรณ์เพิ่มเติม” เป็นเอกสารในการแจ้งขอใบสลักหลัง ซึ่งนอกจากอาจต้องเพิ่มทุนประกันแล้ว ผู้เอาประกันยังจำเป็นจะต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันภัยรถยนต์เพิ่มอีกด้วย
4. การขอใบสลักหลังแก้ไขรายละเอียดรถยนต์
การแก้ไขรายละเอียดรถยนต์ เช่น ชื่อผู้ครอบครอง ทะเบียนรถ หรือเลขตัวถัง เอกสารที่ต้องใช้คือ สำเนาทะเบียนรถ ทั้งนี้หากต้องการเปลี่ยนแปลงข้อมูลในกรมธรรม์ อย่าลืมส่งเอกสารที่สามารถยืนยันข้อมูลที่ต้องการแก้ไข ไปพร้อมกับยื่นคำร้องด้วย เพื่อให้บริษัทฯ ใส่ข้อมูลตามจริงในใบสลักหลังได้ถูกต้องและครบถ้วน
ข้อมูลในกรมธรรม์ผิดหรือต้องการเปลี่ยนแปลง ต้องทำยังไง?
ถ้าข้อมูลในกรมธรรม์ผิดพลาด หรือคุณต้องการเปลี่ยนแปลงข้อมูล สิ่งที่ควรทำมากที่สุดคือ การติดต่อบริษัทประกันหรือนายหน้าประกันที่คุณทำประกันด้วย เพื่อออกใบสลักหลังกรมธรรม์ที่มีข้อมูลถูกต้องให้คุณอีกครั้ง และหน้าที่ของคุณคือ เช็คกรมธรรม์อย่างละเอียดและรอบคอบ เพื่อให้ได้เอกสารใบสลักหลังกรมธรรม์ที่มีข้อมูลใหม่ที่ถูกต้อง โดยคุณไม่ควรมองข้ามเด็ดขาด เพื่อเป็นการรักษาสิทธิ์ของตัวเอง
หากข้อมูลไม่ตรง จะเคลมประกันรถได้มั้ย?
ข้อมูลของผู้เอาประกันเป็นข้อมูลสำคัญที่มีผลต่อการได้รับความคุ้มครองอย่างมาก รวมถึงการเคลมประกันรถด้วย ดังนั้นการที่ข้อมูลผิดพลาดหรือมีการเปลี่ยนแปลงแม้แต่นิดเดียว ถือเป็นเรื่องที่คุณไม่ควรละเลยเด็ดขาด ควรรีบแจ้งให้บริษัทประกันภัยโดยด่วน
เพราะหากต้องการแจ้งเคลมประกันในอนาคต อาจเกิดปัญหาวุ่นวายตามมาแบบไม่รู้จบ โดยเฉพาะ อาจเคลมประกันไม่ได้หรือถูกปฏิเสธเคลม รวมถึงผลกระทบอื่น ๆ ที่อาจทำให้คุณเข็ดไปอีกนาน เช่น หากรถยนต์ของคุณมีการตกแต่งเพิ่มเติมแล้วไม่ได้แจ้งบริษัทไว้ บริษัทประกันภัยอาจพิจารณาไม่คุ้มครองในส่วนที่ตกแต่งเพิ่มเติมให้หรืออาจได้รับการชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นตามราคากลางของอะไหล่เท่านั้น ไม่ใช่ตามราคาของแต่งที่คุณจ่ายไปสูงกว่า
การเปลี่ยนแปลงข้อมูลกรมธรรม์หรือหากข้อมูลกรมธรรม์ผิด สามารถแจ้งขอใบสลักหลังกรมธรรม์ได้เสมอ แถมยังมีขั้นตอนไม่ยุ่งยากเลยสักนิด เพียงเท่านี้คุณก็จะได้รับความอุ่นใจและความคุ้มครองแบบจัดเต็มตลอดกรมธรรม์ ไม่ต้องมากังวลในเรื่องเคลมประกันรถไม่ได้ หรือได้รับการชดใช้ตามค่าเสียหายตามราคากลาง (หากตกแต่งรถเพิ่มเติมแต่ไม่แจ้ง) และอย่าลืมเช็คกรมธรรม์ของคุณว่ามีความผิดพลาดมั้ย เพื่อผลประโยชน์สูงสุดและความคุ้มค่าของคุณ
สามารถติดตามข่าวสาร สาระความรู้เกี่ยวกับสุขภาพ รถยนต์ มอเตอร์ไซค์ รวมถึงประกันภัยออนไลน์ต่าง ๆ จากรู้ใจได้ที่ Facebook Page: Roojai หรือคลิกที่นี่เพื่อเพิ่มเราเป็นเพื่อนใน LINE ได้เลย (Official Line ID: @roojai)